คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
กฎหมายลักษณะอาญา ม. 50

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 234 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 428/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ แม้ผู้ถูกทำร้ายเป็นนักเลงโตและอาจมีอาวุธ
จำเลยนั่งดูหนังตะลุงอยู่ดีๆ ผู้ตายซึ่งเมาสุราเข้าถีบหน้าจำเลยแล้วโดดข้ามไป พอจำเลยลุกขึ้นได้ ผู้ตายก็หันกลับมาชวนให้น่าเชื่อว่า ผู้ตายหันมาเพื่อทำร้ายจำเลยอีก ทั้งผู้ตายก็เป็นนักเลงโต อาจมีอาวุธติดตัวอยู่ก็ได้ แม้จำเลยไม่รู้ว่าผู้ตายมีอาวุธอะไร ก็เป็นเวลากระทันหันจวนตัว การที่จำเลยใช้มีดคู่ปลายแหลมแทงผู้ตายไป 1 ทีในขณะนั้นและผู้ตายตายเพราะพิษบาดแผลที่ถูกแทงนั้น ก็ถือได้ว่าจำเลยกระทำการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 428/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุจากการถูกทำร้ายในที่สาธารณะ
จำเลยนั่งดูหนังตะลุงอยู่ดี ๆ ผู้ตายซึ่งเมาสุราเข้าถีบหน้าจำเลยแล้วโดดข้ามไป พอจำเลยลุกขึ้นได้ ผู้ตายก็หันกลับ มาชวนให้น่าเชื่อว่า ผู้ตายหันมาเพื่อร้ายจำเลยอีก ทั้งผู้ตายก็เป็นนักเลงโต อาจมีอาวุธติดตัวอยู่ก็ได้ แม้จำเลยไม่รู้ว่าผู้ตายมีอาวุธอะไร ก็เป็นเวลากระทันหันจวนตัว การที่จำเลยใช้มีดคู่ปลายแหลมแทงผู้ตายไป 1 ที ในขณะนั้น และผู้ตายตายเพราะพิษบาดแผลที่ถูกแทงนั้น ก็ถือได้ว่าจำเลยกระทำการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ/

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 197/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ป้องกันตัวจากการถูกทำร้ายต่อเนื่อง แม้จมน้ำแล้ว ศาลยกฟ้อง
จำเลยไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุขึ้นก่อน แต่ผู้ตายเข้าใจว่าจำเลยตีภริยาตน จึงเกิดโทษะชักมีดวิ่งมาทำร้ายจำเลย ถึงกับ
กระโดดจากสพานน้ำไปหาจำเลยในเรือแล้วตกลงไปในน้ำด้วยกัน ผู้ตายโผกอดปล้ำเอามีดทำร้ายจำเลยมีบาดเจ็บ
ถึง 4 แห่ง จนจมน้ำไปด้วยกัน เมื่อต่างโผล่ขึ้นมาแล้วจำเลยจะต้องนึกรู้ว่าตนจะถูกทำร้ายอีก และจำเลยกำลังอ่อน
เพลียเพราะต้องจมน้ำ และน้ำตรงนั้นก็ลึกหยั่งไม่ถึง จะหลีกเลี่ยงด้วยวิธีอื่นไม่ได้ จำเลยจึงยิงผู้ตาย ตาย ดังนี้ ถือได้ว่าเป็นการป้องกันตัวที่ไม่เกินสมควรแก่เหตุ ควรได้รับยกเว้นโทษตามมาตรา 50.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 197/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยชอบธรรม: เหตุทำร้ายเกิดขึ้นก่อน, จำเลยตกอยู่ในภาวะอันตราย, และการใช้สิทธิป้องกันตัวที่สมควร
จำเลยไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุขึ้นก่อนแต่ผู้ตายเข้าใจว่าจำเลยตีภริยาตนจึงเกิดโทสะชักมีดวิ่งมาทำร้ายจำเลย ถึงกับกระโดดจากสะพานน้ำไปหาจำเลยในเรือแล้วตกลงไปในน้ำด้วยกันผู้ตายโผกอดปล้ำเอามีดทำร้ายจำเลยมีบาดเจ็บถึง 4 แห่ง จนจมน้ำไปด้วยกัน เมื่อต่างโผล่ขึ้นมาแล้วจำเลยจะต้องนึกรู้ว่าตนจะถูกทำร้ายอีกและจำเลยกำลังอ่อนเพลียเพราะต้องจมน้ำ และน้ำตรงนั้นก็ลึกหยั่งไม่ถึงจะหลีกเลี่ยงด้วยวิธีอื่นไม่ได้ จำเลยจึงยิงผู้ตายตาย ดังนี้ ถือได้ว่าเป็นการป้องกันตัวที่ไม่เกินสมควรแก่เหตุ ควรได้รับยกเว้นโทษตามมาตรา 50

