พบผลลัพธ์ทั้งหมด 16 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5251/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายจากความโกรธแค้น ไม่ถือเป็นการป้องกันตัว และพฤติการณ์หลังเกิดเหตุแสดงถึงความไม่สำนึกผิด
ก่อนเกิดเหตุประมาณ7วันโจทก์ร่วมได้ไปแจ้งแก่ผู้ใหญ่บ้านว่าสามีจำเลยใช้ไม้ปาถูกบ้านของโจทก์ร่วมทำให้จำเลยไม่พอใจเมื่อจำเลยพบโจทก์ร่วมในวันเกิดเหตุแล้วถามโจทก์ร่วมได้รับคำยืนยันว่าไปแจ้งแก่ผู้ใหญ่บ้านจริงจำเลยโกรธแค้นโจทก์ร่วมและเข้าทำร้ายโจทก์ร่วมทันทีจำเลยจึงเป็นฝ่ายก่อเหตุและเข้าทำร้ายโจทก์ร่วมแต่เพียงฝ่ายเดียวจำเลยจึงอ้างป้องกันมิได้ ตามสภาพบาดแผลที่โจทก์ร่วมได้รับนั้นโจทก์ร่วมต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลติดต่อกันเป็นเวลานานกว่า30วันเมื่อบาดแผลหายแล้วปรากฎรอยแหว่งที่ปีกจมูกด้านซ้ายเป็นแผลเป็นติดตัวถือได้ว่าโจทก์ร่วมได้รับอันตรายสาหัส
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4306/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนจากความโกรธแค้น ศาลยืนตามคำพิพากษาเดิม
คืนเกิดเหตุจำเลยกับผู้ตายซึ่งเป็นภรรยาไปเที่ยวงานวัดด้วยกัน ครั้นเวลา 21 นาฬิกาเศษ จำเลยเดินตามหาผู้ตายในบริเวณงานวัด เห็นผู้ตายพูดคุยกับทหารพรานไม่ทราบชื่อในลักษณะสนิทสนมกันมาก และจำเลยเคยทราบข่าวว่าผู้ตายกับทหารพรานผู้นี้ไปเที่ยวด้วยกันหลายครั้ง จำเลยจึงกลับบ้านและดื่มสุราจนเวลา 1 นาฬิกาเศษจำเลยไปขุดเอาอาวุธปืนลูกซองสั้นซึ่งมีกระสุนปืนบรรจุอยู่ในลำกล้อง 1 นัด ที่จำเลยฝังไว้หลังบ้านมาเหน็บไว้ที่เอว เวลา3 นาฬิกาเศษ ผู้ตายกลับมาบ้าน จำเลยเปิดประตูออกไปและจับมือผู้ตายลากไปในสวนหลังบ้าน สอบถามผู้ตายถึงการไปเที่ยวกับผู้ชายเมื่อผู้ตายปฏิเสธ จำเลยกอดคอผู้ตายแล้ว ใช้อาวุธปืนจ่อยิงถูกบริเวณเหนือราวนมซ้าย 1 นัด ผู้ตายทรุดลงคว่ำหน้าอยู่กับพื้น ผู้ตายยังไม่ตายทันที จำเลยชักมีดพกปลายแหลมจากเอวแทงที่บริเวณคอผู้ตายอีกหลายครั้ง เมื่อผู้ตายตายแล้ว จำเลยไปเอาจอบที่บ้านมาขุดหลุมฝังไว้ที่เกิดเหตุ เช่นนี้แม้จำเลยจะกระทำต่อผู้ตายเพราะจำเลยโกรธเคืองที่ผู้ตายไปเที่ยวกับชายอื่นก็ตามแต่จำเลยกระทำต่อผู้ตายภายหลังที่จำเลยกลับมาบ้านเป็นเวลานานหลายชั่วโมง โดยจำเลยดื่มสุราเตรียมหาเชือกไว้สำหรับมัดมือผู้ตายและหาอาวุธปืนกับมีมีดพกปลายแหลมไว้สำหรับยิงแทงผู้ตาย พฤติการณ์ชี้ให้เห็นว่าจำเลยกระทำต่อผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6107/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทำร้ายร่างกายจนได้รับอันตรายสาหัสและทำร้ายผู้อื่นที่เข้าห้าม ถือเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
จำเลยมีความโกรธแค้น ล. และผูกใจเจ็บ เมื่อมาพบ ล. นอนอยู่ไม่ทันรู้ตัวก็ถือโอกาสเข้าทำร้าย พ. จะเข้าไปห้ามก็ถูกจำเลยชกต่อย แสดงว่าจำเลยเพิ่งมีเจตนาเกิดขึ้นในภายหลังต่างเจตนากันจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
ล. ถูกชกและเตะที่บริเวณใบหน้า ดั้งจมูกหักและบวมต้องใช้เวลารักษาประมาณ 1 เดือน ทั้งหลังเกิดเหตุประมาณ 9 เดือน ก็ยังต้องหายใจด้วยรูจมูกข้างเดียว เมื่อทำงานหนักจะมีอาการปวดศีรษะหัวคิ้วและขมับ ถือได้ว่าป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่ายี่สิบวันเป็นอันตรายแก่กายถึงสาหัสตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297(8)
