พบผลลัพธ์ทั้งหมด 32 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2731/2559
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยึดอสังหาริมทรัพย์ครอบคลุมดอกผลนิตินัย (ค่าเช่า) แม้เกิดขึ้นหลังยึด ไม่ขัด ป.วิ.พ. มาตรา 271
ค่าเช่าห้องพักเป็นดอกผลนิตินัยตาม ป.พ.พ. มาตรา 148 วรรคสาม ในการยึดอสังหาริมทรัพย์นั้น ป.วิ.พ. มาตรา 304 วรรคสอง บัญญัติให้ครอบไปถึงเครื่องอุปกรณ์และดอกผลนิตินัยของอสังหาริมทรัพย์นั้นด้วย เว้นแต่จะได้มีกฎหมายบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น เมื่อไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่นแล้ว การที่โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างซึ่งเป็นอสังหาริมทรัพย์ของจำเลยที่ 1 ย่อมครอบไปถึงค่าเช่าอันเป็นดอกผลนิตินัยแห่งทรัพย์นั้นด้วย ไม่ว่าดอกผลนิตินัยนั้นจะมีอยู่ก่อนหรือขณะยึดอสังหาริมทรัพย์ และผู้นำยึดไม่จำต้องแจ้งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทราบถึงความมีอยู่แห่งดอกผลนิตินัยแต่อย่างใด เมื่อโจทก์นำยึดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างภายใน 10 ปี นับแต่วันมีคำพิพากษาแล้วโจทก์ย่อมมีสิทธิขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีอายัดค่าเช่าห้องพัก ซึ่งเป็นดอกผลนิตินัยของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ถูกยึดได้ แม้จะพ้นระยะเวลา 10 ปีแล้วก็ตาม กรณีหาใช่เป็นการอายัดทรัพย์เพิ่มเติมเมื่อพ้นระยะเวลาในการบังคับคดีไม่ การบังคับคดีของโจทก์ชอบด้วยกฎหมายแล้ว ไม่ต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 271
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1894/2546 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิยึดถือโฉนดที่ดินเพื่อประกันหนี้ ไม่ใช่สิทธิยึดหน่วงตามกฎหมาย ทำให้ต้องส่งโฉนดให้เจ้าพนักงานบังคับคดี
ผู้ร้องเป็นผู้ครอบครองโฉนดที่ดินโดยจำเลยผู้เป็นลูกหนี้เงินกู้มอบให้ยึดถือเป็นประกันเงินกู้ ผู้ร้องจึงมีสิทธิยึดถือโฉนดที่ดินไว้เป็นประกันการชำระหนี้เงินกู้จนกว่าจะได้รับชำระหนี้คืนโดยอาศัยข้อตกลงในหนังสือสัญญากู้นั้น แต่สิทธิยึดถือโฉนดที่ดินดังกล่าวเป็นเพียงบุคคลสิทธิบังคับกันได้ในระหว่างคู่สัญญาไม่สามารถใช้ยันแก่บุคคลอื่นได้ส่วนสิทธิยึดหน่วงตาม ป.พ.พ. มาตรา 241 หมายถึง การที่ผู้ครอบครองได้ครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่นและมีหนี้อันเป็นคุณแก่ผู้ครอบครองเกี่ยวด้วยทรัพย์สินที่ครอบครองนั้น หนี้ที่ผู้ร้องมีเป็นเพียงหนี้เงินกู้ที่ผู้ร้องจะได้รับชำระหนี้คืนเท่านั้น หาได้เป็นคุณแก่ผู้ร้องเกี่ยวด้วยที่ดินโฉนดดังกล่าวไม่ เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีทำการบังคับคดีแก่ที่ดินดังกล่าว ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิยึดหน่วงโฉนดที่ดินฉบับพิพาท ผู้ร้องต้องส่งต้นฉบับที่ดินดังกล่าวแก่เจ้าพนักงานบังคับคดีเพื่อทำการบังคับคดีต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6293/2545
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเจ้าหนี้จำนอง vs. เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา: ผู้รับจำนองมีสิทธิได้รับชำระหนี้ก่อนจากทรัพย์สินจำนอง แม้กรรมสิทธิ์จะโอนไปแล้ว
