พบผลลัพธ์ทั้งหมด 204 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1150/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกำหนดโทษพยายามฆ่าและการเพิ่มโทษจำเลยที่เคยกระทำผิดซ้ำ จำเป็นต้องกำหนดโทษสำเร็จก่อนลดฐาน
ความผิดฐานพยายามฆ่าคนตายนั้น ศาลต้องกำหนดโทษจำเลยอย่างกระทำผิดสำเร็จก่อนแล้วจึงลดฐานพยายามตาม กฎหมายอาญามาตรา 60 เมื่อมีเหตุจะต้องเพิ่มโทษจำเลยจึงให้เพิ่มทีหลัง จะเอาเหตุเพิ่มโทษมาหักกลบลบกับโทษฐานพยายามไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1108/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพยายามลักทรัพย์และการนับโทษต่อคดีอื่น แม้โจทก์มิได้กล่าวในคำฟ้อง
เมื่อจำเลยงัดประตูบ้านเจ้าทรัพย์และทรัพย์ของเจ้าทรัพย์ยังไม่ทันเขยื้อนเพราะมีเหตุอันพ้นวิสัยของจำเลยที่จะป้องกันได้มาขัดขวางมิให้กระทำลงสำเร็จโดยตำรวจตรวจเหตุการณ์มาพบและจับจำเลยได้เสียก่อน จำเลยจึงเอาทรัพย์ของเจ้าทรัพย์เขยื้อนไปจากที่มิได้ การกระทำของจำเลยดังนี้เป็นความผิดฐานพยายามลักทรัพย์แล้ว
การขอให้นับโทษจำเลยติดต่อกับอีกคดีอื่นนั้น แม้โจทก์มิได้กล่าวในคำฟ้องหรือคำขอท้ายฟ้องก็ตาม แต่ระหว่างพิจารณาโจทก์ได้ร้องขอและศาลได้สอบจำเลยๆ รับว่าเป็นความจริงแล้ว ศาลก็มีอำนาจนับโทษจำเลยติดต่อกันได้
การขอให้นับโทษจำเลยติดต่อกับอีกคดีอื่นนั้น แม้โจทก์มิได้กล่าวในคำฟ้องหรือคำขอท้ายฟ้องก็ตาม แต่ระหว่างพิจารณาโจทก์ได้ร้องขอและศาลได้สอบจำเลยๆ รับว่าเป็นความจริงแล้ว ศาลก็มีอำนาจนับโทษจำเลยติดต่อกันได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1063/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการใช้อาวุธปืน: การพิจารณาจากพฤติการณ์และการรับสารภาพ
การใช้อาวุธปืนยิงคนนั้นตามธรรมดาก็เห็นได้ว่าผู้ยิงมีเจตนาจะฆ่าเพราะอาวุธปืนเป็นอาวุธที่ร้ายแรงสามารถฆ่ากันได้ ยิ่งจำเลยได้รับสารภาพว่าทำผิดตามฟ้อง เมื่อได้ฟังคำประจักษ์พยานโจทก์หมดแล้วยิ่งเห็นได้ชัดว่าจำเลยยิงโดยเจตนา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 782/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบกันพยายามฆ่า: การกระทำร่วมกันของพี่น้องที่อยู่ในเหตุการณ์และสนับสนุนการยิงผู้เสียหาย
เมื่อคดีได้ความว่าจำเลยทั้ง 2 มีสาเหตุกับผู้เสียหายวันเกิดเหตุจำเลยทั้ง 2 ซึ่งเป็นพี่น้องกันอยู่ที่เกิดเหตุก่อนผู้เสียหายมาถึงเมื่อจำเลยที่ 2 ใช้กระสุนยิงผู้เสียหาย จำเลยที่ 1 ก็ไม่ห้ามครั้นผู้เสียหายเข้าไปถามว่ายิงเรื่องอะไรจำเลยกลับพูดว่าวันนี้กูเอามึงแน่อ้ายทัด (ชื่อผู้เสียหาย) ทั้งจำเลยที่ 2 รู้และเห็นจำเลยที่ 1 มีปืนมาในขณะนั้นดังนี้แสดงว่าจำเลยทั้ง 2 มีเจตนาร่วมกันในอันที่จะกระทำแก่ผู้เสียหายจำเลยที่ 2 ยิงด้วยลูกกระสุนก่อนแล้วจำเลยที่ 1 ก็ยิงด้วยปืนภายในระยะเวลากระชั้นชิดติดต่อกันจำเลยต้องมีผิดฐานสมคบกันพยายามฆ่าคนโดยเจตนา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 720/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการทำร้ายด้วยอาวุธอันตราย แม้ผู้เสียหายไม่ถึงแก่ชีวิต
การที่จำเลยถูกผู้เสียหายไล่ออกจากงานรุ่งขึ้นกลับมาหาผู้เสียหายและซื้อเหล็กแหลมรูปสามเหลี่ยมยาวคืบเศษพกติดมาด้วยและได้ใช้แทงผู้เสียหายขณะที่ไม่รู้ตัวถูกสีข้างซ้ายโดยแรงทะลุเข้าช่วงท้องไปถูกม้ามถึงต้องตัดม้ามออกเช่นนี้ ส่อให้เห็นว่ามีเจตนาจะฆ่าให้ตายที่ไม่ตายก็เพราะได้รับการรักษาทันท่วงที จำเลยจึงต้องผิดฐานพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนาตาม มาตรา 249,60
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 694/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความคำว่า 'หลังเที่ยง' และองค์ประกอบความผิดฐานพยายามฆ่า
กล่าวฟ้องว่าวันที่ 23 เวลากลางคืนหลังเที่ยงแสดงชัดเจนอยู่แล้วว่าเป็นเวลากลางคืนก่อน 24.00 น. ของวันที่ 23
คำว่าหลังเที่ยงย่อมเข้าใจได้ว่าหลังเที่ยงวันคือหลัง 12.00 น. ของวันนั้นหาใช่หลังเที่ยงคืนไม่
