พบผลลัพธ์ทั้งหมด 173 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 472/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบกันฆ่าโดยเจตนา: การกระทำร่วมกันทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
จำเลยกับผู้มีชื่ออีก 3 คนเดินทางไปบ้านผู้ตายด้วยกันคนหนึ่งร้องท้าทายผู้ตาย ผู้ตายลงเรือนมาแล้วเกิดทำร้ายกันขึ้นกับผู้ที่ไปด้วยกันนั้นจำเลยก็ใช้มีดแทงผู้ตาย 1 ที แล้วจำเลยกับผู้มีชื่อก็หนีไปด้วยกันทั้งพวกปรากฏว่าผู้ตายตายในที่เกิดเหตุนั่นเอง ดังนี้ ถือว่าจำเลยกับพวกสมคบกันฆ่าผู้ตายตายโดยเจตนา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 472/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบกันฆ่า: การร่วมเดินทาง, ท้าทาย, และการอยู่ในที่เกิดเหตุแสดงเจตนา
จำเลยกับผู้มีชื่ออีก 3 คนเดินทางไปบ้านผู้ตายด้วยกัน คนหนึ่งร้องท้าทายผู้ตาย ๆ ลงเรือนมาแล้วเกิดทำร้ายกันขึ้นกับผู้ที่ไปด้วยกันนั้นจำเลยก็ใช้มีดแทงผู้ตาย 1 ที แล้วจำเลยกับผู้มีชื่อก็หนีไปด้วยกันทั้งพวกปรากฎว่าผู้ตายตายในที่เกิดเหตุนั่นเอง ดังนี้ถือว่าจำเลยกับพวกสมคบกันฆ่าผู้ตายตายโดยเจตนา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 303/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองวิทยุของกลาง: ความผิดฐานครอบครองโดยไม่มีอนุญาตต้องมีหลักฐานเชื่อมโยง
ตำรวจตรวจค้นได้เครื่องรับส่งวิทยุและเครื่องอุปกรณ์ อยู่บนบ้านขณะค้นเจ้าของบ้านไม่อยู่ คงอยู่แต่ภรรยาเจ้าของบ้านโจทก์ไม่มีพยานหลักฐานแต่อย่างใดเลยว่าภรรยาเจ้าของบ้านได้เกี่ยวข้องกับวิทยุของกลาง นอกจากคำของภรรยาเจ้าของบ้านเองว่ามีคนอื่นมาเช่าห้องเล็กชั้นบนนั้น โดยบอกว่าได้พูดตกลงกับสามีแล้วแล้วก็ขนของกลางมารูปคดีเพียงเท่านี้จะเอาผิดแก่ภรรยาฐานมีวิทยุของกลางไว้โดยไม่ได้รับอนุญาตไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 303/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ความเกี่ยวข้องกับของกลาง: ภรรยาไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง จึงไม่มีความผิด
ตำรวจตรวจค้นได้เครื่องรับส่งวิทยุและเครื่องอุปกรณ์ อยู่บนบ้าน ขณะค้นเจ้าของบ้านไม่อยู่ คงอยู่แต่ภรรยาเจ้าของบ้านโจทก์ไม่มีพยานหลักฐานแต่อย่างใดเลยว่า ภรรยาเจ้าของบ้านได้เกี่ยวข้องกับวิทยุของกลาง นอกจากคำของภรรยายเจ้าของบ้านเองว่ามีคนอื่นมาเช่าห้องเล็กชั้นบนนั้น โดยบอกว่าได้พูดตกลงกับสามีแล้ว แล้วก็ชนของกลางมา รูปคดีเพียงเท่านี้จะเอาผิดแก่ภรรยาฐานมีวิทยุของกลางไว้โดยไม่ได้รับอนุญาตไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1542/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสมคบคิดทำร้ายร่างกาย: พิจารณาจากเหตุการณ์ปัจจุบันทันด่วนและการกระทำต่างวัตถุประสงค์
จำเลยเป็นคนก่อเหตุขึ้นในวงรำวงก่อน แล้วมีผู้มาห้าม ระหว่างที่พูดขอร้องอยู่นั้น มีคนอีกคนหนึ่งสืบเท้าเข้ามาเอามีดพกปลายแหลมแทงผู้กล่าวห้าม 1 ที แล้วเอามีดกลับใส่ฝักเดินกลับไปยืนอยู่ในหมู่คน ผู้ถูกแทงเซไป จำเลยจึงเงื้อมีดจะแทงผู้นั้นบ้าง แต่มีผู้จับมีดไว้ได้เสียก่อน ดังนี้ จะถือว่าจำเลยสมคบกับผู้ที่แทงคนแรกในการทำร้ายร่างกายผู้ห้ามนั้น ยังไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1542/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบคิดทำร้ายร่างกาย: การกระทำต่อเนื่องและต่างจิตต่างใจไม่ถือเป็นความร่วมมือ
