พบผลลัพธ์ทั้งหมด 234 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 938/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำเพื่อป้องกันตัวในสถานการณ์ฉุกเฉิน การต่อสู้แย่งปืนไม่เกินสมควรแก่เหตุ
ผู้ตายจะเอาปืนยิงจำเลย จำเลยจึงเข้าแย่งปืนๆได้ลั่นขึ้น 1 นัด แล้วผู้ตายเอาลูกกระสุนบรรจุปืนและจะยิงจำเลยอีก จำเลยจึงแทงเอาปืนหลุดจากมือผู้ตายแล้วผู้ตายยังจะแย่งเอาปืนอีก จำเลยจึงต้องแทงผู้ตายอีกหลายที และเอาปืนยิงผู้ตายล้มลงขาดใจตาย ดังนี้ ไม่เป็นการเกินสมควรแก่เหตุ เพราะเมื่อผู้ตายยังพยายามจะแย่งเอาปืนจากจำเลยแล้ว อันตรายก็ยังมีอยู่ จำเลยจะหยุดยั้งเสียไม่ได้เพราะเป็นเวลาฉุกเฉิน การกระทำของจำเลยจึงได้รับการยกเว้นโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 50
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 840/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ: การกระชากปืนจากผู้ข่มขู่และป้องกันการแย่งชิง
จำเลยสพายปืนติดตามกระบือที่หาย พบผู้ตายกับพวกกำลังเล่นการพนันกันอยู่ พวกเล่นการพนันเข้าใจว่า จำเลยเป็นตำรวจจึงพากันวิ่งหนี แต่ผู้ตายกับพวกบางคนไม่หนี จึงทราบว่าจำเลยไม่ใช่ตำรวจ ผู้ตายไม่พอใจจึงเดินเข้าไปหา จำเลยเกรงว่าจะเข้ามาแย่งปืน จึงร้องว่า "อย่าเข้ามาเข้ามาจะยิง" ผู้ตายก็กระโดดคว้าปากกระบอกปืนจำเลย พวกผู้ตายจับปืนจำเลยช่วยกันดึง และผู้ตายชักมีดออกขู่ให้จำเลยปล่อยปืน จำเลยไม่ยอมปล่อยปืนและกระชากปืนโดยแรง ปืนไม่หลุดแต่จำเลยล้ม พวกจำเลยล้มทับจำเลย ปืนได้ลั่นถูกผู้ตายตาย ดังนี้ แม้การที่ปืนลั่นจะเป็นโดยจำเลยยิง การกระทำของจำเลยก็เป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 840/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: กรณีถูกข่มขู่และแย่งปืน
จำเลยสพายปืนติดตามกระบือที่หาย พบผู้ตายกับพวกกำลังเล่นการพะนันกันอยู่ พวกเล่นการพะนันเข้าใจว่า จำเลยเป็นตำรวจจึงพากันวิ่งหนี แต่ผู้ตายกับพวกบางคนไม่หนี จึงทราบว่าจำเลยไม่ใช่ตำรวจ ผู้ตายไม่พอใจจึงเดิน เข้าไปหา จำเลยเกรงว่าจะเข้ามาแย่งปืน จึงร้องว่า "อย่าเข้ามา เข้ามาจะยิง" ผู้ตายก็กระโดด คว้าปากกระบอกปืนจำเลย พวกผู้ตายจับปืนจำเลยช่วยกันดึง และผู้ตายชักมีดออกขู่ให้จำเลยจำเลยปล่อยปืน จำเลยไม่ยอมปล่อยปืนและกระชากปืนโดยแรง ปืนไม่หลุดแต่จำเลยล้ม พวกจำเลยทับจำเลย ปืนได้ลั่นถูกผู้ตาย, ตายดังนี้ แม้การที่ปืนลั่นจะเป็นโดยจำเลยยิง การกระทำของจำเลยก็เป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 837/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าโดยเจตนาจากความขัดแย้งในครอบครัว ศาลลดโทษจากพฤติการณ์และคำรับสารภาพ
ภรรยาประพฤติตัวไม่ดี ชอบเล่นการพนัน และไปค้างตามโรงแรม สามีว่ากล่าวตักเตือน ก็ไม่เชื่อฟัง กลับทุบตีวิวาทกับสามีสามีจึงใช้มีดฟันภรรยามีบาดแผล 11 แห่ง ภรรยาถึงแก่ความตายและจำเลยรับสารภาพชั้นสอบสวนมีประโยชน์แก่การพิจารณา ดังนี้ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าจำเลยสมควรได้รับความปรานี ลดโทษตามมาตรา 59 กึ่งหนึ่ง
การที่ฝ่ายหนึ่งตบหน้า อีกฝ่ายหนึ่งก็เอามีดฟันพฤติการณ์ทั้งนี้เป็นเรื่องวิวาท จะอ้างว่าป้องกันหรือถูกยั่วโทสะไม่ได้
การที่ฝ่ายหนึ่งตบหน้า อีกฝ่ายหนึ่งก็เอามีดฟันพฤติการณ์ทั้งนี้เป็นเรื่องวิวาท จะอ้างว่าป้องกันหรือถูกยั่วโทสะไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 837/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายภรรยาถึงแก่ความตาย ศาลลดโทษจากพฤติการณ์ภรรยาและคำรับสารภาพ
ภรรยาประพฤติตัวไม่ดี ชอบเล่นการพะนัน และไปค้างตามโรงแรม,สามีว่ากล่าวตักเตือน ก็ไม่เชื่อฟัง กลับทุบตีวิ วาทกับสามี ๆ จึงใช้มีดฟันภรรยามีบาดแผล 11 แห่ง ภรรยาถึงแต่ความตายและจำเลยรับสารภาพชั้นสอบสวนมีประ โยชน์แก่การพิจารณา ดังนี้ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าจำเลยสมควรได้รับความปราณี ลดโทษตามมาตรา 59 กึ่งหนึ่ง.
