คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
กฎหมายลักษณะอาญา ม. 118

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 122 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 365/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แจ้งความเท็จ - ความรู้ผิดทางอาญา - ข้อความขัดแย้งในตัว - ไม่ต้องระบุเจตนา
คำฟ้องที่กล่าวหาว่าจำเลยแจ้งความเท็จนั้นแม้จะไม่ได้บรรยายระบุคำว่า "จำเลยรู้อยู่ว่าเป็นความเท็จ" แต่เมื่อข้อความที่บรรยายในฟ้องนั้นได้ความแสดงขัดอยู่ในตัวแล้วว่า จำเลยรู้อยู่ว่าข้อความที่แจ้งมานั้นเป็นความเท็จก็เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ครบองค์ความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 118 แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1714/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แจ้งความเท็จโดยสุจริต: จำเลยเชื่อว่าข้อความที่แจ้งเป็นความจริง จึงไม่มีความผิด
ความผิดฐานแจ้งความเท็จตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 118นั้น มีหลักเกณฑ์สำคัญอยู่ประการหนึ่งว่าผู้แจ้งได้รู้อยู่แล้วว่า ความที่เอาไปแจ้งนั้นเป็นความเท็จ ฉะนั้นเมื่อจำเลยเอาความไปแจ้งแก่เจ้าพนักงาน ตามที่จำเลยเชื่อว่าเป็นความจริงแล้ว จำเลยก็ไม่มีความผิดตามมาตรา118

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1714/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แจ้งความเท็จ: ความเชื่อโดยสุจริตของผู้แจ้งเป็นเหตุยกฟ้อง
ความผิดฐานแจ้งความเท็จตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 118 นั้น มีหลักเกณฑ์สำคัญอยู่ประการหนึ่งว่าผู้แจ้งได้รู้อยู่แล้วว่าความที่เอาไปแจ้งนั้นเป็นความเท็จฉะนั้นเมื่อจำเลยเอา ความไปแจ้งแก่เจ้าพนักงานตามที่จำเลยเชื่อว่าเป็นความจริงแล้วจำเลยก็ไม่มีความผิดตามมาตรา 118

