คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
กฎหมายลักษณะอาญา ม. 12

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 24 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 564/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษจำเลยในคดีใหม่ เมื่อเคยต้องโทษปรับก่อนหน้า ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าเพิ่มโทษได้เฉพาะผู้เคยถูกจำคุก
โทษปรับเป็นโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 12 ทั้งเป็นโทษตามประมวลกฎหมายอาญา ม.18 ด้วย แต่การจะเพิ่มโทษตามประมวลกฎหมายอาญา ม.92 (ก.ม.อาญา ม.72) นั้น จะกระทำได้เฉพาะผู้ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุกเท่านั้น ผู้ที่เคยต้องโทษปรับจะเพิ่มโทษด้วยหาได้ไม่
ก่อนคดีนี้จำเลยเคยต้องโทษจำคุก 1 เดือนปรับ 150 บาท ฐานเล่นการพนันสลากกินรวบ แต่โทษจำคุกศาลให้รอการลงอาญาไว้ คงปรับแต่สถานเดียว เมื่อจำเลยมากระทำผิดในคดีนี้อีกภายในกำหนด ดังนี้จะเพิ่มโทษจำเลยหาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 564/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษผู้เคยต้องโทษปรับ: ศาลฎีกาตัดสินว่าเพิ่มโทษตามกฎหมายอาญาไม่ได้หากเคยติดโทษปรับ
โทษปรับเป็นโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 12 ทั้งเป็นโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา18 ด้วยแต่การจะเพิ่มโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 92(กฎหมายอาญามาตรา72) นั้น จะกระทำได้เฉพาะผู้ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุกเท่านั้น ผู้ที่เคยต้องโทษปรับจะเพิ่มโทษด้วยหาได้ไม่
ก่อนคดีนี้จำเลยเคยต้องโทษจำคุก 1 เดือนปรับ 150 บาท ฐานเล่นการพนันสลากกินรวบ แต่โทษจำคุกศาลให้รอการลงอาญาไว้คงปรับแต่สถานเดียวเมื่อจำเลยมากระทำผิดในคดีนี้อีกภายในกำหนดดังนี้จะเพิ่มโทษจำเลยหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 625/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจสั่งห้ามประกอบกิจการของเทศบาล: ต้องอาศัยเทศบัญญัติและโทษปรับตามกฎหมาย
มาตรา 8 พระราชบัญญัติสาธารณสุขมิได้กำหนดให้อำนาจเทศบาลสั่งห้ามการกระทำเกี่ยวกับสุขลักษณ์โดยทั่วไปแต่ให้มีอำนาจออกเทศบัญญัติหรือข้อบังคับควบคุมได้ถ้าผู้ใดไม่ปฏิบัติตามก็ชอบที่จะขอให้ลงโทษตาม มาตรา 68 จะดำเนินคดีแพ่งอย่างเดียวขอให้ห้ามมิให้ผู้กระทำผิดกระทำการต่อไปไม่ได้
อำนาจสั่งห้ามผู้กระทำผิดมิให้กระทำต่อไปตาม มาตรา 68นั้นเป็นวิธีอุปกรณ์ของโทษปรับตาม มาตรา นั้นเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 279/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบเครื่องมือประมง: เจ้าของที่ไม่รู้เห็นการกระทำผิดไม่ต้องรับโทษ
มาตรา 70 แห่ง พ.ร.บ.การประมง 2490 บัญญัติว่า "เครื่องมือทำการประมงที่ได้มีประกาศตามความในมาตรา 32 ห้ามมิให้บุคคลใดใช้โดยเด็ดขาดนั้น ถ้านำมาใช้ทำการประมงในที่จับสัตว์น้ำ ให้ศาลริบเครื่องมือนั้นเสีย " นั้น ถ้าปรากฎว่าเจ้าของเครื่องมือนั้นมิได้รู้เห็นในการกระทำผิดด้วย ก็จะไปริบเครื่องมือนั้นไม่ได้ ต้องคืนแก่เจ้าของไปเพราะการริบเป็นโทษอย่างหนึ่งจะไปลงโทษเอาแก่เจ้าของซึ่งเป็นผู้ไม่ได้กระทำผิดย่อมไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 279/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบเครื่องมือทำการประมง - เจ้าของต้องรู้เห็นการกระทำผิด