การที่ฝ่ายหนึ่งตบหน้า อีกฝ่ายหนึ่งก็เอามีดฟัน พฤติการณ์ทั้งนี้เป็นเรื่องวิวาท จะอ้างว่าป้องกันหรือถูกยั่วโทษะไม่
ได้./
การที่ฝ่ายหนึ่งตบหน้า อีกฝ่ายหนึ่งก็เอามีดฟัน พฤติการณ์ทั้งนี้เป็นเรื่องวิวาท จะอ้างว่าป้องกันหรือถูกยั่วโทษะไม่
ได้./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 699/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วิวาททำร้ายร่างกายด้วยอาวุธ ผู้กระทำไม่อ้างป้องกันหรือถูกยั่วยุได้
ทุกคนที่สมัครใจเข้าวิวาททำร้ายร่างกายกันนั้นจะอ้างว่าทำโดยป้องกันหรือถูกยั่วโทสะไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 699/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วิวาททำร้ายร่างกายด้วยความสมัครใจ ไม่อ้างป้องกันหรือยั่วโทสะได้
ทุกคนที่สมัครใจเข้าวิวาททำร้ายร่างกายกันนั้น จะอ้างว่าทำโดยป้องกันหรือถูกยั่วโทษะไม่ได้./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 673/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ป้องกันตนเกินเหตุ ทำร้ายซ้ำจนถึงแก่ความตาย
ผู้ตายเป็นคนอันธพาลและก่อเรื่องขึ้นก่อน ผู้ตายหยิบขวานจะลุกขึ้นทำร้ายจำเลยที่ 1 จึงแย่งขวานได้แล้วฟันผู้ตาย 1 ที และเรียกให้คนช่วย จำเลยอื่น ๆ ได้เข้ามาช่วยทำร้ายผู้ตายถึงตายเช่นนี้ การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นการป้อง กันตน ส่วนจำเลยนอกนั้นทำไปเพื่อป้องกันชืวิตจำเลยที่ 1 แต่จำเลยทำร้ายซ้ำ ๆจนผู้ตายถึงตาย จึงเป็นการเกิน สมควรแก่เหตุ./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 504/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัว: การใช้สัดส่วนในการตอบโต้การประทุษร้ายด้วยอาวุธอันตราย
พี่ชายถือขวานไล่ทำร้ายน้องชาย น้องชายหนีเข้าใต้ถุนเรือนก็ยังติดตามเข้าใต้ถุนเรือนไปเพื่อจะทำร้าย น้องชายหนีขึ้นเรือนของน้องชาย พี่ชายก็ยังตามขึ้นบันไดเรือนเพื่อจะร้ายอีก น้องชายจึงใช้มีดหวด ทำร้ายพี่ชาย 2
ที พี่ชายตกบันไดเรือนและถึงแก่ความตายเพราะพิษบาดแผลที่ถูกทำร้ายดังนี้ ถือได้ว่า น้องชายกระทำเพื่อป้องกัน
ตัวพอสมควรแก่เหตุ.
ที พี่ชายตกบันไดเรือนและถึงแก่ความตายเพราะพิษบาดแผลที่ถูกทำร้ายดังนี้ ถือได้ว่า น้องชายกระทำเพื่อป้องกัน
ตัวพอสมควรแก่เหตุ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 504/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัว: พี่ชายไล่ทำร้าย น้องชายใช้มีดป้องกันตนเองจนพี่ชายเสียชีวิต ศาลฎีกายืนหยัดการยกฟ้อง
พี่ชายถือขวานไล่ทำร้ายน้องชาย น้องชายหนีเข้าใต้ถุนเรือนก็ยังติดตามเข้าใต้ถุนเรือนไปเพื่อจะทำร้ายน้องชายหนีขึ้นเรือนของน้องชายพี่ชายก็ยังตามขึ้นบันไดเรือนเพื่อจะทำร้ายอีกน้องชายจึงใช้มีดหวดทำร้ายพี่ชาย 2 ที พี่ชายตกบันไดเรือนและถึงแก่ความตายเพราะพิษบาดแผลที่ถูกทำร้าย ดังนี้ ถือได้ว่า น้องชายกระทำเพื่อป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