จำเลยเป็นคนก่อเหตุขึ้นในวงรำวงก่อน แล้วมีผู้มาห้ามระหว่างที่พูดขอร้องอยู่นั้น มีคนอีกคนหนึ่งสืบเท้าเข้ามาเอามีดพกปลายแหลมแทงผู้กล่าวห้าม 1 ที แล้วเอามีดกลับใส่ฝักเดินกลับไปยืนอยู่ในหมู่คน ผู้ถูกแทงเซไปจำเลยจึงเงื้อมีดจะแทงผู้นั้นบ้าง แต่มีผู้จับมีดไว้ได้เสียก่อน ดังนี้จะถือว่าจำเลยสมคบกับผู้ที่แทงคนแรกในการทำร้ายร่างกายผู้ห้ามนั้น ยังไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1507/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบฆ่า - การกระทำเกินเลย - ไม่มีความผิด
จำเลยกับผู้ตายเกิดวิวาทชกต่อยกันด้วยมือเปล่าก่อนจำเลยสู้ไม่ได้จึงร้องเรียกให้เพื่อนช่วย เพื่อเข้ามาช่วยแล้วใช้มีดแทงผู้ตาย ดังนี้เมื่อมีพฤติการณ์ประกอบให้เห็นว่าการแทงผู้ตายตายนั้น เป็นการกระทำของเพื่อนเอง ซึ่งเกินเลยจากที่จำเลยขอให้ช่วยแล้ว จำเลยก็ยังไม่ควรมีผิดฐานสมคบกันเพื่อฆ่าผู้ตายตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1507/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบคิดฆ่า: การกระทำเกินเลยขอบเขตที่ขอความช่วยเหลือ ไม่ถือเป็นความผิดสมคบคิด
จำเลยกับผู้ตายเกิดวิวาทชกต่อยกันด้วยมือเปล่าก่อน จำเลยสู้ไม่ได้จึงร้องเรียกให้เพื่อนช่วย เพื่อนเข้ามาช่วยแล้วใช้มีดแทงผู้ตาย ดังนี้ เมื่อมีพฤติการณ์ประกอบให้เห็นว่าการแทงผู้ตายตายนั้น เป็นการกระทำของเพื่อนเอง ซึ่งเกินเลยจากที่จำเลยขอให้ช่วยแล้ว จำเลยก็ยังไม่ควรมีผิดฐานสมคบกับเพื่อนฆ่าผู้ตาย ตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1312/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันทรัพย์เกินกว่าเหตุและการทำร้ายร่างกาย แม้ตกลงค่าสินสอดก่อนหน้า
ผู้เสียหายกับพวกมาเอาโคของจำเลย ซึ่งผู้เสียหายถือว่าจำเลยตกลงให้เป็นค่าสินสอดแก่ผู้เสียหาย จำเลยไม่ยอมให้ผู้เสียหายจึงเข้าไปจับโคในคอกของจำเลย ๆ จึงไ้ดใช้ดาบฟันผู้เสียหาย 3 ที จำเลยอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นบุตรจำเลยคนแรกเข้ามาใช้มีดโต้ฟันผู้เสียหายอีก 1 ที ผู้เสียหายมีบาดเจ็บถึงสาหัสดังนี้ แม้ผุ้เสียหายจะไม่มีสิทธิจะมาเอาโคนั้นไปโดยพละการแต่มูลกรณีที่ว่า จำเลยตกลงให้โคเป็นค่าสินสอดก็มีอยู่จริงจำเลยใช้มีดดาบฟันผู้เสียหายถึง 3 ทีติด ๆ กัน แล้วจำเลยผู้เป็นบุตรยังมาช่วยฟันอีก 1 ที จนผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บถึงสาหัส การกระทำของจำเลยนับว่าเป็นการรุนแรงและเกินควรแก่เหตุในการป้องกันทรัพย์มีผิดตามมาตรา 256 , 53 ก.ม.ลักษณะอาญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1312/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันทรัพย์เกินกว่าเหตุ กรณีผู้เสียหายพยายามเอาทรัพย์สินที่ตกลงกันไว้
ผู้เสียหายกับพวกมาเอาโคของจำเลย ซึ่งผู้เสียหายถือว่าจำเลยตกลงให้เป็นค่าสินสอดแก่ผู้เสียหาย จำเลยไม่ยอมให้ ผู้เสียหายจึงเข้าไปจับโคในคอกของจำเลย จำเลยจึงได้ใช้ดาบฟันผู้เสียหาย 3 ที จำเลยอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นบุตรจำเลยคนแรกเข้ามาใช้มีดโต้ฟันผู้เสียหายอีก 1 ทีผู้เสียหายมีบาดเจ็บถึงสาหัส ดังนี้ แม้ผู้เสียหายจะไม่มีสิทธิจะมาเอาโคนั้นไปโดยพลการ แต่มูลกรณีที่ว่าจำเลยตกลงให้โคเป็นค่าสินสอดก็มีอยู่จริง จำเลยใช้มีดดาบฟันผู้เสียหายถึง 3 ทีติดๆ กัน แล้วจำเลยผู้เป็นบุตรยังมาช่วยฟันอีก 1 ทีจนผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บถึงสาหัส การกระทำของจำเลยนับว่าเป็นการรุนแรงและเกินควรแก่เหตุในการป้องกันทรัพย์ มีผิดตามมาตรา 256,53 กฎหมายลักษณะอาญา