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1483/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องไม่สมบูรณ์ตามกฎหมายอาญามาตรา 158(5) เนื่องจากข้อความในฟ้องขัดแย้งและขาดรายละเอียดการกระทำผิด
ฟ้องฐานแจ้งความเท็จและฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยทุจริต ที่ถือว่ายังไม่สมบูรณ์ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 158(5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1483/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย – ข้อหาไม่ชัดเจน – เหตุการณ์ต่อเนื่อง
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยทั้ง 5 คนสมคบกันทำผิดกฎหมายหลายบทหลายกระทงโดยแยกรายละเอียดความผิดเป็นข้อๆ และตามฟ้อง ข้อ ก. ว่าจำเลยที่ 1-2 และ 3 ได้มีเจตนาสมคบกันบังอาจเอาความที่จำเลยทั้งสามรู้อยู่แล้วว่าเป็นความเท็จซึ่งอาจทำให้โจทก์เสียหายได้นั้น ไปแจ้งและร้องทุกข์แก่จำเลยที่ 3 ว่าโจทก์ได้ฉ้อโกงทรัพย์อันเป็นความผิดทางอาญาทำให้จำเลยที่ 3 อาศัยอำนาจในตำแหน่งเพื่อทำการทุจริต ซึ่งความจริงโจทก์มิได้ฉ้อโกงทรัพย์จำเลยที่1 เลย'
และตามข้อ ข. ว่า"จำเลยที่ 2-5 ไม่มีอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมายได้สมบคบกันบังคับจับโจทก์ไปจากบ้าน ควบคุมกักขังไว้ 1 คืน ยึดถั่วลิสงของโจทก์ไว้ 1 กระสอบ วันรุ่งขึ้นจึงให้ประกันตัวไป ต่อมาจำเลยที่ 3 บังคับให้โจทก์ทำหนังสือรับว่าเป็นลูกหนี้จำเลยที่ 3 ก่อนที่จะปล่อยตัวโจทก์ไปโดยไม่มีประกันตัว" ดังนี้ฟ้องของโจทก์ ข้อ ก. มีข้อความขัดกันในตัวเอง เป็นคำกล่าวลอยๆไม่มีข้อเท็จจริงว่าจำเลยที่ 3 ทำอะไร อย่างไร ไม่อาจเข้าใจข้อหาได้ดี จึงเป็นฟ้องที่ไม่ถูกต้องตามป.วิ.อ.มาตรา 158(5) ส่วนฟ้องของ ข. โจทก์แถลงว่าเป็นความผิดเนื่องจากการกระทำตามฟ้องข้อ ก. ไม่เป็นฟ้องที่ชอบเสียแล้ว ฟ้องข้อข.จึงไม่ชอบด้วยกฎหมายด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1314/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งความเท็จ – พยานหลักฐานไม่เพียงพอ – ไม่สามารถพิสูจน์คำให้การเท็จได้
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยแจ้งความเท็จ จำเลยปฏิเสธ ทางพิจารณามีปลัดอำเภอพยานปากเดียวเบิกความว่า คำให้การที่จำเลยให้ไว้ชั้นสอบสวนไม่ตรงกับถ้อยคำที่จำเลยเบิกความเป็นพยานต่อศาล ทั้งไม่ได้ยืนยันว่าคำให้การของจำเลยอันไหนเป็นความจริงอันไหนเป็นความเท็จ เพียงเท่านี้จะชี้ขาดว่าคำให้การจำเลยที่ให้การไว้ชั้นสอบสวนเป็นความเท็จยังไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1314/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งความเท็จ - พยานหลักฐานไม่เพียงพอ - คำให้การขัดแย้งไม่ชัดเจน
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยแจ้งความเท็จ จำเลยปฏิเสธทางพิจารณามีปลัดอำเภอพยานปากเดียวเบิกความว่า คำให้การที่จำเลยให้ไว้ชั้นสอบสวนไม่ตรงกับถ้อยคำที่จำเลยเบิกความเป็นพยานต่อศาล ทั้งไม่ได้ยืนยันว่าคำให้การของจำเลยอันไหนเป็นความจริงอันไหนเป็นความเท็จ เพียงเท่านี้จะชี้ขาดว่าคำให้การจำเลยที่ให้การไว้ชั้นสอบสวนเป็นความเท็จยังไมได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 993/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งความเท็จ: ฟ้องโดยระบุความเท็จโดยอ้อม เพียงพอต่อการดำเนินคดี หากข้อเท็จจริงตามฟ้องแสดงให้เห็นความเท็จได้ชัดเจน
การฟ้องหาว่าจำเลยกระทำผิดฐานแจ้งความเท็จนั้น แม้จะไม่ได้กล่าวว่าความจริงเป็นอย่างไร แต่เมื่อพิจารณาคำฟ้องโดยตลอดแล้ว เป็นอันเข้าใจได้ว่า ความจริงมีอย่างใดแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องกล่าวว่าความจริงเป็นอย่างไรอีก เพราะเป็นอันเข้าใจได้อยู่แล้ว นับว่าเป็นฟ้องที่ถูกต้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 428/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แจ้งความเท็จต้องรู้ว่าความเท็จนั้นเป็นเท็จ มิฉะนั้นไม่ผิดฐานแจ้งความเท็จ
การที่จะเป็นผิดฐานแจ้งความเท็จนั้น จำเลยต้องแย้งโดยรู้อยู่ว่า ถ้อยคำของจำเลยที่แจ้งนั้นเป็นเท็จ มิฉะนั้นไม่ผิดฐานนี้ เพราะถือว่าจำเลยที่แจ้งความเท็จโดยไม่รู้ว่าถ้อยคำของตนเป็นเท็จนั้นมิได้มีเจตนากระทำผิดทางอาญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 428/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แจ้งความเท็จ: เจตนาสำคัญ จำเลยต้องรู้ว่าข้อความที่แจ้งเท็จจึงผิด
การที่จะเป็นผิดฐานแจ้งความเท็จนั้น จำเลยต้องแจ้งโดยรู้อยู่ว่า ถ้อยคำของจำเลยที่แจ้งนั้นเป็นเท็จ มิฉะนั้นไม่ผิดฐานนี้ เพราะถือว่าจำเลยที่แจ้งความเท็จโดยไม่รู้ว่าถ้อยคำของตนเป็นเท็จนั้นมิได้มีเจตนากระทำผิดทางอาญา
of 13