พบผลลัพธ์ทั้งหมด 234 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 111/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมีเหรียญกษาปณ์เพื่อใช้จ่ายตามปกติในพื้นที่ห่างไกล ไม่ถือเป็นผู้ค้าเหรียญ
จำเลยมีเหรียญกษาปณ์รวมเป็นเงิน 91 บาท 54 สตางค์สำหรับจ่ายเป็นค่าจ้างลูกจ้างทำนา และได้มาจากการขายข้าว อยู่ในหมู่บ้านที่ไม่มีตลาดไม่มีที่แลกสตางค์ ไม่เรียกว่าเกินสมควรสำหรับปกติธุระหรือเกินจำเป็นสำหรับการใช้จ่ายปกติ ไม่ถือว่าเป็นผู้ค้าเหรียญกษาปณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 111/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองเหรียญกษาปณ์เพื่อใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของเกษตรกรในพื้นที่ห่างไกล ไม่ถือเป็นผู้ค้าเหรียญกษาปณ์
จำเลยมีเหรียนกสาปน์รวมเปนเงิน 91 บาท 54 สตางค์ สำหรับจ่ายเปนค่าจ้างลูกจ้างทำนา และได้มาจากการขายข้าว หยู่ไนหมู่บ้านที่ไม่มีตลาดไม่มีที่แลกสตางค์ ไม่เรียกว่าเกินสมควนสำหรับปรกติธุระหรือเกินจำเปนสำหรับการไช้จ่ายปรกติ ไม่ถือว่าเปนผู้ค้าเหรียนกสาปน์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 109/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์ที่ดิน: จำเลยต้องพิสูจน์การซื้อขายขาดเพื่อหักล้างสิทธิในโฉนด
ข้อเท็ดจิงรับกันว่า บิดาโจทมีชื่อไนโฉนดที่นา แต่จำเลยครอบครองนาแปลงนี้มา 10 ปีเสสแล้ว โจทคงเถียงว่า บิดาโจทมอบมาไห้จำเลยทำต่างดอกเบี้ย ฝ่ายจำเลยว่าขายขาดไห้จำเลยโดยทำหนังสือกันเอง และจำเลยได้ครอบครองปรปักส์มา เช่นนี้จำเลยต้องนำสืบ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 109/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์ที่ดิน: จำเลยต้องพิสูจน์การซื้อขายหรือการได้รับโอนสิทธิ
ข้อเท็จจริงรับกันว่า บิดาโจทก์มีชื่อในโฉนดที่นาแต่จำเลยครอบครองนาแปลงนี้มา 10 ปีเศษแล้ว โจทก์คงเถียงว่า บิดาโจทก์มอบนาให้จำเลยทำต่างดอกเบี้ย ฝ่ายจำเลยว่าขายขาดให้จำเลยโดยทำหนังสือกันเอง และจำเลยได้ครอบครองปรปักษ์มาเช่นนี้จำเลยต้องนำสืบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 108/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ไม้หวงห้ามก่อน พ.ร.ฎ. 2485: การเคลื่อนย้ายไม้ที่ได้รับคำสั่งก่อนมีกฎหมาย ไม่อาจถือเป็นความผิด
จำเลยได้รับคำสั่งของอำเภอให้นำไม้ซึ่งตัดไว้ก่อนพระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ.2485 อันมีจำนวนไม่เกิน 200 ต้น มาขายให้แก่โรงเลื่อยของทางราชการติดต่อกันเรื่อยมาดังนี้ แม้จำเลยจะนำเคลื่อนที่ภายหลังเมื่อมีพระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้ามแล้ว ก็ไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 108/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอนุญาตทำไม้ก่อนมีกฎหมายหวงห้าม การเพิกถอนคำสั่ง และการมีไม้ไว้ในครอบครองโดยชอบ
จำเลยได้รับคำสั่งของอำเพอไห้นำไม้ซึ่งตัดไว้ก่อนพระราชกริสดีกากำหนดไม้หวงห้าม พ.ส. 2485 อันมีจำนวนไม่เกิน 200 ต้น มาขายไห้แก่โรงเลื่อยทางราชการติดต่อกันเรื่องมาดั่งนี้ แม้จำเลยจะนำเคลื่อนที่พายหลังเมื่อมีพระราชกริสดีกากำหนดไม้หวงห้ามแล้ว ก็ไม่มีความผิด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 95/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดอาญาจากการแจ้งเท็จ, อาฆาตมาดร้าย, และการสมคบกันทำผิด
การแสดงความอาฆาตมาดร้ายตามมาตรา 30 จะต้องเป็นเรื่องแสดงอาฆาตจะก่อการร้ายอันเป็นผิดทางอาญา
กำนันทำรายงานเรื่องผู้ต้องหาเสนอพนักงานสอบสวนระบุชื่อผู้ต้องหาเมื่อเสนอไปแล้วภายหลังแก้ชื่อผู้ต้องหา ถ้าหากแก้เพื่อให้เข้าใจว่าเป็นรายงานไว้แต่เดิมก็อาจมีผิดฐานปลอมหนังสือ
