พบผลลัพธ์ทั้งหมด 154 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2135/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานลักทรัพย์หรือยักยอกทรัพย์: การยึดถือครอบครองทรัพย์ที่หล่นหาย และเจตนาเอาทรัพย์ไปเป็นของตนเอง
เจ้าทรัพย์ลืมกระเป๋าทิ้งไว้ที่ข้างเกียร์บนรถยนต์ที่จำเลยเป็นผู้ขับขี่มีบุคคลอื่นมาพบและเก็บได้ถามว่ากระเป๋าของใคร ผู้โดยสารคนหนึ่งว่าเป็นของเขา ผู้เก็บได้จึงส่งกระเป๋าเงินให้จำเลยไปให้ผู้โดยสารคนนั้นเพราะมาด้วยกัน แต่จำเลยกลับเอาไว้เสียเองเช่นนี้การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานยักยอกมิใช่ลักทรัพย์ เพราะเมื่อเจ้าทรัพย์ลืมกระเป๋าเงินทิ้งไว้กรณีเป็นเก็บของตก ความยึดถือครอบครองทรัพย์ย่อมตกอยู่แก่คนกระเป๋ารถๆ มอบทรัพย์ให้อยู่ในความยึดถือครอบครองของจำเลยอีกตอนหนึ่งโดยจำเลยไม่ทราบว่าเป็นของใคร เมื่อจำเลยเอาไว้เป็นประโยชน์ส่วนตัวเสียจึงมีความผิดฐานยักยอกทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2135/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานลักทรัพย์หรือยักยอกทรัพย์: การครอบครองทรัพย์ที่หลงลืม และการส่งมอบให้ผู้อื่น
เจ้าทรัพย์ลืมกระเป๋าทิ้งไว้ที่ข้างเกียร์บนรถยนต์ที่จำเลยเป็นผู้ขับขี่ , มีบุคคลอื่นมาพบและเก็บได้ถามว่ากระเป๋าของใคร ผู้โดยสารคนหนึ่งว่าเป็นของเขา ผู้เก็บได้จึงส่งกระเป๋าเงินให้จำเลยไปให้ผู้โดยสารคนนั้นเพราะมาด้วยกัน แต่จำเลยกลับเอาไว้เสียเองเช่นนี้การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานยักยอกมิใช่ลักทรัพย์เพราะเมื่อเจ้าทรัพย์ลืมกระเป๋าเงินทิ้งไว้กรณีเป็นเก็บของตก ความยึดถือครอบครองทรัพย์ย่อมตกอยู่แก่คนกระเป๋ารถ ๆ มอบทรัพย์ให้อยู่ในความยึดถือครอบครองของจำเลยอีกต่อหนึ่ง โดยจำเลยไม่ทราบว่ากระเป๋าเป็นของใคร เมื่อจำเลยเอาไว้เป็นประโยชน์ส่วนตัวเสียจึงมีความผิดฐานยักยอกทรัพย์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2026/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่จำกัดของข้าราชการ: การกระทำผิดมาตรา 132 ต้องมีหน้าที่ดูแลทรัพย์สินโดยตรง
บรรยายฟ้องว่าจำเลยมีหน้าที่แต่เพียงเชิญชวนแนะนำให้ผู้ร้องปิดแสตมป์ ก.ศ.ส. ในคำร้องเท่านั้น แม้จะได้ความจริงก็หาลงโทษจำเลยได้ไม่ เพราะจำเลยไม่มีหน้าที่จัดซื้อหรือทำหรือปกครองรักษาทรัพย์สิ่งใดๆ ตามความหมายในมาตรา 132 (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 12/2499)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 513/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ยักยอกทรัพย์จากประกันหนี้: การโอนโฉนดโดยไม่ได้รับความยินยอมของผู้ให้ยืม
เอาโฉนดที่ดินที่เขามอบให้ไว้เป็นประกันหนี้ไปโอนขายย่อมถือได้ว่า ทุจริตเบียดบังเอาทรัพย์ที่เขามอบหมายไว้ไปผิดความประสงค์ของผู้เป็นเจ้าของ เป็นความผิดฐานยักยอกตาม มาตรา 314
จำเลยแสดงตนว่า เป็นผู้รับมอบอำนาจให้ทำการโอนที่ดินของผู้อื่นและแจ้งแก่เจ้าพนักงานที่ดินว่า การมอบอำนาจนั้นเป็นจริงซึ่งความจริงเจ้าของที่ดินมิได้มอบอำนาจให้โอนแต่ประการใด ดังนี้ จำเลยมีความผิดฐานแจ้งความเท็จตามมาตรา 118
จำเลยแสดงตนว่า เป็นผู้รับมอบอำนาจให้ทำการโอนที่ดินของผู้อื่นและแจ้งแก่เจ้าพนักงานที่ดินว่า การมอบอำนาจนั้นเป็นจริงซึ่งความจริงเจ้าของที่ดินมิได้มอบอำนาจให้โอนแต่ประการใด ดังนี้ จำเลยมีความผิดฐานแจ้งความเท็จตามมาตรา 118
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1046/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ยักยอกทรัพย์: การมอบหมายให้ขายและการเบียดบังทรัพย์สิน
การที่จำเลยได้รับมอบตะกร้าของโจทก์ไปเพื่อขายโดยตกลงกันว่าถ้าขายได้จะชำระราคาตามที่โจทก์ตีไว้ เมื่อขายไม่ได้โจทก์ยอมรับคืน ดังนี้หาใช่โจทก์ตกลงขายตะกร้าให้จำเลยไม่ กรรมสิทธิ์ยังเป็นของโจทก์อยู่หากจำเลยมีเจตนาทุจริตเบียดบังเอาตะกร้าซึ่งรับมอบไว้เป็นประโยชน์ของตนเสียเอง ย่อมต้องมีผิดฐานยักยอก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1046/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ยักยอกทรัพย์: การรับมอบทรัพย์เพื่อขายแล้วเบียดบังเอาเป็นของตนเอง
การที่จำเลยได้รับมอบตะกร้าของโจทก์ไปเพื่อขายโดยตกลงกันว่าถ้าขายได้จะชำระราคาตามที่โจทก์ตีไว้ เมื่อขายไม่ได้โจทก์ยอมรับคืน ดังนี้หาใช่โจทก์ตกลงขายตะกร้าให้จำเลยไม่ กรรมสิทธิ์ยังเป็นของโจทก์อยู่หากจำเลยมีเจตนาทุจริตเบียดบังเอาตะกร้าซึ่งรับมอบไว้เป็นประโยชน์ของตนเสียเอง ย่อมต้องมีผิดฐานยักยอก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 994/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยักยอกทรัพย์: เจตนาทุจริตต้องพิสูจน์ได้ การปฏิเสธหรือการเสนอใช้เงินคืนไม่ถือเป็นเจตนายักยอก