โจทก์ขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินของจำเลยเพื่อนำออกขายทอดตลาดปรากฏว่าโฉนดที่ดินของที่ดินที่ถูกยึดอยู่ในความครอบครองของผู้ร้องในฐานะผู้รับโอนสิทธิเรียกร้องจากเจ้าหนี้เดิมของจำเลย ผู้ร้องย่อมเข้าสวมสิทธิเป็นเจ้าหนี้จำนองในที่ดินผู้ร้องในฐานะผู้รับจำนองชอบที่จะได้รับชำระหนี้จากทรัพย์สินจำนองก่อนเจ้าหนี้สามัญโดยมิพักต้องพิเคราะห์ว่ากรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินจะได้โอนไปยังบุคคลภายนอกแล้วหรือหาไม่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 702 วรรคสอง เพราะการจำนองย่อมติดตามตัวที่ดินไปตลอดจนกว่าผู้ร้องจะได้รับชำระหนี้ แต่การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีขอให้ผู้ร้องส่งมอบโฉนดที่ดินที่จะขายทอดตลาดนั้นถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการบังคับคดีตามคำพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 275,276 ประกอบด้วยมาตรา 304 กรณีเรื่องสิทธิยึดหน่วงโฉนดที่ดินจึงเป็นเรื่องระหว่างผู้ร้องผู้เป็นเจ้าหนี้กับจำเลยผู้เป็นลูกหนี้เท่านั้น ผู้ร้องจะยึดหน่วงโฉนดที่ดินไว้รอจนกว่าจำเลยจะชำระหนี้อันเป็นการกระทบสิทธิโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในอีกคดีหนึ่งที่จะบังคับยึดที่ดินเพื่อขายทอดตลาดหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2169/2545
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยึดที่ดิน: ไม่ต้องนำชี้ทรัพย์ ยึดถูกต้องเมื่อแจ้งการยึดและบันทึกการยึดแล้ว
การยึดที่ดินตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 304ไม่จำต้องให้โจทก์หรือผู้แทนของโจทก์ไปนำชี้ทรัพย์ที่จะยึดเพื่อประทับตราหรือกระทำโดยวิธีอื่นใดเพื่อให้การยึดเห็นประจักษ์เหมือนอย่างกรณีการยึดสังหาริมทรัพย์เหตุที่ระเบียบการบังคับคดีที่มีอยู่เดิมกำหนดให้มีผู้นำยึด โดยผู้นำยึดต้องชี้ทรัพย์ที่จะยึดก็เพื่อประโยชน์ในการปิดประกาศการยึด การทำแผนที่ในประกาศขายทอดตลาดเพื่อให้ผู้ซื้อทรัพย์มีแนวทางในการตรวจสอบสถานที่ตั้งทรัพย์เท่านั้น ซึ่งหากแผนที่ดังกล่าวไม่ถูกต้องก็มิได้ผูกมัดเจ้าพนักงานบังคับคดี ดังนั้นการที่โจทก์หรือผู้แทนโจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปชี้ที่ดินที่จะยึดผิดแปลง ก็ไม่อาจจะถือได้ว่ากรณีเป็นการยึดที่ดินผิดแปลง การนำชี้ผิดเป็นผลเพียงให้มีการปิดประกาศการยึดผิดแปลงเท่านั้น โจทก์มีสิทธิที่จะนำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปตรวจสภาพที่ดินเพื่อนำชี้ที่ดินแปลงที่ถูกต้องใหม่ได้โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการยึดที่ดินแปลงที่ชี้ผิดแล้วไม่มีการขาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1671/2545 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยึดทรัพย์เกินกว่าหนี้ตามคำพิพากษาและการดำเนินการตาม ป.วิ.พ. มาตรา 304
โจทก์เพียงแถลงขอยึดทรัพย์ของจำเลยเพิ่มเพราะยังได้รับชำระหนี้จากจำเลยไม่ครบถ้วนตามคำพิพากษา
แม้เจ้าพนักงานบังคับคดีจะสั่งอนุญาตแต่ก็มีเงื่อนไขว่าต้องไม่เกินยอดหนี้ ทั้งไม่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีและเจ้าพนักงานที่ดินได้ดำเนินการเกี่ยวกับการยึดที่ดินของจำเลยตามคำร้องตามวิธีการที่ ป.วิ.พ. มาตรา 304 บัญญัติไว้แต่อย่างใด ไม่อาจวินิจฉัยได้ว่าเป็นการยึดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาเกินกว่าที่พอจะชำระหนี้หรือไม่ และต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 284 วรรคหนึ่ง ดังจำเลยอ้างหรือไม่ กรณีตามคำร้องยังไม่มีข้อโต้แย้งสิทธิเกิดขึ้น จำเลยจึงไม่อาจใช้สิทธิทางศาลได้
