คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
จำรูญเนติศาสตร์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 907 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 486/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องอาญา – ข้อเท็จจริงต่างจากฟ้อง – ความผิดฐานฆ่า – ของที่ใช้ทำร้ายไม่ตรงตามที่ระบุในฟ้อง
โจทก์ฟ้องบรรยายว่า จำเลยใช้มีดแทงผู้ตาย ตายโดยเจตนาฆ่า แต่ตามท้องสำนวนได้ความว่า ผู้ตายถูกแทงด้วยของแข็งแหลม ดังนี้ แม้จะไม่ได้ความชัดว่า ถูกแทงด้วยมีดดังโจทก์ระบุ - ในฟ้อง ก็เป็นการถูกแทงเช่นเดียวกัน หาใช่เป็นกรณีข้อเท็จจริงในทางพิจารณาต่างกับคำบรรยายฟ้อง อันจะทำให้ฟ้องตกไปตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 192 ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 363/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฎีกาต้องระบุประเด็นชัดเจน ห้ามอ้างคำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นส่วนหนึ่งของฎีกา
ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่จะยกขึ้นอ้างในฎีกานั้น คู่ความจะต้องกล่าวไว้โดยชัดแจ้งในฎีกา จะขอให้ถือเอาคำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นส่วนหนึ่งแห่งคำฎีกาด้วยนั้น ย่อมเป็นการไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 363/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องระบุข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายชัดเจน ห้ามอ้างคำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นส่วนหนึ่งของฎีกา
ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่จะยกขึ้นอ้างอิงในฎีกานั้นคู่ความจะต้องกล่าวไว้โดยชัดแจ้งในฎีกา จะขอให้ถือเอาคำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นส่วนหนึ่งแห่งคำฎีกาด้วยนั้นย่อมเป็นการไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 245/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สมคบยักยอกทรัพย์: ไม่จำกัดเฉพาะผู้รับมอบหมายทรัพย์
ความผิดฐานสมคบกันกระทำผิดฐานยักยอกทรัพย์นั้น ผู้กระทำผิดทุกคนหาจำเป็นจะต้องได้รับมอบหมายทรัพย์ที่ยักยอกโดยตนเองทุกๆ คนเสมอไปไม่ เมื่อได้ร่วมมือร่วมใจกันกระทำการยักยอกกับผู้ที่ได้รับมอบหมายทรัพย์มาก็อาจเป็นความผิดฐานสมคบกันยักยอกทรัพย์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 241/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดทรัพย์สินโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายจากประกาศกฎอัยการศึก และความรับผิดทางละเมิด
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารเข้ายึดทรัพย์สินและกิจการของบริษัทฯหนึ่ง โดยอาศัยอำนาจกฎอัยการศึกพ.ศ.2457 มาตรา 12 แล้วให้กองทัพบกจัดการเกณฑ์ทรัพย์สินของบริษัทนี้ให้มาเป็นกรรมสิทธิ์ของทางราชการทหารตามพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พ.ศ.2457 มาตรา 10 ข้อ 2 ประกอบ ด้วยพระราชบัญญัติเกณฑ์พลเมืองอุดหนุนราชการทหาร พ.ศ.2464 แต่กระทรวงกลาโหมหาได้ดำเนินการเกณฑ์ตาม พระราชบัญญัติเกณฑ์พลเมืองอุดหนุนราชการทหารพ.ศ.2464 ไม่คงยึดแต่ทรัพย์สินของบริษัทไว้เป็นเวลาถึงเกือบ 3 ปี โดยไม่ปรากฏความจำเป็นแล้วจึงคืนให้บริษัท ดังนี้ ย่อมเป็นการยึดโดยมิได้มีอำนาจอันชอบด้วยกฎหมายเพราะพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พ.ศ.2457 มาตรา 12 ให้อำนาจที่จะทำการยึดไว้ชั่วคราวเท่านั้นฉะนั้นเมื่อทางกระทรวงกลาโหมไม่ดำเนินการให้ถูกต้องดังกล่าวแล้ว ก็ย่อมเป็นการละเมิดสิทธิของบริษัทที่ถูกยึด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420,421 กระทรวงกลาโหมจึงต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่บริษัท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 241/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดทรัพย์สินโดยไม่ดำเนินการตามกฎหมาย ก่อให้เกิดละเมิดและต้องชดใช้ค่าเสียหาย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้สั่งเจ้าหน้าที่ - ฝ่ายทหารเข้ายึดทรัพย์สินและกิจการของบริษัทฯหนึ่ง โดยอาศัยอำนาจกฎอัยการศึก พ.ศ. 2457 มาตรา 12 แล้วให้กองทัพบกจัดการเกณฑ์ทรัยพ์สินของบริษัทนี้ให้มาเป็น - กรรมสิทธิของทางราชการทหารตามพ.ร.บ.กฎอัยการศึก พ.ศ. 2457 มาตรา 10 ข้อ 2 ประกอบด้วยพ.ร.บ.เกณฑ์พลเมืองอุดหนุนราชการทหาร พ.ศ. 2469 กระทรวงกลาโหมหาได้ดำเนินการเณฑ์ตามพ.ร.บ.เกณฑ์พลเมืองอุดหนุนราชการทหาร พ.ศ. 2464 ไม่ คงยึดแต่ทรัพย์สินของบริษัทไว้เป็นเวลาถึงเกือบ 3 ปี แล้วจึงคืนให้บริษัท ดังนี้ ย่อมเป็นการยึดโดยมิได้มีอำนาจอันชอบด้วยกฎหมาย เพราะพ.ร.บ.กฎอัยการศึก พ.ศ. 2457 มาตรา 12 ให้อำนาจที่จะทำการยึดไว้ชั่วคราวเท่านั้น ฉะนั้นเมื่อทางกระทรวงกลาโหมไม่ดำเนินการให้ถูกดต้องดังกล่าวแล้ว ก็ย่อมเป็นการละเมิดสทิธิของบริษัทที่ถูกยึด ตามป.ม.แพ่งฯมาตรา 420 , 421 กระทรวงกลาโหมจึงต้องรับผิดใช่ค่าสินไหมทดแทนให้แก่บริษัท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 121/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงข้อหาจากฆ่าคนตายโดยเจตนาเป็นฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา และสิทธิในการฎีกาข้อเท็จจริง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249 ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตามมาตรา 251 ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโดยไม่เชื่อข้อเท็จจริง ดังนี้ โจทก์ยังมีสิทธิฎีกาในข้อเท็จจริงขอให้ศาลฎีกาลงโทษจำเลยในความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตามมาตรา 249 ได้ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 121/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพากษาคดีฆ่าคนตายโดยเจตนา: ศาลฎีกาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าโดยเจตนา
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 249 ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตามมาตรา 251 ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโดยไม่เชื่อข้อเท็จจริงดังนี้ โจทก์ยังมีสิทธิฎีกาในข้อเท็จจริง ขอให้ศาลฎีกาลงโทษจำเลยในความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตามมาตรา 249 ได้ไม่ต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.
อาญามาตรา 219.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 105/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีเลิกหุ้นส่วนไม่มีทุนทรัพย์: ศาลแขวงมีอำนาจพิจารณา แม้เคยมีคำพิพากษายกฟ้องมาก่อน ไม่ขัดมาตรา 144/148
โจทก์ฟ้องขอเลิกหุ้นส่วนและตั้งผู้ชำระบัญชี ไม่ใช่เป็นเรื่องเรียกร้องทรัพย์สิน หรือส่วนแบ่งอย่างใด จึงเป็นคดีมีคำขอปลดเปลื้องทุกข์ อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้หรืออีกนัยหนึ่งเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ เพราะโจทก์ไม่ได้เรียกร้องทรัพย์สิน และคดีก็ไม่ได้พิพาทกันว่าทรัพย์สินในหุ้นส่วนนี้มีอะไรบ้าง คดีอยู่ในอำนาจของศาลแขวงที่จะพิจารณาได้
ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 144 เป็นเรื่องห้ามมิให้ศาลดำเนินกระบวนพิจารณาในคดีเดิมที่ได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดแล้วใหม่อีก ส่วนมาตรา 148 ห้ามมิให้คู่ความฟ้องซ้ำ
โจทก์ฟ้องคดีต่อศาลแขวงๆพิพากษายกฟ้องโดยวินิจฉัยว่าเป็นคดีเกินอำนาจศาลแขวง โจทก์มิได้อุทธรณ์คงนำคดีนั้นไปฟ้องยังศาลแพ่ง ศาลแพ่งพิพากษายกฟ้องอีก
โดยวินิจฉัยว่า เป็นคดีอยู่ในอำนาจศาลแขวง โจทก์จึงมายื่นฟ้องต่อศาลแขวงอีกครั้งหนึ่ง ดังนี้ เป็นเรื่องโจทก์มาฟ้องเป็นคดีใหม่ กรณีไม่ใช่มาตรา 144 และไม่ต้องห้ามตามมาตรา 148 เพราะศาล-ยังมิได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งวินิจฉัยชี้ขาดในเรื่องอันเป็นมูลฟ้องนั้น ศาลแขวงต้องรับฟ้องโจทก์ไว้ดำเนินคดีต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 105/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลและฟ้องซ้ำ: คดีเลิกหุ้นส่วนที่ไม่เกินอำนาจศาลแขวง
โจทก์ฟ้องขอเลิกหุ้นส่วนและตั้งผู้ชำระบัญชี ไม่ใช่เป็นเรื่องเรียกร้องทรัพย์สิน หรือส่วนแบ่งอย่างใด จึงเป็นคดีมีคำขอปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้หรืออีกนัยหนึ่งเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ เพราะโจทก์ไม่ได้เรียกร้องทรัพย์สิน และคดีก็ไม่ได้พิพาทกันว่าทรัพย์สินในหุ้นส่วนนี้มีอะไรบ้างคดีอยู่ในอำนาจของศาลแขวงที่จะพิจารณาได้
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144เป็นเรื่องห้ามมิให้ศาลดำเนินกระบวนพิจารณาในคดีเดิมที่ได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดแล้วใหม่อีก ส่วนมาตรา148 ห้ามมิให้คู่ความมาฟ้องซ้ำ
โจทก์ฟ้องคดีต่อศาลแขวง ศาลแขวงพิพากษายกฟ้องโดยวินิจฉัยว่าเป็นคดีเกินอำนาจศาลแขวง โจทก์มิได้อุทธรณ์คงนำคดีนั้นไปฟ้องยังศาลแพ่งศาลแพ่งพิพากษายกฟ้องอีกโดยวินิจฉัยว่า เป็นคดีอยู่ในอำนาจศาลแขวงโจทก์จึงมายื่นฟ้องต่อศาลแขวงอีกครั้งหนึ่งดังนี้ เป็นเรื่องโจทก์มาฟ้องเป็นคดีใหม่กรณีไม่ใช่มาตรา 144 และไม่ต้องห้ามตามมาตรา 148 เพราะศาลยังมิได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งวินิจฉัยชี้ขาดในเรื่องอันเป็นมูลฟ้องนั้นศาลแขวงต้องรับฟ้องโจทก์ไว้ดำเนินคดีต่อไป
of 91