ล. ถูกชกและเตะที่บริเวณใบหน้า ดั้งจมูกหักและบวมต้องใช้เวลารักษาประมาณ 1 เดือน ทั้งหลังเกิดเหตุประมาณ 9 เดือน ก็ยังต้องหายใจด้วยรูจมูกข้างเดียว เมื่อทำงานหนักจะมีอาการปวดศีรษะหัวคิ้วและขมับ ถือได้ว่าป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่ายี่สิบวันเป็นอันตรายแก่กายถึงสาหัสตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297(8)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 598/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนจากความโกรธแค้นเรื่องเงินรางวัล สลากกินรวบ ศาลยืนตามคำพิพากษา
จำเลยเคยกล่าวคำอาฆาตผู้ตายไว้เนื่องจากจำเลยซื้อ สลากกินรวบจากผู้ตายถูก รางวัล ๒๐,๐๐๐ บาท แต่ ผู้ตายจ่ายเพียง ๑,๐๐๐ บาทวันเกิดเหตุ ป. ชวนผู้ตายไปซื้อ สุรา จำเลยอาสาจะไปกับผู้ตายผู้ตายไม่ยอมไปด้วย จำเลยว่าถ้า ไปก็เรียบร้อย เมื่อ ป. คนเดียวไปซื้อ สุรา ผู้ตายกับจำเลยเกิดโต้เถียง กันอย่างรุนแรง มีผู้เข้ามาห้าม จำเลยกลับไปที่บ้านซึ่ง อยู่ห่างไปประมาณ ๕๐๐ เมตร เอาปืนลูกซองสั้นแล้วย้อนกลับมาที่บ้าน ป. ลอด ใต้ถุน บ้านเข้าไปและยิงผู้ตาย ดังนี้ ระยะทางไปกลับจากบ้าน ป. กับบ้านจำเลยประมาณ๑ กิโลเมตร จำเลยย่อมมีโอกาสคิดทบทวนว่าสมควรจะฆ่าผู้ตายหรือไม่พฤติการณ์ที่จำเลยลอด ใต้ถุน บ้านเข้าไปยิงผู้ตายก็เพื่อปกปิดมิให้ผู้อื่นเห็น การกระทำของจำเลยเป็นการฆ่าผู้ตายโดย ไตร่ตรอง ไว้ก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6045/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาชิงทรัพย์ vs. ข่มขืนใจ: การกระทำโดยมีแรงจูงใจจากความโกรธแค้น ไม่ถือเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์
ก่อนเกิดเหตุคดีนี้ไม่นาน จำเลยเคยถูกนักเรียนโรงเรียนเดียวกับผู้เสียหายขู่บังคับเอาเข็มขัดไป การที่จำเลยขู่บังคับให้ผู้เสียหายถอดเข็มขัดให้ จึงเป็นเพราะความโกรธแค้นไม่มีเจตนาเป็นอย่างอื่น จำเลยมิได้ขู่บังคับให้ผู้เสียหายส่งนาฬิกาข้อมือและแหวนนาก ที่ผู้เสียหายสวมใส่ในขณะเกิดเหตุให้ด้วยเข็มขัดที่จำเลยเอาไปมีราคาเพียง 50 บาท ถือว่าจำเลยไม่มีเจตนาลักเข็มขัดของผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานชิงทรัพย์ การที่จำเลยขู่บังคับให้ผู้เสียหายส่งเข็มขัดแก่จำเลยนั้นเป็นการข่มขืนใจผู้เสียหายให้กระทำตามความประสงค์ของจำเลยโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อร่างกายของผู้เสียหายอันเป็นความผิดต่อเสรีภาพตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309 วรรคแรกศาลจึงมีอำนาจลงโทษจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 192 วรรคท้าย ข้อเท็จจริงได้ความเพียงว่าตำรวจเรียกผู้เสียหายไปสอบปากคำ2 ครั้ง ครั้งหลังตำรวจได้ไกล่เกลี่ยไม่ให้เอาเรื่อง ผู้เสียหายจึงบอกตำรวจว่าไม่ติดใจเอาเรื่อง ดังนี้ยังฟังไม่ได้ว่าผู้เสียหายได้ถอนคำร้องทุกข์หรือเป็นการยอมความกันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2) แล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์จึงไม่ระงับไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1906/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนจากความโกรธแค้น การเข้าใจผิดว่าเป็นผู้ทำร้าย
จำเลยมีความโกรธแค้นเนื่องจากถูกรุมทำร้าย ตั้งใจจะไปฆ่า พวกที่รุมทำร้ายจำเลยเพื่อเป็นการแก้แค้น เมื่อพบ ผู้ตายจำเลยเข้าใจว่า ผู้ตายเป็นพวกที่รุมทำร้ายตน จึงใช้ อาวุธปืนยิงผู้ตายทันที การกระทำของจำเลยเป็นการ ฆ่าผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1906/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนจากความโกรธแค้น: การกระทำเพื่อแก้แค้นโดยเข้าใจผิด