เมื่อคดีได้ความแต่เพียงว่าจำเลยรับฝากโคไว้แล้วบุตรจำเลยมาเอาไปเสีย โดยโจทก์ไม่มีพยานแสดงให้เห็นว่าจำเลยรู้เห็นเป็นใจให้บุตรจำเลยเอาโคไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวเช่นนี้คดีโจทก์ก็ยังชี้ไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตยักยอก ฉะนั้นแม้คดีจะได้ความว่าจำเลยรับฝากโคไว้แล้วกลับปฏิเสธว่าไม่ได้รับฝากก็ดี หรือการที่จำเลยบอกผู้เสียหายว่าบุตรจำเลยเอาไปจากจำเลย จำเลยก็รับจะใช้ให้ก็ดี เมื่อไปพูดกันที่บ้านกำนัน จำเลยยังพูดว่า"ถ้ามึงพูดดีก็ให้ พูดไม่ดีก็ไม่ให้" เพียงเท่านี้ยังลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 357/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทุจริตในการยักยอกทรัพย์: การกระทำที่แสดงเจตนา และการปฏิเสธความรับผิดชอบ
เจตนาทุจริตของจำเลยศาลไม่อาจหยั่งรู้ความในใจอันแท้จริงได้ นอกจากจะอนุโลมโดยอาศัยเหตุผลทั่วๆ ไปตามที่ปรากฏในท้องสำนวน
ผู้เสียหายมอบเงินจำเลยให้นำไปชำระแก่เจ้าหนี้ของผู้เสียหายจำเลยเอาไปใช้ส่วนตัวเสียบางส่วนแม้จะได้ไปบอกแก่เจ้าหนี้ว่าผู้เสียหายได้มอบเงินมาชำระครบแล้วแต่จำเลยเอาไปใช้เสียบางส่วนต้องส่งให้แต่ส่วนที่เหลือรับจะใช้คืนให้โดยไม่ต้องไปทวงจากผู้เสียหายอีกพฤติการณ์เช่นนี้แสดงว่าจำเลยเอาเงินรายนี้ไปใช้โดยเจตนาทุจริตคดีนี้จำเลยมีหน้าที่จะนำเงินไปมอบให้เจ้าหนี้ตามที่รับมอบมาเงินแม้จะเป็นธนบัตรเปลี่ยนมือได้หากจำเลยเอาไปใช้เมื่อถึงคราวจะนำไปให้เจ้าหนี้จำเลยก็ต้องพร้อมที่จะมอบเงินในจำนวนนั้นให้แก่เจ้าหนี้ทันทีมิใช่หวังเอาเองอย่างเลื่อนลอยว่าเจ้าหนี้คงจะยอมเปลี่ยนตัวลูกหนี้ให้อนึ่งการไปบอกความจริงแก่เจ้าหนี้ดังกล่าวเป็นการสารภาพผิดมิใช่การแสดงความบริสุทธิ์ของจำเลย
ผู้เสียหายมอบเงินจำเลยให้นำไปชำระแก่เจ้าหนี้ของผู้เสียหายจำเลยเอาไปใช้ส่วนตัวเสียบางส่วนแม้จะได้ไปบอกแก่เจ้าหนี้ว่าผู้เสียหายได้มอบเงินมาชำระครบแล้วแต่จำเลยเอาไปใช้เสียบางส่วนต้องส่งให้แต่ส่วนที่เหลือรับจะใช้คืนให้โดยไม่ต้องไปทวงจากผู้เสียหายอีกพฤติการณ์เช่นนี้แสดงว่าจำเลยเอาเงินรายนี้ไปใช้โดยเจตนาทุจริตคดีนี้จำเลยมีหน้าที่จะนำเงินไปมอบให้เจ้าหนี้ตามที่รับมอบมาเงินแม้จะเป็นธนบัตรเปลี่ยนมือได้หากจำเลยเอาไปใช้เมื่อถึงคราวจะนำไปให้เจ้าหนี้จำเลยก็ต้องพร้อมที่จะมอบเงินในจำนวนนั้นให้แก่เจ้าหนี้ทันทีมิใช่หวังเอาเองอย่างเลื่อนลอยว่าเจ้าหนี้คงจะยอมเปลี่ยนตัวลูกหนี้ให้อนึ่งการไปบอกความจริงแก่เจ้าหนี้ดังกล่าวเป็นการสารภาพผิดมิใช่การแสดงความบริสุทธิ์ของจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 357/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทุจริตในการยักยอกทรัพย์: พฤติการณ์บ่งชี้เจตนาจากการใช้เงินผิดหน้าที่
เจตนาทุจริตของจำเลยศาลไม่อาจหยั่งรู้ควมในใจอันแท้จริงได้ นอกจากจะอนุโลมโดยอาศัยเหตุผลทั่ว ๆ ไปตามที่ปรากฎในท้องสำนวน
ผู้เสียหายมอบเงินจำเลยให้นำไปชำระแก่เจ้าหนี้ของผู้เสียหายจำเลยเอาไปใช้ส่วนตัวเสียบางส่วนแม้จะได้ไปบอกเจ้าหนี้ว่า ผู้เสียหายได้มอบเงินมาชำระครบแล้วแต่จำเลยเอาไปใช้เสียบางส่วน คงส่งให้แต่ส่วนที่เหลือ รับจะใช้คืนให้โดยไม่ต้องไปทวงจากผู้เสียหายอีก พฤติการณ์เช่นนี้แสดงว่าจำเลยเอาเงินรายนี้ไปใช้โดยเจตนาทุจริต คดีนี้จำเลยมีหน้าที่จะนำเงินไปมอบให้เจ้าหนี้ตามที่รับมอบมา เงินแม้จะเป็นธนบัตรเปลี่ยนมือให้หากจำเลยเอาไปใช้เมื่อถึงคราวจะนำไปให้เจ้าหนี้จำเลยก็ต้องพร้อมที่จะมอบเงินในจำนวนนั้นให้แก่เจ้าหนี้ทันที มิใช่หวังเอาเองอย่างเลื่อนลอยว่าเจ้าหนี้คงจะยอมเปลี่ยนตัวลูกหนี้ให้อนึ่งการไปบอกความจริงแก่เจ้าหนี้ดังกล่าวเป็นการสารภาพผิดมิใช่การแสดงความบริสุทธิ์ของจำเลย
ผู้เสียหายมอบเงินจำเลยให้นำไปชำระแก่เจ้าหนี้ของผู้เสียหายจำเลยเอาไปใช้ส่วนตัวเสียบางส่วนแม้จะได้ไปบอกเจ้าหนี้ว่า ผู้เสียหายได้มอบเงินมาชำระครบแล้วแต่จำเลยเอาไปใช้เสียบางส่วน คงส่งให้แต่ส่วนที่เหลือ รับจะใช้คืนให้โดยไม่ต้องไปทวงจากผู้เสียหายอีก พฤติการณ์เช่นนี้แสดงว่าจำเลยเอาเงินรายนี้ไปใช้โดยเจตนาทุจริต คดีนี้จำเลยมีหน้าที่จะนำเงินไปมอบให้เจ้าหนี้ตามที่รับมอบมา เงินแม้จะเป็นธนบัตรเปลี่ยนมือให้หากจำเลยเอาไปใช้เมื่อถึงคราวจะนำไปให้เจ้าหนี้จำเลยก็ต้องพร้อมที่จะมอบเงินในจำนวนนั้นให้แก่เจ้าหนี้ทันที มิใช่หวังเอาเองอย่างเลื่อนลอยว่าเจ้าหนี้คงจะยอมเปลี่ยนตัวลูกหนี้ให้อนึ่งการไปบอกความจริงแก่เจ้าหนี้ดังกล่าวเป็นการสารภาพผิดมิใช่การแสดงความบริสุทธิ์ของจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 162/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยักยอกเงินค่าแจ้งความ: จำเลยส่งเงินตามต้นขั้วถูกต้อง แม้จะไม่ได้นำส่งเงินส่วนเกินจากปลายขั้ว ไม่ถือว่าเสียหายทางกฎหมาย
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยยักยอกเงินค่าแจ้งความจำเลยเป็นข้าราชการประจำกรมการสนเทศกระทรวงเศรษฐการได้รับมอบหมายให้เก็บเงินค่าแจ้งความเมื่อปรากฏว่าเงินตามต้นขั้วใบเสร็จจำนวน 9,280 บาทนั้นจำเลยส่งครบแล้วและเป็นจำนวนที่ถูกต้องกับคำลงแจ้งความแม้จะปรากฏว่าใบเสร็จปลายขั้ว 46 ฉบับซึ่งมีจำนวนเกินกว่าต้นขั้ว3,695 บาทจำเลยหานำส่งไม่ ซึ่งจำเลยอ้างว่าเป็นค่าทำบล๊อกเงินจำนวนที่ไม่นำส่งนี้ทางกระทรวงไม่ได้เสียหายอย่างใดโดยข้อกฎหมายจำเลยจึงไม่มีความผิดฐานยักยอก