พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,529 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 293/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินวัดและธรณีสงฆ์: แม้ครอบครองนาน โจทก์ไม่เกิดกรรมสิทธิ์
เมื่อที่ดินเป็นของวัดและเป็นที่ธรณีสงฆ์ของวัดจำเลยแม้โจทก์เข้าครอบครองมาเกิน 10 ปี โจทก์ก็หาได้กรรมสิทธิ์ไม่ (อ้างฎีกาที่ 305/2497)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 293/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินวัดเป็นที่ธรณีสงฆ์ แม้ครอบครองเกิน 10 ปี ก็ไม่ทำให้ได้กรรมสิทธิ์
เมื่อที่ดินเป็นของวัดและเป็นที่ธรณีสงฆ์ของวัดจำเลย แม้โจทก์เข้าครอบครองมาเกิน 10 ปี โจทก์ก็หาได้กรรมสิทธิ์ไม่ (อ้างฎีกาที่ 305/2497)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 291/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทิศที่ดินให้เป็นทางสาธารณะโดยปริยาย แม้เจ้าของไม่แสดงเจตนาชัดแจ้ง หากมีพฤติการณ์ต่อเนื่องที่แสดงถึงการยินยอมให้ใช้เป็นทางสัญจร
พฤติการณ์ที่ถือได้ว่าเป็นการแสดงเจตนาสละอุทิศโดยปริยายของเจ้าของที่ดินให้ทางเดินซึ่งผ่านที่ดินของตนอันอยู่ในโฉนดที่ดินซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเพื่อสาธารณะประโยชน์ (อ้างฎีกาที่ 701/2499)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 291/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทิศที่ดินให้เป็นทางสาธารณะโดยปริยาย แม้เจ้าของที่ดินไม่ได้แสดงเจตนาชัดแจ้ง แต่หากปล่อยให้ราษฎรใช้สัญจรเป็นเวลานาน ก็ถือเป็นการอุทิศโดยปริยาย
พฤติการณ์ที่ถือได้ว่าเป็นการแสดงเจตนาสละอุทิศโดยปริยายของเจ้าของที่ดินให้ทางเดินซึ่งผ่านที่ดินของตนอันอยู่ในโฉนดที่ดินซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเพื่อสาธารณะประโยชน์(อ้างฎีกาที่ 701/2499)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 289/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำเข้าของต้องห้ามโดยเจตนาหลีกเลี่ยงภาษี แม้ยังไม่ถึงด่านศุลกากรก็ถือเป็นความผิด
การที่จำเลยนำของกลางซึ่งเป็นของต้องห้ามต้องจำกัดผ่านเขตแดนเข้ามาในราชอาณาจักรโดยมีเจตนาหลีกเลี่ยงการเสียภาษีศุลกากรโดยนำผ่านเขตแดนเข้ามาแล้วแม้ยังไม่ได้ล่วงเลยด่านที่จะต้องเสียภาษีศุลกากรถูกจับเสียก่อน ก็ต้องมีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 289/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำของต้องห้ามต้องจำกัดผ่านเขตแดนโดยมีเจตนาหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร แม้ยังไม่ถึงด่าน ก็ถือมีความผิด
การที่จำเลยนำของกลางซึ่งเป็นของต้องห้ามต้องจำกัดผ่านเขตแดนเข้ามาในราชอาณาจักร โดยมีเจตนาหลีกเลี่ยงการเสียภาษีศุลกากร โดยนำผ่านเขตแดนเข้ามาแล้ว แม้ยังไม่ได้ล่วงเลยด่านที่จะต้องเสียภาษีศุลกากร ถูกจับเสียก่อน ก็ต้องมีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 282/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของอาคารมีความรับผิดชอบต่อการก่อสร้างโดยจ้างผู้อื่น แม้ไม่ได้ลงมือเอง การปลูกสร้างอาคารโดยไม่ขออนุญาตเป็นความผิด
ห้องแถวที่ปลูกสร้างลงบนสะพานเป็นเรือนโรงที่อยู่อาศัยจึงเป็นอาคารตาม พ.ร.บ.ควบคุมการก่อสร้างอาคาร เมื่อปลูกสร้างขึ้นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ก็เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมการก่อสร้างอยู่ในตัว ถึงแม้จะถือว่าสพานไม่เป็นอาคารตาม พ.ร.บ.ควบคุมการก่อสร้างอาคารก็ตาม