แม้เจ้าพนักงานบังคับคดีจะสั่งอนุญาตแต่ก็มีเงื่อนไขว่าต้องไม่เกินยอดหนี้ ทั้งไม่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีและเจ้าพนักงานที่ดินได้ดำเนินการเกี่ยวกับการยึดที่ดินของจำเลยตามคำร้องตามวิธีการที่ ป.วิ.พ. มาตรา 304 บัญญัติไว้แต่อย่างใด ไม่อาจวินิจฉัยได้ว่าเป็นการยึดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาเกินกว่าที่พอจะชำระหนี้หรือไม่ และต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 284 วรรคหนึ่ง ดังจำเลยอ้างหรือไม่ กรณีตามคำร้องยังไม่มีข้อโต้แย้งสิทธิเกิดขึ้น จำเลยจึงไม่อาจใช้สิทธิทางศาลได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1086/2542
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายทอดตลาดบังคับคดี: ชอบด้วยกฎหมายแม้มีผู้ประมูลรายเดียว และเจ้าพนักงานบังคับคดีมีดุลพินิจอนุมัติราคา
การขายทอดตลาดทรัพย์สินของเจ้าพนักงานบังคับคดีกฎหมายมิได้บัญญัติให้ต้องมีผู้เข้าแข่งขันในการประมูลราคาเมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ประกาศให้ผู้มีส่วนได้เสียรวมทั้ง จำเลยผู้ถูกยึดทรัพย์ทราบโดยชอบแล้ว แม้จะมีผู้เข้าประมูล สู้ราคาเพียงรายเดียว เจ้าพนักงานบังคับคดีย่อมดำเนินการ ขายทอดตลาดต่อไปได้ หาจำต้องรอผู้เข้าประมูลราคา รายอื่นเข้ามาแข่งขันก่อนไม่ เมื่อการขายทอดตลาดในครั้งที่พิพาทมีผู้แทนโจทก์เข้าประมูลสู้ราคาแล้ว การที่ เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการขายทอดตลาดต่อไปจึงชอบแล้ว อีกทั้งไม่จำต้องเรียกขานชื่อจำเลยก่อนการขายทอดตลาด เพราะเป็นหน้าที่ของจำเลยที่จะต้องแจ้งให้เจ้าพนักงานบังคับคดี ทราบด้วยตนเอง การอนุมัติให้ขายทอดตลาดโดยวิธีเคาะไม้เป็น ดุลพินิจของเจ้าพนักงานบังคับคดี เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดี เห็นว่าผู้ประมูลให้ราคาที่สมควรแล้วก็มีอำนาจที่จะอนุมัติ ให้ขายโดยวิธีเคาะไม่ได้ โดยไม่จำต้องฟังคำคัดค้านของจำเลย ผู้ถูกยึดทรัพย์ก่อน การขายทอดตลาดในครั้งแรก จำเลยคัดค้านเจ้าพนักงานบังคับคดีก็รับฟัง ทั้งยังได้โทรศัพท์ปรึกษา ตัวผู้บังคับบัญชา และขอให้ผู้แทนโจทก์ประมูลราคาเพิ่มขึ้น เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีเห็นว่ามีผู้ประมูลราคาต่ำไป จึงไม่อนุมัติให้ขายมาครั้งหนึ่งแล้วการขายในครั้งพิพาทเป็น การขายครั้งที่สอง เมื่อผู้แทนโจทก์ประมูลราคาเพิ่มขึ้น และเจ้าพนักงานบังคับคดีเห็นว่าเป็นราคาที่สมควรแล้ว ย่อมมีอำนาจอนุมัติให้ขายโดยวิธีเคาะไม้ได้ หาจำต้องฟัง คำคัดค้านของจำเลยตลอดไปไม่ เมื่อไม่ปรากฏว่าการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีกระทำโดยไม่สุจริตขายในราคาต่ำเกินสมควรย่อมไม่เป็นเหตุให้การขายทอดตลาดเสียไป และไม่มีเหตุที่จะเพิกถอนการขายทอดตลาด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1086/2542 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายทอดตลาดบังคับคดี: เจ้าพนักงานบังคับคดีมีอำนาจอนุมัติการขายแม้มีผู้ประมูลรายเดียว หากราคาเป็นธรรม