ปืนโดยปกติเป็นเครื่องประหารที่ร้ายแรงอยู่แล้ว ประกอบกับผู้บาดเจ็บถูกกระสุนปืนมีบาดแผล 9 แห่งซึ่งผู้ชันสูตรฯว่าถ้าถูกที่สำคัญอาจถึงตายได้ เช่นนี้จำเลยจึงต้องมีผิดฐานพยายามฆ่าคน
คำว่าหลังเที่ยงย่อมเข้าใจได้ว่าหลังเที่ยงวันคือหลัง 12.00 น. ของวันนั้นหาใช่หลังเที่ยงคืนไม่
ปืนโดยปกติเป็นเครื่องประหารที่ร้ายแรงอยู่แล้ว ประกอบกับผู้บาดเจ็บถูกกระสุนปืนมีบาดแผล 9 แห่งซึ่งผู้ชันสูตรฯว่าถ้าถูกที่สำคัญอาจถึงตายได้ เช่นนี้จำเลยจึงต้องมีผิดฐานพยายามฆ่าคน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 576/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพยายามขนส่งข้าวสารเหนียวออกนอกราชอาณาจักร แม้ยังไม่ถึงกลางแม่น้ำโขง
จำเลยมีเจตนาจะขนข้าวสารเหนียวออกนอกราชอาณาจักรแต่ถูกจับขณะเรือยังเทียบท่าริมแม่น้ำโขงอยู่ การกระทำของจำเลยถือว่าเข้าขั้นความผิดฐานพยายามแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 486/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทางอาญาจากการสมคบกันยิง แม้พลาดเป้าหมายแต่เป็นอันตรายถึงผู้อื่น
การที่จำเลยกับพวกสมคบกันมาเจตนาจะยิงคู่ปรปักษ์ แม้กระสุนปืนของพวกจำเลยยิงไปจะพลาดพวกปรปักษ์แต่ไปถูกผู้เสียหายซึ่งมาดูเหตุการณ์เข้าเช่นนี้จำเลยซึ่งเป็นฝ่ายพวกผู้ยิงย่อมต้องมีผิดฐานพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนาด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 86/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บาดแผลจากการทำร้ายร่างกายเข้าข่าย 'บาดเจ็บสาหัส' แม้ระยะเวลารักษาไม่นาน แต่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
ได้ความว่าผู้เสียหายถูกทำร้ายถึง 2 แห่งคือที่แขนและที่หน้าอกบาดแผลทั้ง 2 แห่งนี้ปรากฏว่าระยะการรักษาเพียง 15 วันแผลตกสะเก็ดลุกขึ้นลงเรือนได้ แต่ได้ความว่าบาดแผลนี้รักษาอยู่ 23 วันยังไม่หายดีระหว่างรักษาตัวทำการงานอะไรไม่ได้เมื่อเบิกความเป็นพยานครั้งหลังจากเกิดเหตุ 2 เดือน 4 วัน หายใจรู้สึกเสียวที่หน้าอกยังทำการงานอะไรไม่ได้เช่นนี้ถือว่าเป็นบาดแผลสาหัสต้องตาม มาตรา 256 กฎหมายอาญาไม่ใช่บาดเจ็บธรรมดาตาม มาตรา254 กฎหมายอาญา
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยพยายามฆ่าคนโดยเจตนาศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามฟ้องแต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยผิดตาม มาตรา 254 โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษฐานพยายามฆ่าหรือทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสดังนี้เมื่อศาลฎีกาเห็นว่าบาดแผลถึงสาหัสและฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาจะฆ่าก็ย่อมจะลงโทษจำเลยฐานทำร้ายบาดเจ็บสาหัสตาม มาตรา 256 ได้
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยพยายามฆ่าคนโดยเจตนาศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามฟ้องแต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยผิดตาม มาตรา 254 โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษฐานพยายามฆ่าหรือทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสดังนี้เมื่อศาลฎีกาเห็นว่าบาดแผลถึงสาหัสและฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาจะฆ่าก็ย่อมจะลงโทษจำเลยฐานทำร้ายบาดเจ็บสาหัสตาม มาตรา 256 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบคิดร่วมกันทำร้ายร่างกายและพยายามฆ่า โดยมีพฤติการณ์สนับสนุนการกระทำผิด
จำเลยทั้งสามกับพวกได้เข้าไปในส่วนผู้มีชื่อพร้อมกัน ขณะนั้นเป็นเวลาดึกมากไม่ใช่เวลาที่จำเลยกับพวกจะไปปรากฏตัวอยู่,ได้ก่อเหตุระรานผู้เสียหายกล่าวคือพวกของจำเลยคนหนึ่งตีผู้เสียหายอีกคนหนึ่ง ยิงผู้เสียหาย-อีกคนหนึ่งต่อหน้าต่อตาจำเลยทั้งสาม แต่จำเลยทั้งสามไม่มีใครห้ามปรามเลย กลับยังอยู่เป็นกำลังใจให้พรรคพวก แล้วพวกของตนก็ยิงกระหน่ำเข้าไปในใต้ถุนเรือนซึ่งมีผู้เสียหายซ่อนอยู่อีก 6 นัด เมื่อชาวบ้านมาร้องขอ จำเลยทั้งสามกับพวกจึงพากันออกจากบ้านผู้มีชื่อไปพร้อมกันพฤติการณ์เช่นนี้แสดงชัดว่าจำเลยทั้งสามได้สมคบกันกับพวกของจำเลยไปกระทำความผิด.