ในคดีที่โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยเจ้าของอาคารปลูกสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.ควบคุมการก่อสร้างอาคาร เมื่อคำฟ้องโจทก์ระบุว่าจำเลยบังอาจทำการปลูกสร้าง แต่ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยจ้างคนงานปลูกสร้างโดยเจ้าของอาคารมิได้ลงมือด้วย ก็เป็นที่เข้าใจว่าเจ้าของเป็นผู้ปลูกสร้างอาคาร ข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณา จึงไม่ต่างกับฟ้อง
ในคดีที่โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยเจ้าของอาคารปลูกสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.ควบคุมการก่อสร้างอาคาร เมื่อคำฟ้องโจทก์ระบุว่าจำเลยบังอาจทำการปลูกสร้าง แต่ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยจ้างคนงานปลูกสร้างโดยเจ้าของอาคารมิได้ลงมือด้วย ก็เป็นที่เข้าใจว่าเจ้าของเป็นผู้ปลูกสร้างอาคาร ข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณา จึงไม่ต่างกับฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 282/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของอาคารมีความรับผิดชอบต่อการก่อสร้างโดยจ้างผู้อื่น แม้จะไม่ได้ลงมือเอง ถือเป็นผู้ปลูกสร้างอาคารตามกฎหมาย
ห้องแถวที่ปลูกสร้างลงบนสะพานเป็นเรือนโรงที่อยู่อาศัยจึงเป็นอาคารตามพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคารเมื่อปลูกสร้างขึ้นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ก็เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคารอยู่ในตัว ถึงแม้จะถือว่าสะพานไม่เป็นอาคารตามพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคารก็ตาม
ในคดีที่โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยเจ้าของอาคารปลูกสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคารเมื่อคำฟ้องโจทก์ระบุว่าจำเลยบังอาจทำการปลูกสร้าง แต่ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยจ้างคนงานปลูกสร้างโดยเจ้าของอาคารมิได้ลงมือด้วยก็เป็นที่เข้าใจว่าเจ้าของเป็นผู้ปลูกสร้างอาคาร ข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณา จึงไม่ต่างกับฟ้อง
ในคดีที่โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยเจ้าของอาคารปลูกสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคารเมื่อคำฟ้องโจทก์ระบุว่าจำเลยบังอาจทำการปลูกสร้าง แต่ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยจ้างคนงานปลูกสร้างโดยเจ้าของอาคารมิได้ลงมือด้วยก็เป็นที่เข้าใจว่าเจ้าของเป็นผู้ปลูกสร้างอาคาร ข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณา จึงไม่ต่างกับฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 280/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ตัวตนผู้ตายในคดีอาญา โจทก์ต้องนำสืบพยานผู้เห็นศพโดยตรง ไม่เพียงแค่พยานบอกเล่าหรือเอกสาร
การที่จะรับฟังว่า ผู้ตายเป็นใครแน่นอนนั้น โจทก์จะต้องนำพยานมาสืบให้ชัด จะฟังเพียงพยานบอกเล่าหรือชื่อในใบชันสูตรพลิกศพ หาเป็นการเพียงพอไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 280/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ตัวตนผู้ตายในคดีอาญา โจทก์ต้องมีพยานเห็นศพโดยตรง
การที่จะรับฟังว่า ผู้ตายเป็นใครแน่นอนนั้น โจทก์จะต้องนำพยานมาสืบให้ชัด จะฟังเพียงพยานบอกเล่าหรือชื่อในใบชัณสูตรพลิกศพหาเป็นการเพียงพอไม่