จำเลยมีความโกรธแค้นเนื่องจากถูกรุมทำร้ายตั้งใจจะไปฆ่า พวกที่รุมทำร้ายจำเลยเพื่อเป็นการแก้แค้นเมื่อพบ ผู้ตายจำเลยเข้าใจว่า ผู้ตายเป็นพวกที่รุมทำร้ายตน จึงใช้ อาวุธปืนยิงผู้ตายทันที การกระทำของจำเลยเป็นการ ฆ่าผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2665/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ร่วมกันฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนจากความโกรธแค้น
ม.กับจำเลยโกรธแค้นผู้ตายที่มาพูดเชิงบังคับให้ชำระค่าอาหารที่ ม. ขอติดค้างต่อเจ้าของร้าน เมื่อชำระ ค่าอาหารแล้ว ม. กับจำเลยไปเอาอาวุธปืนที่บ้านของ ม.โดยจำเลยเอาลูกระเบิดแบบขว้างติดตัวมาด้วย กลับมาถึง ร้านอาหารม. เข้าไปยิงผู้ตายส่วนจำเลยยืนถือลูกระเบิด รอ ม. อยู่ เมื่อ ม. ยิงผู้ตายแล้ว จำเลยถาม ม. ว่าตายไหมแล้ว ม. กับจำเลยก็หลบหนีไปด้วยกันพฤติการณ์ดังกล่าวฟังได้ว่าจำเลยร่วมกับ ม. ฆ่าผู้ตาย
การที่ ม. กับจำเลยโกรธแค้นผู้ตายที่มาพูดเชิงบังคับ ให้ชำระค่าอาหารที่ ม. ขอติดค้างต่อเจ้าของร้าน จึงไปเอาอาวุธปืนที่บ้านของ ม. กลับมายิงผู้ตายถึง แก่ความตายเพราะความโกรธแค้นในขณะที่ผู้ตายยังนั่ง รับประทานอาหารอยู่ที่ร้านเดิม การกระทำของ ม. กับ จำเลยจึงเป็นการฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(4)
การที่ ม. กับจำเลยโกรธแค้นผู้ตายที่มาพูดเชิงบังคับ ให้ชำระค่าอาหารที่ ม. ขอติดค้างต่อเจ้าของร้าน จึงไปเอาอาวุธปืนที่บ้านของ ม. กลับมายิงผู้ตายถึง แก่ความตายเพราะความโกรธแค้นในขณะที่ผู้ตายยังนั่ง รับประทานอาหารอยู่ที่ร้านเดิม การกระทำของ ม. กับ จำเลยจึงเป็นการฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(4)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3475/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนจากความโกรธแค้นเรื่องเหมืองน้ำ
จำเลยมีสาเหตุพิพาทกับผู้ตายเรื่องเหมืองน้ำซึ่งใช้ร่วมกันวันเกิดเหตุผู้ใหญ่บ้านกับพวกได้ไปที่เหมืองน้ำ และพูดไกล่เกลี่ยห้ามจำเลยขุดเหมืองน้ำลึกเกินไป ตกลงกันได้แล้วต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน การที่จำเลยถืออาวุธปืนลูกซองยาวเข้ามายิงผู้ตายโดยมิได้มีการพูดจาหรือโต้เถียงกับผู้ตายเลย หลังจากที่ผู้ใหญ่บ้านมาพูดจาไกล่เกลี่ยเพียง 1 ชั่วโมง จำเลยยิงผู้ตายนัดแรกขณะผู้ตายก้มหน้าดายหญ้าโดยไม่รู้ตัว เมื่อผู้ตายล้มลงจำเลยก็ยิงซ้ำอีก 1 นัด อันเนื่องมาจากสาเหตุที่ผู้ตายไปร้องเรียนว่าจำเลยขุดเหมืองน้ำลึกเกินไป ดังนี้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1932/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฆ่าโดยไม่ไตร่ตรองไว้ก่อนจากความโกรธแค้นชู้สาว ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าเหตุเกิดจากบันดาลโทสะ
ผู้ตายมีความสัมพันธ์ทางชู้สาวกับภรรยาจำเลย ก่อนเกิดเหตุผู้ตายพาภรรยาจำเลยไปค้างที่อื่น จำเลยจึงไปหาผู้ตาย ณ ที่ทำงานเพื่อขอให้ผู้ตายส่งภรรยาของจำเลยคืน ไม่ได้ตั้งใจไปทำร้ายผู้ตายเมื่อพบผู้ตาย ผู้ตายหลบหนีจำเลยเข้าไปในห้องน้ำ จำเลยจึงเกิดมีความโกรธขึ้นได้ตามเข้าไปแทงผู้ตายในห้องน้ำถึงแก่ความตายด้วยอาวุธที่จำเลยพกติดตัวมา ดังนี้ จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ไม่ผิดฐานฆ่าผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน