พบผลลัพธ์ทั้งหมด 55 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1998/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฆ่าโดยเจตนาด้วยความพยาบาทมาดหมาย ไม่ต้องบรรยายรายละเอียดในฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยฆ่าผู้ตายโดยเจตนาโดยความพยายามด้วยความพยาบาทมาดหมายเท่านั้นก็เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ ลงโทษจำเลยตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 250 ได้แล้ว ไม่จำต้องบรรยายรายละเอียดว่าจำเลยได้กระทำโดยความพยายามด้วยความพยาบาทอย่างไร
จำเลยไปคอยดักยิงผู้ตายระหว่างทางโดยมีสาเหตุกันอยู่ ครั้งแรกยิงผู้ตายไม่ได้แล้วยังพยายามตามไปยิงอีกจนตาย ดังนี้การกระทำของจำเลยเป็นผิด กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 250 (ตามฎีกาที่ 1077/2479)
จำเลยไปคอยดักยิงผู้ตายระหว่างทางโดยมีสาเหตุกันอยู่ ครั้งแรกยิงผู้ตายไม่ได้แล้วยังพยายามตามไปยิงอีกจนตาย ดังนี้การกระทำของจำเลยเป็นผิด กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 250 (ตามฎีกาที่ 1077/2479)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1086/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดต่อเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่: ผู้ใหญ่บ้านตักเตือนการเสพสุรา
จำเลยนั่งเสพสุราอยู่ ผู้ตายเป็นผู้ใหญ่บ้านมาพบเข้าได้พูดตักเตือนให้จำเลยกลับบ้าน จำเลยไม่ยอมกลับ และเกิดโต้เถียงกันขึ้น จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายถึงแก่ความตายดังนี้ จำเลยย่อมมีความผิดฐานทำร้ายเจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำการตามหน้าที่ตามมาตรา 250 เพราะผู้ตายเป็นผู้ใหญ่บ้านชอบที่จะว่ากล่าวตักเตือนเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1086/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่: ผู้ใหญ่บ้านมีอำนาจตักเตือนลูกบ้าน การต่อสู้คดีไม่ฟัง
จำเลยนั่งเสพสุราอยู่ ผู้ตายเป็นผู้ใหญ่บ้านมาพบเข้า ได้พูดตักเตือนให้จำเลยกลับบ้าน จำเลยไม่ยอมกลับ และเกิดโต้เถียงกันขึ้น จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายถึงแก่ความตายดังนี้ จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายถึงแก่ความตายดังนี้ จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายถึงแก่ความตายดังนี้ จำเลยย่อมมีความผิดฐานทำร้ายเจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำการตามหน้าที่ตามมาตรา 250 เพราะผู้ตายเป็นผู้ใหญ่บ้าน ชอบที่จะว่ากล่าวตักเตือนเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1213/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วิวาททำร้ายร่างกายถึงแก่ความตาย ศาลลงโทษฐานทำร้ายร่างกายและฆ่าคนตายได้ แม้ไม่มีการปล้น
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยปล้นทรัพย์ และว่าในการปล้นจำเลยได้ใช้สาตราวุธตีและแทงผู้เสียหายคนหนึ่งโดยเจตนาจะฆ่าให้ตาย จนผู้เสียหายคนนั้นตาย และตีและแทงทำร้ายผู้เสียหายอีกคนหนึ่งถึงบาดเจ็บ ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 301249250 ดังนี้แม้ทางพิจารณาจะได้ความว่าไม่มีการปล้น แต่เป็นเรื่องสมัครใจวิวาทซึ่งกันและกัน จำเลยบางคนแทงอีกฝ่ายหนึ่งถึงตายบ้าง บางคนแทงอีกฝ่ายหนึ่งถึงบาดเจ็บบ้างดังนี้ศาลย่อมมีอำนาจพิพากษาลงโทษจำเลยผู้ที่ทำร้ายเขาถึงตายและบาดเจ็บตามความผิดที่ตนได้กระทำไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1995/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาในการกระทำความผิด: ปล้นทรัพย์ vs. ฆ่าคนตาย
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยปล้นทรัพย์ และบรรยายว่าในการปล้นทรัพย์นี้ จำเลยได้สมคบกันใช้มีดขู่จะทำร้ายและใช้ปืนยิงเจ้าทรัพย์ 1 นัด เจ้าทรัพย์ทนพิษบาดแผลที่จำเลยยิงไม่ได้ได้ขาดใจตายในทันทีนั้น ดังนี้เป็นลักษณะของการปล้นและทำให้เจ้าทรัพย์ตายเท่านั้น เมื่อไม่กล่าวให้ชัดว่าจำเลยได้มีเจตนาจะฆ่าเจ้าทรัพย์ให้ตายอันเป็นลักษณะของความผิดฐานฆ่าคนตายด้วยแล้ว ศาลก็จะลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 250 ด้วยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1995/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าขาดจากความผิดฐานปล้นทรัพย์ ศาลลงโทษตามบทปล้นทรัพย์ที่ทำให้ถึงแก่ความตาย
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยปล้นทรัพย์ และบรรยายว่าในการปล้นทรัพย์นี้ จำเลยได้สมคบกันใช้มีดขู่จะทำร้ายและใช้ปืนยิงเจ้าทรัพย์ 1 นัด เจ้าทรัพย์ทนพิษบาดแผลที่จำเลยยิงไม่ได้ได้ขาดใจตายในทันทีนั้นดังนี้เป็นลักษณะของการปล้นและทำให้เจ้าทรัพย์ตายเท่านั้น เมื่อไม่กล่าวให้ชัดว่าจำเลยได้มีเจตนาจะฆ่าเจ้าทรัพย์ให้ตายอันเป็นลักษณะของความผิดฐานฆ่าคนตายด้วยแล้ว ศาลก็จะลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 250 ด้วย ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 891/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษทางอาญา: เลือกโทษหนักกว่าเมื่อมีความผิดหลายกระทง
ความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 301 วรรถ 3 ตามที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉะบับที่ 4) พ.ศ.2477 มาตรา 7 นั้น กำหนดโทษไว้หนักกว่าความผิดฐานฆ่าคนตายตามมาตรา 250 ประกอบด้วยมาตรา 60
ฉะนั้นเมื่อศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 301 วรรค 3 แล้ว แม้โจทก์จะฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 250,60 ด้วย ศาลฎีกาก็ไม่จำเป็นจะต้องวินิจฉัยว่า จำเลยจะมีความผิดตามมาตรา 250 ประกอบด้วยมาตรา 60 ด้วยหรือไม่
ฉะนั้นเมื่อศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 301 วรรค 3 แล้ว แม้โจทก์จะฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 250,60 ด้วย ศาลฎีกาก็ไม่จำเป็นจะต้องวินิจฉัยว่า จำเลยจะมีความผิดตามมาตรา 250 ประกอบด้วยมาตรา 60 ด้วยหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 891/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานฆ่าผู้อื่น: การพิจารณาโทษหนักกว่าเมื่อมีความผิดตามมาตรา 301 วรรคสาม
ความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 301 วรรคสาม ตามที่แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 4)พ.ศ.2477 มาตรา 7 นั้น กำหนดโทษไว้หนักกว่าความผิดฐานฆ่าคนตายตามมาตรา 250 ประกอบด้วยมาตรา 60
ฉะนั้นเมื่อศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 301 วรรคสามแล้ว แม้โจทก์จะฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 250,60 ด้วย ศาลฎีกาก็ไม่จำเป็นจะต้องวินิจฉัยว่าจำเลยจะมีความผิดตามมาตรา 250 ประกอบด้วยมาตรา 60ด้วยหรือไม่
ฉะนั้นเมื่อศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 301 วรรคสามแล้ว แม้โจทก์จะฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 250,60 ด้วย ศาลฎีกาก็ไม่จำเป็นจะต้องวินิจฉัยว่าจำเลยจะมีความผิดตามมาตรา 250 ประกอบด้วยมาตรา 60ด้วยหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 516/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องอาญาฐานสมคบปล้นทรัพย์และทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย: เจตนาฆ่าต้องระบุชัดเจน
ฟ้องหาว่าจำเลยสมคบกันปล้นทรัพย์และใช้สาตราวุธตีแทงและฟันเจ้าทรัพย์มีบาดเจ็บหลายแห่ง เจ้าทรัพย์ทนพิษบาดแผลไม่ได้ถึงแก่ความตายในทันใดนั้นเอง ทั้งนี้เพื่อความสะดวกในการที่จะหลีกเลี่ยงอาญาและเพื่อจะเอาประโยชน์จากการกระทำผิด ไม่ได้บรรยายไว้ด้วยว่าในการทำร้ายเจ้าทรัพย์นั้นจำเลยมีเจตนาจะฆ่าเจ้าทรัพย์ให้ตายโดยเจตนาด้วย ดังนี้ยังถือไม่ได้ว่าเป็นฟ้องที่ขอให้ลงโทษตามมาตรา 250 ด้วย แม้โจทก์จะได้อ้างมาตรา 250มาในคำขอท้ายฟ้องด้วยก็ดี ศาลก็ลงโทษจำเลยตามมาตรา 250หาได้ไม่ คงลงโทษจำเลยได้แต่ตามมาตรา 301 ตอนท้ายเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1681/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความเข้าใจผิดในข้อเท็จจริงเป็นเหตุให้กระทำการป้องกันตนได้ แม้เป็นการยิงเจ้าพนักงาน
ตำรวจ 10 กว่าคนมีปืนตรูกันจะเข้าบ้านจำเลย เพื่อจะจับผู้ลักลอบเล่นการพนัน ในบ้านจำเลย แต่ความจริงไม่มีการลักลอบเล่นการพนันกันที่บ้านจำเลย ในขณะเกิดเหตุเป็นเวลากลางคืนเดือนมืดมากถิ่นนั้นก็มีผู้ร้ายปล้นชุกชุม จนจำเลยต้องเตรียมตัวระวังคนร้ายอยู่เสมอ จำเลยจึงเข้าใจผิดคิดว่าพวกตำรวจเป็นคนร้ายจะเข้าปล้น จำเลยจึงยิงปืนไปที่พวกตำรวจ 1 นัด เพื่อจะยับยั้งและหนีเอาตัวรอด ดังนี้ ถือได้ว่าเป็นการเข้าใจผิดในข้อเท็จจริง ยกขึ้นเป็นข้อแก้ตัวให้พ้นผิดได้ เพราะการกระทำของจำเลยเรียกได้ว่าจำเลยกระทำการโดยเจตนาเพื่อป้องกันตนและผู้อื่น โดยสุจริตและพอสมควรแก่เหตุ