ในการขายทอดตลาดทรัพย์สินของเจ้าพนักงานบังคับคดี กฎหมายมิได้บัญญัติให้ต้องมีผู้เข้าแข่งขันในการประมูลราคา เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ประกาศให้ผู้มีส่วนได้เสียรวมทั้งจำเลยผู้ถูกยึดทรัพย์ ทราบโดยชอบแล้ว แม้จะมีผู้เข้าประมูลสู้ราคาเพียงรายเดียว เจ้าพนักงานบังคับคดีย่อมดำเนินการขายทอดตลาดต่อไปได้ หาจำต้องรอผู้เข้าประมูลราคารายอื่นเข้ามาแข่งขันก่อนไม่ เมื่อในการขายทอดตลาดในครั้งที่พิพาท มีผู้แทนโจทก์เข้าประมูลสู้ราคาแล้ว การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการขายทอดตลาดต่อไปจึงชอบแล้ว อีกทั้งไม่จำต้องเรียกขานชื่อจำเลย ก่อนการขายทอดตลาดเพราะเป็นหน้าที่ของจำเลย ที่จะต้องแจ้งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทราบด้วยตนเอง
การอนุมัติให้ขายทอดตลาดโดยวิธีเคาะไม้เป็นดุลพินิจของเจ้าพนักงานบังคับคดี เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีเห็นว่าผู้ประมูลให้ราคาที่สมควรแล้ว ก็มีอำนาจที่จะอนุมัติให้ขายโดยวิธีเคาะไม้ได้ โดยไม่จำต้องฟังคำคัดค้านของจำเลยผู้ถูกยึดทรัพย์
การขายทอดตลาดในครั้งแรก จำเลยคัดค้าน เจ้าพนักงานบังคับคดีก็รับฟัง ทั้งยังได้โทรศัพท์ปรึกษาผู้บังคับบัญชา และขอให้ผู้แทนโจทก์ประมูลราคาเพิ่มขึ้นเมี่อเจ้าพนักงานบังคับคดีเห็นว่ามีผู้ประมูลราคาต่ำไป จึงไม่อนุมัติให้ขายมาครั้งหนึ่งแล้วการขายในครั้งพิพาทเป็นการขายครั้งที่สอง เมื่อผู้แทนโจทก์ประมูลราคาเพิ่มขึ้นแล้วและเจ้าพนักงานบังคับคดีเห็นว่าเป็นราคาที่สมควรแล้ว ก็มีอำนาจอนุมัติให้ขายโดยวิธีเคาะไม้ได้ หาจำต้องฟังคำคัดค้านของจำเลย ตลอดไปไม่ ดังนี้ เมื่อไม่ปรากฏว่าการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีกระทำโดยไม่สุจริตขายในราคาต่ำเกินสมควรแล้วย่อมไม่เป็นเหตุให้การขายทอดตลาดเสียไป และไม่มีเหตุที่จะเพิกถอนการขายทอดตลาด
การอนุมัติให้ขายทอดตลาดโดยวิธีเคาะไม้เป็นดุลพินิจของเจ้าพนักงานบังคับคดี เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีเห็นว่าผู้ประมูลให้ราคาที่สมควรแล้ว ก็มีอำนาจที่จะอนุมัติให้ขายโดยวิธีเคาะไม้ได้ โดยไม่จำต้องฟังคำคัดค้านของจำเลยผู้ถูกยึดทรัพย์
การขายทอดตลาดในครั้งแรก จำเลยคัดค้าน เจ้าพนักงานบังคับคดีก็รับฟัง ทั้งยังได้โทรศัพท์ปรึกษาผู้บังคับบัญชา และขอให้ผู้แทนโจทก์ประมูลราคาเพิ่มขึ้นเมี่อเจ้าพนักงานบังคับคดีเห็นว่ามีผู้ประมูลราคาต่ำไป จึงไม่อนุมัติให้ขายมาครั้งหนึ่งแล้วการขายในครั้งพิพาทเป็นการขายครั้งที่สอง เมื่อผู้แทนโจทก์ประมูลราคาเพิ่มขึ้นแล้วและเจ้าพนักงานบังคับคดีเห็นว่าเป็นราคาที่สมควรแล้ว ก็มีอำนาจอนุมัติให้ขายโดยวิธีเคาะไม้ได้ หาจำต้องฟังคำคัดค้านของจำเลย ตลอดไปไม่ ดังนี้ เมื่อไม่ปรากฏว่าการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีกระทำโดยไม่สุจริตขายในราคาต่ำเกินสมควรแล้วย่อมไม่เป็นเหตุให้การขายทอดตลาดเสียไป และไม่มีเหตุที่จะเพิกถอนการขายทอดตลาด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5834/2541
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหมายเรียกและแจ้งการขายทอดตลาดชอบด้วยกฎหมาย แม้จำเลยไม่ได้พักอาศัยที่ภูมิลำเนาตามทะเบียนบ้าน
