คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 1754

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 600 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 236/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความมรดก: การฟ้องเรียกทรัพย์ที่ยืมจากเจ้ามรดกหลังรู้การเสียชีวิต เกิน 1 ปี ถือขาดอายุความ
ทรัพย์ที่เจ้ามฤดกยืมมา เจ้าหนี้จะฟ้องเรียกคืนจากทายาทเกิน 1 ปีนับแต่รู้ว่าเจ้ามฤดกตายนั้นไม่ได้ โดยถือว่าขาดอายุความตาม ป.ม. แพ่งฯ มาตรา 1754

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 236/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความมรดก: การฟ้องเรียกทรัพย์สินจากทายาทหลังเจ้ามรดกเสียชีวิตเกิน 1 ปี
ทรัพย์ที่เจ้ามรดกยืมมา เจ้าหนี้จะฟ้องเรียกคืนจากทายาทเกิน 1 ปีนับแต่รู้ว่าเจ้ามรดกตายนั้นไม่ได้ โดยถือว่าขาดอายุความตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 94/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเรียกร้องหนี้จากทรัพย์มรดก: เจ้าหนี้มีสิทธิฟ้องทายาทภายใน 1 ปี แม้สัญญายังไม่ถึงกำหนด
เจ้าหนี้ของผู้ตายจะต้องเรียกร้องให้ชำระหนี้จากทรัพย์มรดกของลูกหนี้ใน 1 ปี นับแต่ลูกหนี้ตาย แม้สัญญาที่ผู้ตายซึ่งเป็นลูกหนี้ทำไว้ยังไม่ถึงกำหนดชำระ โจทก์ก็มีสิทธิฟ้องได้
แม้ทายาทของผู้ตายซึ่งเป็นลูกหนี้โจทก์จะเอาทรัพย์มรดกของผู้ตายไปเป็นความกันอย่างไร โจทก์ก็ฟ้องทายาทให้ชำระหนี้โจทก์ได้ ส่วนที่ทายาทเอาทรัพย์มรดกของผู้ตายไปเป็นความกันนั้น ไม่มีในฟ้องและคำให้การ จึงเป็นเรื่องนอกประเด็น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 94/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเรียกร้องหนี้จากทรัพย์มรดก: เจ้าหนี้มีสิทธิฟ้องทายาทภายใน 1 ปี แม้สัญญายังไม่ถึงกำหนด
เจ้าหน้าของผู้ตายจะต้องเรียกร้องให้ชำระหนี้จากทรัพย์มฤดกของลูกหนี้ใน 1 ปี นับแต่ลูกหนี้ตายแม้สัญญาที่ผู้ตายซึ่งเป็นลูกหนี้ทำไว้ยังไม่ทันถึงกำหนดชำระ โจทก์ก็มีสิทธิฟ้องได้
แม้ทายาทของผู้ตายซึ่งเป็นลูกหนี้โจทก์จะเอาทรัพย์มฤดกของผู้ตายไปเป็นความกันอย่างไร โจทก์ก็ฟ้องทายาทให้ชำระหนี้โจทก์ได้ ส่วนที่ทายาทเอาทรัพย์มฤดกของผู้ตายไปเป็นความกันนั้น ไม่มีในฟ้องและคำให้การ จึงเป็นเรื่องนอกประเด็น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1445/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์และอายุความมรดกในที่ดินมรดกเมื่อไม่มีทายาทอื่นเกี่ยวข้อง
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลแสดงว่าที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ โดยเจ้าของที่ดินยกให้ ต่อมาเจ้าของที่ดินตาย โจทก์ครอบครองตลอดมาเกินอายุความ 1 ปีแล้ว จำเลยต่อสู้ว่าเจ้าของที่ได้ยกที่พิพาทให้จำเลยไม่ใช่ให้โจทก์ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์จำเลยต่างเป็นทายาทของเจ้าของที่ดิน ได้ครอบครองที่พิพาทร่วมกัน และโจทก์ฟ้องคดีเมื่อเกินอายุความมรดกแล้ว ไม่มีทายาทคนอื่นของเจ้าของที่ดินเข้ามาเกี่ยวข้อง ศาลย่อมพิพากษาแบ่งส่วนที่รายพิพาทให้แก่โจทก์ จำเลยได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 960/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองทรัพย์มรดกและการขาดอายุความ การครอบครองร่วมต้องปรากฏชัดเจน
โจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดก ต.ซึ่งปรากฏในคำฟ้องว่าตายมาประมาณ5 ปีแล้ว โดยโจทก์อ้างว่า โจทก์จำเลยได้ครอบครองร่วมกันมา เมื่อทางพิจารณาฟังได้ว่าทายาทได้มอบให้จำเลยครอบครองทรัพย์มรดกมาแต่ผู้เดียวโจทก์ไปอยู่ที่อื่น ซึ่งมีการช่วยทำนาบ้าง แต่ไปทำเพราะช่วยจำเลย โดยจำเลยมีคนน้อย ดังนี้ ฟังไม่ได้ว่าโจทก์ได้ครอบครองทรัพย์มรดกร่วมมากับจำเลย คดีของโจทก์ก็ขาดอายุความ
ข้อที่โจทก์เบิกความว่าจำเลยครอบครองมรดกไว้แทนโจทก์นั้น โจทก์ไม่ได้กล่าวอ้างไว้ในคำฟ้อง ต้องถือว่าความข้อนี้นอกประเด็น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 632/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสิ้นสิทธิในมรดกและการฟ้องขับไล่ผู้ครอบครอง โดยการขอทำนาและการไม่เข้าครอบครองต่อเนื่อง
ฟ้องโจทก์กล่าวชัดว่า จำเลยมาขอทำนาในปี พ.ศ.2488-2489ครั้น พ.ศ.2490 โจทก์จะเอาคืนจำเลยไม่ยอมให้ การที่โจทก์มิได้ระบุวันหรือเดือนที่จำเลยมาขอทำไม่เป็นเหตุที่จะถือว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุมเพราะวันเดือนที่ขอทำไม่ใช่ข้อสำคัญในคดี
ผู้มีสิทธิรับมรดกไม่ได้ปกครองภายใน 1 ปี ภายหลังเข้ามาขออาศัยผู้มีสิทธิรับมรดก ซึ่งปกครองตลอดมาดังนี้ ผู้ที่ปกครองฟ้องขับไล่ผู้ขออาศัยได้ โดยถือว่าผู้ขออาศัยหมดสิทธิแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 372/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิทายาทแทนที่, ความไม่สุจริตผู้จัดการมรดก, และอายุความในการเรียกร้องทรัพย์มรดก
น้าของเจ้ามรดกเป็นทายาทของเจ้ามรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1629(6) อยู่แล้ว แม้จะตายไปก่อนเจ้ามรดก ผู้สืบสันดานของเขา ย่อมมีสิทธิรับมรดกแทนที่ ตามมาตรา 1639 โดยตรง
การที่จำเลยไปร้องขอต่อศาลให้ตั้งจำเลยเป็นผู้จัดการมรดกนั้น จำเลยได้ปกปิดความจริงอันควรบอกให้ชัดแจ้งว่าทายาทโดยธรรมของผู้ตาย ยังคงมีตัวอยู่ถึง 3 คนแสดงความไม่สุจริตของจำเลยมาตั้งแต่ต้น และเมื่อได้รับตั้งเป็นผู้จัดการมรดกแล้ว จำเลยก็ไม่ปรารถนาที่จะทำบัญชีทรัพย์มรดกตามหน้าที่ที่กฎหมายบังคับไว้ในมาตรา 1728,1729 ซ้ำในชั้นศาล ในคดีนี้ จำเลยก็ยังคงยืนยันว่าโจทก์ไม่ใช่ทายาทโดยธรรมที่จะได้รับมรดกย่อมเป็นการสมควรทุกประการที่ศาลจะถอนจำเลยจากการเป็นผู้จัดการมรดกเสียตามมาตรา 1731