มาตรา 70 แห่ง พระราชบัญญัติการประมง 2490 บัญญัติว่า'เครื่องมือทำการประมงที่ได้มีประกาศตามความในมาตรา 32 ห้ามมิให้บุคคลใดใช้โดยเด็ดขาดนั้น ถ้านำมาใช้ทำการประมงในที่จับสัตว์น้ำ ให้ศาลริบเครื่องมือนั้นเสีย'นั้น ถ้าปรากฏว่าเจ้าของเครื่องมือนั้นมิได้รู้เห็นในการกระทำผิดด้วย ก็จะไปริบเครื่องมือนั้นไม่ได้ ต้องคืนแก่เจ้าของไปเพราะการริบเป็นโทษอย่างหนึ่งจะไปลงโทษเอาแก่เจ้าของซึ่งเป็นผู้ไม่ได้กระทำผิดย่อมไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1682/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์และฎีกาเพื่อขอลดโทษกักกัน ศาลฎีกายกรับฟังเนื่องจากเป็นดุลพินิจของศาลชั้นต้น
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 5 ปี และกำหนดโทษกักกันไม่เกิน 5 ปีจำเลยจะฎีกาขอให้ลดหรืองดโทษกักกันอันเป็นเรื่องเกี่ยวแก่ดุลพินิจของศาล ซึ่งเป็นปัญหาข้อเท็จจริงนั้นไม่ได้ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1682/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฎีกาขอลดโทษกักกันหลังศาลอุทธรณ์ยืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น การพิจารณาเป็นดุลยพินิจของศาล
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 5 ปี และกำหนดโทษกักกันไม่เกิน 5 ปี จำเลยจะฎีกาขอให้ลดหรืองดโทษกักกันอันเป็นเรื่องเกี่ยวแก่ดุลยพินิจของศาล ซึ่งเป็นปัญหาข้อเท็จจริงนั้นไม่ได้ต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 218

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1872/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบและการบังคับตามสัญญาทัณฑ์บล: ศาลไม่เพิ่มโทษหากประกันทัณฑ์บลไม่ใช่การลงโทษ และการฟ้องเรียกค่าเสียหายจากสัญญาทัณฑ์บลต้องทำในคดีก่อน
จำเลยได้กระทำผิด และศาลได้เรียกประกันทัณฑ์บลจากผู้ปกครองจำเลย ต่อมาจำเลยได้กระทำความผิดขึ้นอีกภายในกำหนดทัณฑ์บลนั้น ศาลจะเพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบแก่จำเลยในคดีครั้งหลังไม่ได้ เพราะการที่ศาลเรียกประกันทัณฑ์บลจากผู้ปกครองของจำเลยในคดีก่อน หาใช่เป็นการลงโทษจำเลยไม่ ส่วนการที่ขอให้ปรับผู้ปกครองฐานผิดสัญญาทัณฑ์บลนั้นก็เป็นเรื่องที่โจทก์ควรขอในคดีก่อน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1872/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทัณฑ์บนไม่ใช่การลงโทษ เพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบไม่ได้ และการผิดสัญญาทัณฑ์บนต้องฟ้องในคดีก่อน
จำเลยได้กระทำผิดและศาลได้เรียกประกันทัณฑ์บนจากผู้ปกครองจำเลย ต่อมาจำเลยได้กระทำความผิดขึ้นอีกภายในกำหนดทัณฑ์บนนั้น ศาลจะเพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบแก่จำเลยในคดีครั้งหลังไม่ได้ เพราะการที่ศาลเรียกประกันทัณฑ์บนจากผู้ปกครองของจำเลยในคดีก่อน หาใช่เป็นการลงโทษจำเลยไม่ ส่วนการที่ขอให้ปรับผู้ปกครองฐานผิดสัญญาทัณฑ์บนนั้นก็เป็นเรื่องที่โจทก์ควรขอในคคีก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 800/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ดุลพินิจลงโทษจำคุกตาม พ.ร.บ.การพนัน ศาลมีอำนาจลงโทษจำคุกสถานเดียวได้
พระราชบัญญัติการพนันไม่มีบทมาตราใดที่บัญญัติ ไม่ให้ศาลใช้ดุลพินิจที่จะวางโทษจำคุกสถานเดียวศาลก็ย่อมอาศัยกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 23 ประกอบด้วยมาตรา 11 ใช้ในการดุลพินิจลงโทษจำคุกจำเลยแต่สถานเดียวได้ (อ้างฎีกา831/2479)
of 3