โจทก์ฟ้องจำเลยโดยบรรยายไว้ในคำฟ้องว่าจำเลย อยู่บ้านเลขที่ 281 เมื่อเจ้าพนักงานศาลนำหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องไปส่งให้จำเลยที่บ้านเลขที่ดังกล่าวแต่ไม่พบจำเลย พบเพียงหญิงอายุประมาณ 40 ปี แจ้งว่าไม่เคยมีชื่อจำเลยอยู่ในบ้านดังกล่าว และไม่ยอมรับหมายเรียก และสำเนาคำฟ้องไว้แทน โจทก์จึงต้องยื่นคำร้องขอแก้ไขคำฟ้อง เกี่ยวกับภูมิลำเนาของจำเลยเป็นบ้านเลขที่ 482/2 ซึ่งการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องในครั้งหลังนี้ จำเลยทราบว่าถูกโจทก์ฟ้องและได้ยื่นคำให้การต่อสู้คดี แสดงว่าจำเลยถือเอาบ้านเลขที่ 482/2 เป็นภูมิลำเนา ของจำเลยอีกแห่งหนึ่ง ฉะนั้น การปิดหมายแจ้งวันนัด การขายทอดตลาดให้จำเลยทราบที่บ้านเลขที่ดังกล่าว จึงชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 79 และถือว่าจำเลยทราบวันนัดขายทอดตลาดแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5834/2541 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องไปยังภูมิลำเนาจำเลยที่ถูกต้องตามกฎหมาย และผลของการรับทราบวันนัด
โจทก์ฟ้องจำเลยโดยบรรยายไว้ในคำฟ้องว่าจำเลยอยู่บ้านเลขที่281 เมื่อเจ้าพนักงานศาลนำหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องไปส่งให้จำเลยที่บ้านเลขที่ดังกล่าว แต่ไม่พบจำเลย พบเพียงหญิงอายุประมาณ 40 ปี แจ้งว่าไม่เคยมีชื่อจำเลยอยู่ในบ้านดังกล่าว และไม่ยอมรับหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องไว้แทน โจทก์จึงต้องยื่นคำร้องขอแก้ไขคำฟ้องเกี่ยวกับภูมิลำเนาของจำเลยเป็นบ้านเลขที่ 482/2ซึ่งการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องในครั้งหลังนี้ จำเลยทราบว่าถูกโจทก์ฟ้องและได้ยื่นคำให้การต่อสู้คดี แสดงว่าจำเลยถือเอาบ้านเลขที่ 482/2 เป็นภูมิลำเนาของจำเลยอีกแห่งหนึ่ง ฉะนั้น การปิดหมายแจ้งวันนัดการขายทอดตลาดให้จำเลยทราบที่บ้านเลขที่ดังกล่าวจึงชอบด้วย ป.วิ.พ.มาตรา 79 และถือว่าจำเลยทราบวันนัดขายทอดตลาดแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6970/2540
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีจำนอง: ยอดหนี้ถูกต้องตามแจ้ง เจ้าพนักงานบังคับคดีระบุหนี้ในประกาศขายทอดตลาดได้
การที่จำเลยนำที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างที่โจทก์นำยึดไปจดทะเบียนจำนองเพื่อเป็นประกันหนี้ไว้แก่ธนาคารทหารไทยเมื่อปี 2530 เป็นเงิน 62,000,000 บาท และเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ประกาศขายทอดตลาดทรัพย์พิพาทโดยวิธีติดจำนองโดยระบุหนี้จำนอง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2537จำนวน 132,918,356.17 บาท ตามที่ธนาคารทหารไทยแจ้งยอดหนี้มานั้น เป็นเรื่องระหว่างจำเลยที่ 1 กับผู้รับจำนองซึ่งเป็นเจ้าหนี้บุริมสิทธิ หากยอดหนี้ดังกล่าวไม่ถูกต้องจำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ย่อมสามารถตรวจสอบยอดหนี้กับธนาคารทหารไทย และร้องคัดค้านได้ แต่ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 ได้คัดค้านแต่อย่างใดจึงน่าเชื่อว่ายอดหนี้ที่แจ้งมาเป็นหนี้และดอกเบี้ยที่คิดคำนวณถูกต้องและโจทก์เป็นเพียงเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีระบุยอดหนี้จำนองไว้ในประกาศขายทอดตลาด ทรัพย์พิพาทโดยวิธีติดจำนองแจ้งแก่บุคคลภายนอกที่จะเข้ามาประมูลซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดทราบก็เพื่อคุ้มครองบุคคลภายนอกนั่นเอง จึงเป็นการกระทำที่ถูกต้องและสมควรแล้ว ไม่ต้องไต่สวนเกี่ยวกับยอดหนี้จำนองตามคำร้องของโจทก์