คดีที่ทายาทเรียกร้องเอาทรัพย์สินอันเป็นกรรมสิทธิ์ตกทอดแก่ตน โดยขอให้ถอดถอนผู้จัดการมรดกเสียก่อนโดยจำเลยซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกเป็นผู้ที่ไม่มีสิทธิในกองมรดกที่จะยึดถือทรัพย์สินอันเป็นมรดกนั้นไว้อย่างไรได้แม้จำเลยจะยังคงเป็นผู้จัดการมรดกอยู่จำเลยก็ต้องรับผิดต่อทายาทตามมาตรา 1720 โดยลักษณะตัวแทนตัวการ จำเลยจะยกฐานะผู้จัดการมรดกมาต่อสู้อายุความกับทายาทตามมาตรา 1754,1755 หาได้ไม่
คดีเกี่ยวกับการจัดการมรดก ผู้จัดการมรดกจะยกอายุความขึ้นต่อสู้ทายาทได้ก็แต่มาตรา 1733 วรรคสอง ซึ่งมีกำหนด 5 ปี นับแต่การจัดการมรดกสุดสิ้นลง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 372/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอดถอนผู้จัดการมฤดก กรณีปกปิดข้อมูลทายาท และความรับผิดของผู้จัดการมฤดกต่อทายาท
น้าของเจ้ามฤดกเป็นทายาทของเจ้ามฤดกตาม ป.ม.แพ่ง ฯ มาตรา 1629 (6) อยู่แล้ว แม้จะตายไปก่อนเจ้ามฤดก ผู้สืบสันดานของเขา ย่อมมีสิทธิรับมฤดกแทนที่ ตามมาตรา 1639 โดยตรง
การที่จำเลยไปร้องขอต่อศาลให้ตั้งจำเลยเป็นผู้จัดการมฤดกนั้น จำเลยได้ปกปิดความจริงอันควรบอกให้ชัดแจ้งว่า ทายาทโดยธรรมของผู้ตาย ยังคงมีตัวอยู่ถึง 3 คน แสดงความไม่สุจริตของจำเลยมาตั้งแต่ต้น และเมื่อได้รับตั้งเป็นผู้จัดการมฤดกแล้ว จำเลยก็ไม่ปรารถนาที่จะทำบัญชีทรัพย์มฤดกตามหน้าที่ที่กฎหมายบังคับไว้ในมาตรา 1728,1729 ซ้ำในชั้นศาล ในคดีนี้จำเลยก็ยังคงยืนยันว่าโจทก์ไม่ใช่ทายาทโดยธรรม ที่จะได้รับมฤดก ย่อมเป็นการสมควรทุกประการที่ศาลจะถอนจำเลยจากการเป็นผู้จัดการมฤดกเสียตามมาตรา 1731.
คดีที่ทายาทเรียกร้องเอาทรัพย์สินอันเป็นกรรมสิทธิตกทอดแก่ตนโดยขอให้ถอดถอนผู้จัดการมฤดกเสียก่อนโดยจำเลยซึ่งเป็นผู้จัดการมฤดกเป็นผู้ที่ไม่มีสิทธิในกองมฤดกที่จะยึดถือทรัพย์สินอันเป็นมฤดกนั้นไว้อย่างไรได้ แม้จำเลยจะยังคงเป็นผู้จัดการมฤดกอยู่ จำเลยก็ต้องรับผิดต่อทายาทตามมาตรา 1720 โดยลักษณะตัวแทนตัวการ จำเลยจะยกฐานะผู้จัดการมฤดกมาต่อสู้อายุความกับทายาทตามมาตรา 1754, 1755 หาได้ไม่
คดีเกี่ยวกับการจัดการมฤดก ผู้จัดการมฤดกจะยกอายุความ ขึ้นต่อสู้ทายาทได้ก็แต่มาตรา 1733 วรรค 2 ซึ่งมีกำหนด 5 ปี นับแต่การจัดการมฤดกสุดสิ้นลง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 43/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลพินัยกรรมตัดสิทธิทายาทโดยธรรมและข้อจำกัดเรื่องอายุความเรียกร้อง
ผู้ตายได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินของผู้ตายให้แก่บุคคลอื่นแต่ผู้เดียวทายาทโดยธรรมของเจ้ามรดก จึงถูกตัดมิให้รับมรดก ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1608 วรรคท้าย ฉะนั้นทายาทโดยธรรมของเจ้ามรดก จึงไม่อยู่ในฐานะที่เป็นทายาทของผู้ตายตาม มาตรา 1755จะอ้างอายุความ 1 ปีตามมาตรา 1754 มายันกับผู้รับพินัยกรรมในทรัพย์สินนั้นไม่ได้
เคยพิพาทกันถึงเรื่องพินัยกรรม ศาลได้พิพากษาว่าพินัยกรรมนั้นสมบูรณ์และคดีถึงที่สุดแล้วต่อมามีข้อพิพาทเกี่ยวกับพินัยกรรมฉบับเดียวกันนั้นศาลต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลได้ชี้ขาดมาแล้วในคดีก่อน
of 60