การแจ้งต่อเจ้าพนักงานเป็นเหตุให้เขาถูกจับกุมจะเป็นผิดตามมาตรา 270 หรือไม่นั้น ถ้าเป็นการที่เจ้าพนักงานจะต้องรีบจับทันทีไม่มีเวลาสืบสวนหรือสอบสวน ผู้แจ้งก็ไม่มีความผิด
แสดงเป็นคนสนิทชิดชอบกับเจ้าพนักงานแล้วเรียกเงินจากเขาเพื่อช่วยให้เขาพ้นอาญา แล้วเอาชื่อโจทก์เข้าเป็นผู้ต้องหาแทนดังนี้ไม่ถือว่า โจทก์เป็นผู้เสียหายในความผิดตามมาตรา 123 และ154
พลเรือนสมคบกับตำรวจทำผิดถ้าไม่ได้ฟ้องตำรวจด้วย ก็ย่อมฟ้องพลเรือนต่อศาลพลเรือนได้ อ้างฎีกาที่ 622/2486
กำนันทำรายงานเรื่องผู้ต้องหาเสนอพนักงานสอบสวนระบุชื่อผู้ต้องหาเมื่อเสนอไปแล้วภายหลังแก้ชื่อผู้ต้องหา ถ้าหากแก้เพื่อให้เข้าใจว่าเป็นรายงานไว้แต่เดิมก็อาจมีผิดฐานปลอมหนังสือ
การแจ้งต่อเจ้าพนักงานเป็นเหตุให้เขาถูกจับกุมจะเป็นผิดตามมาตรา 270 หรือไม่นั้น ถ้าเป็นการที่เจ้าพนักงานจะต้องรีบจับทันทีไม่มีเวลาสืบสวนหรือสอบสวน ผู้แจ้งก็ไม่มีความผิด
แสดงเป็นคนสนิทชิดชอบกับเจ้าพนักงานแล้วเรียกเงินจากเขาเพื่อช่วยให้เขาพ้นอาญา แล้วเอาชื่อโจทก์เข้าเป็นผู้ต้องหาแทนดังนี้ไม่ถือว่า โจทก์เป็นผู้เสียหายในความผิดตามมาตรา 123 และ154
พลเรือนสมคบกับตำรวจทำผิดถ้าไม่ได้ฟ้องตำรวจด้วย ก็ย่อมฟ้องพลเรือนต่อศาลพลเรือนได้ อ้างฎีกาที่ 622/2486
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 95/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความเท็จ, หมิ่นประมาท, และความผิดฐานแสดงอาคตมาดร้าย: เงื่อนไขความผิดและการฟ้องร้อง
การสแดงความอาคาตมาดร้ายตามมาตรา 30 จะต้องเปนเรื่องสแดงอาคาตจะก่อการร้ายอันเปนผิดทางอาญา
กำนันทำรายงานเรื่องผู้ต้องหา+ นอพนักงานสอบสวนระบุชื่อผู้ต้องหา เมื่อเสนอไปแล้วพายหลังแก้ชื่อผู้ต้องหา ถ้าหากแก้เพื่อไห้เข้าใจว่า + รายงานไว้แต่เดิมก็อาดมีผิดถานปลอมหนังสือ
การแจ้งต่อเจ้าพนักงานเปนเหตุไห้ + ถูกจับกุมจะเปนผิดตามมาตา 270 หรือไม่น้น ถ้าเปนการนีที่เจ้าพนักงานจะต้องรีบจับทันทีไม่มีเวลาสืบสวนหรือสอบสวน ผู้แจ้งก็ไม่มีความผิด
สแดงคนสนิชชิดชอบกับเจ้าพนักงานแล้วเรียกเงินจากเขาเพื่อช่วยให้เขาพ้นอาญา แล้วเอาชื่อโจทเข้าเปนผู้ต้องหาแทนดังนี้ไม่ถือว่า โจทเปนผู้เสียหายแทนความผิดตามมาตรา 123 และ154 พลเรือนสมคบกับตำหรวดทำ + ถ้าไม่ได้ฟ้องตำหรวดด้วย ก็ผู้ + พลเรือนต่อสาลพลเรือนได้ + ที่ 622/2486
กำนันทำรายงานเรื่องผู้ต้องหา+ นอพนักงานสอบสวนระบุชื่อผู้ต้องหา เมื่อเสนอไปแล้วพายหลังแก้ชื่อผู้ต้องหา ถ้าหากแก้เพื่อไห้เข้าใจว่า + รายงานไว้แต่เดิมก็อาดมีผิดถานปลอมหนังสือ
การแจ้งต่อเจ้าพนักงานเปนเหตุไห้ + ถูกจับกุมจะเปนผิดตามมาตา 270 หรือไม่น้น ถ้าเปนการนีที่เจ้าพนักงานจะต้องรีบจับทันทีไม่มีเวลาสืบสวนหรือสอบสวน ผู้แจ้งก็ไม่มีความผิด
สแดงคนสนิชชิดชอบกับเจ้าพนักงานแล้วเรียกเงินจากเขาเพื่อช่วยให้เขาพ้นอาญา แล้วเอาชื่อโจทเข้าเปนผู้ต้องหาแทนดังนี้ไม่ถือว่า โจทเปนผู้เสียหายแทนความผิดตามมาตรา 123 และ154 พลเรือนสมคบกับตำหรวดทำ + ถ้าไม่ได้ฟ้องตำหรวดด้วย ก็ผู้ + พลเรือนต่อสาลพลเรือนได้ + ที่ 622/2486
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 85/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองเหรียญกษาปณ์เพื่อใช้ในการค้าและย้ายร้าน ไม่ถือว่ามีเจตนาซุกซ่อนเพื่อการค้า
กรนีที่ร้านค้ามีสตางค์ไว้ 80 บาทโจทไม่สแดงไห้เห็นว่าเกินสมควน ไม่มีความผิด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 85/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมีเงินสดในร้านค้าจำนวนน้อย ไม่ถือเป็นความผิด
กรณีที่ร้านค้ามีสตางค์ไว้ 80 บาท โจทก์ไม่แสดงให้เห็นว่าเกินสมควรไม่มีความผิด