พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,715 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 279/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการใช้เครื่องหมายการค้าเมื่อยังไม่ได้จดทะเบียนสำหรับทุกประเภทสินค้า
โจทก์ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าไว้แล้ว สำหรับสินค้าประเภท 2และโจทก์ได้ขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าสำหรับประเภท 3 ในสินค้าอย่างเดียวกันซึ่งนายทะเบียนไม่ยอมรับจดให้จนกว่าโจทก์จำเลยจะตกลงกันเองหรือนำคดีขึ้นสู่ศาลซึ่งเป็นการสั่งให้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2474 มาตรา 21,22 โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องจำเลยห้ามใช้เครื่องหมายการค้าของโจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 279/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการใช้เครื่องหมายการค้าเมื่อยังไม่ได้จดทะเบียนสำหรับทุกประเภทสินค้า
โจทก์ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าไว้แล้ว สำหรับสินค้าประเภท 2 และโจทก์ได้ขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าสำหรับประเภท 3 ในสินค้าอย่างเดียวกัน ซึ่งนายทะเบียนไม่ยอมรับจดให้จนกว่าโจทก์จำเลยจะตกลงกันเองหรือนำคดีขึ้นสู่ศาลซึ่งเป็นการสั่งให้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2474 มาตรา 21, 22 โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องจำเลยห้ามใช้เครื่องหมายการค้าของโจทก์ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 277/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำพิพากษาถึงที่สุดตามมาตรา 245 วรรคสอง แม้จำเลยฎีกา ศาลฎีกายกคำฎีกา
คดีอาญาที่ศาลชั้นต้นตัดสินจำคุกจำเลยตลอดชีวิต และโจทก์จำเลยไม่อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นส่งสำนวนมายังศาลอุทธรณ์เพื่อพิจารณาพิพากษาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 245 เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ย่อมถึงที่สุดตาม มาตรา 245 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 277/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลของคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เมื่อไม่มีการอุทธรณ์ และการพิจารณาฎีกาภายหลัง
คดีอาญาที่ศาลชั้นต้นตัดสินจำคุกจำเลยตลอดชีวิต และโจทก์จำเลยไม่อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นส่งสำนวนมายังศาลอุทธรณ์ เพื่อพิจารณาพิพากษาตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 245 เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ย่อมถึงที่สุดตาม มาตรา 245 วรรค 2.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 273-275/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา การพิสูจน์ความจริงในคดีอาญายกประโยชน์ให้จำเลยไม่ต้องรับผิดในคดีแพ่ง
โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายฐานละเมิด หาว่าจำเลยนำข้อความอันเป็นการหมิ่นประมาทลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ แต่ก่อนฟ้องคดีแพ่ง โจทก์ได้ฟ้องจำเลยในคดีอาญา หาว่าจำเลยโฆษณาหมิ่นประมาทในข้อความอย่างเดียวกัน และขอให้จำเลยพิสูจน์ความจริงด้วย ดังนี้ เป็นคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา ตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 46 เมื่อคดีอาญาฟังเป็นยุติว่า จำเลยได้โฆษณาไปตามความเป็นจริง โดยสุจริต จำเลยก็ไม่ต้องรับผิดในทางแพ่ง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 273-275/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา การพิสูจน์ความจริงในคดีอาญาส่งผลถึงการตัดสินคดีแพ่ง
โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายฐานละเมิด หาว่าจำเลยนำข้อความอันเป็นการหมิ่นประมาทลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์แต่ก่อนฟ้องคดีแพ่ง โจทก์ได้ฟ้องจำเลยในคดีอาญา หาว่าจำเลยโฆษณาหมิ่นประมาทในข้อความอย่างเดียวกัน และขอให้จำเลยพิสูจน์ความจริงด้วย ดังนี้ เป็นคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 46 เมื่อคดีอาญาฟังเป็นยุติว่า จำเลยได้โฆษณาไปตามความเป็นจริง โดยสุจริตจำเลยก็ไม่ต้องรับผิดในทางแพ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 267/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ในทางครอบครองและการใช้คำพิพากษาในคดีก่อนยันผู้มีชื่อในโฉนดร่วม
เดิมผู้มีชื่อในโฉนดคนหนึ่งฟ้องขับไล่ผู้เข้ามาบุกรุกปลูกเรือนโรงในที่พิพาทเป็นจำเลย จำเลยต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของตนในทางครอบครอง ดังนั้น ไม่จำเป็นที่จำเลยในคดีนั้นจะต้องเรียกผู้มีชื่อในโฉนดคนอื่น ๆ ผู้กรรมสิทธิ์ร่วมเข้ามาเป็นคู่ความผู้มีชื่อในโฉนดเหล่านั้นรู้เรื่องที่พิพาทกันดีแล้ว แต่มิได้เข้ามาร่วมเป็นคู่ความด้วย เมื่อโจทก์ในคดีนั้นแพ้คดีคำพิพากษาในคดีนั้น ใช้ยันผู้มีชื่อในโฉนดคนอื่น ๆ ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 267/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ในที่ดิน: คำพิพากษาในคดีเดิมใช้ยันผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมได้
เดิมผู้มีชื่อในโฉนดคนหนึ่งฟ้องขับไล่ผู้เข้ามาบุกรุกปลูกเรือนโรงในที่พิพาทเป็นจำเลยจำเลยต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของตนในทางครอบครองดังนั้น ไม่จำเป็นที่จำเลยในคดีนั้นจะต้องเรียกผู้มีชื่อในโฉนดคนอื่นๆ ผู้ถือกรรมสิทธิร่วมเข้ามาเป็นคู่ความผู้มีชื่อในโฉนดเหล่านั้นรู้เรื่องที่พิพาทกันดีแล้ว แต่มิได้เข้ามาร่วมเป็นคู่ความด้วยเมื่อโจทก์ในคดีนั้นแพ้คดีคำพิพากษาในคดีนั้น ใช้ยันผู้มีชื่อในโฉนดคนอื่นๆ ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 248/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องซ้ำในข้อหาลักทรัพย์ หลังศาลแขวงยกฟ้อง คดีเกี่ยวพันกับรับของโจร
โจทก์ฟ้องจำเลยฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร ศาลแขวงไต่สวนมูลฟ้องแล้วสั่งว่า คดีมีมูลเฉพาะข้อหารับของโจร ส่วนข้อหาลักทรัพย์คดีไม่มีมูล ให้ยกฟ้อง เช่นนี้ โจทก์ย่อมไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยในข้อหาฐานลักทรัพย์นี้ต่อศาลที่มีอำนาจอีกโจทก์คงฟ้องจำเลยได้ในข้อหาฐานรับของโจรยังศาลที่มีอำนาจเท่านั้น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 248/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องซ้ำในข้อหาลักทรัพย์หลังศาลแขวงยกฟ้อง แม้เกี่ยวพันกับรับของโจร
โจทก์ฟ้องจำเลยฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร ศาลแขวงไต่สวนมูลฟ้องแล้วสั่งว่า คดีมีมูลเฉพาะข้อหารับของโจรส่วนข้อหาลักทรัพย์คดีไม่มีมูลให้ยกฟ้อง เช่นนี้ โจทก์ย่อมไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยในข้อหาฐานลักทรัพย์นี้ต่อศาลที่มีอำนาจอีกโจทก์คงฟ้องจำเลยได้ในข้อหาฐานรับของโจรยังศาลที่มีอำนาจเท่านั้น