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 196/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ป้องกันทรัพย์เกินสมควร: การใช้ปืนยิงผู้บุกรุกทำลายทรัพย์สิน
จำเลยใช้ปืนยิงคนร้ายที่กำลังฟันถากเปลือกต้นยางพาราในสวนของจำเลยในเวลากลางคืนกระสุนปืนถูกคนร้ายตายไป1 คนนั้นเป็นการกระทำป้องกันทรัพย์ แต่เกินสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 196/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ป้องกันทรัพย์เกินสมควร: การใช้ปืนยิงผู้บุกรุกทำลายทรัพย์สิน
จำเลยใช้ปืนยิงคนร้ายที่กำลังฟันถากเปลือกต้นยาพาราในสวนของจำเลยในเวลากลางคืน กระสุนปืนถูกคนร้ายตายไป 1 คน นั้นเป็นการกระทำป้องกันทรัพย์ แต่เกินสมควรแก่เหตุ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1550/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาระการพิสูจน์ในคดีอาญา: จำเลยอ้างป้องกันตัว โจทก์ต้องพิสูจน์ความผิด
จำเลยต่อสู้ว่า กระทำเพื่อป้องกันตัว มีผลเท่ากับว่าจำเลยมิได้กระทำความผิด เป็นหน้าที่โจทก์จะต้องนำสืบว่าจำเลยได้กระทำความผิดจริงดังฟ้อง จึงจะลงโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1528/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวและการใช้กำลังสัดส่วนกับภัยอันตราย
ผู้ตายขึ้นไปใช้ไม้ตีจำเลยซึ่งนั่งห้อยเท้าอยู่ริมพื้นเรือน จนคิ้วแตก และยังใช้มีดแทงซ้ำอีก จำเลยกดมือผู้ตายที่ถือมีดไว้กับพื้นเรือน แล้วจำเลยชักมีดของจำเลยแทงผู้ตายถูกกลางหลัง 1 ที ต่อมาผู้ตายก็ถึงแก่ความตายเพราะพิษบาดแผลที่จำเลยแทง ดังนี้วินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ ไม่ควรลงโทษ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1528/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัว: การใช้กำลังเพื่อปกป้องตนเองจากอันตรายที่ใกล้จะถึง แม้จะเป็นการตอบโต้
ผู้ตายขึ้นไปใช้ไม้ตีจำเลยซึ่งนั่งห้อยเท้าอยู่ริมพื้นเรือน จนคิ้วแตก และยังใช้มีดแทงซ้ำอีก จำเลยกดมือผู้ตายที่ถือมีดไว้กับพื้นเรือน แล้วจำเลยชักมีดของจำเลยแทนผู้ตายถูกกลางหลัง 1 ที ต่อมาผู้ตายก็ถึงแก่ความตายเพราะพิษบาดแผลที่จำเลยแทง ดังนี้ วินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ ไม่ควรลงโทษ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1337/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้ด้วยอาวุธ การพิสูจน์เจตนาฆ่า และความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา
จำเลยเตะผู้ตายสองทีก่อนผู้ตายชักมีดออกจะต่อสู้ จำเลยชักมีดออกบ้าง ต่างเดินเข้าหากันและต่างใช้มีดแทงต่อสู้กัน จำเลยแทงผู้ตายถูกใต้รักแร้ 1 ที ผู้ตายวิ่งหนีไปล้มลงถึงแก่ความตาย ดังนี้ การกระทำของจำเลยไม่ใช่เป็นการป้องกันตัว แต่จำเลยกับผู้ตายต่างมีมีดเข้าต่อสู้แทงทำร้ายกัน ผู้ตายถูกแทงแต่เพียง 1 ที ผู้ตายวิ่งหนี จำเลยก็ไม่ได้ติดตามไปทำร้ายซ้ำเติมอีก วินิจฉัยว่าจำเลยมีผิดเพียงฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 251
of 24