พบผลลัพธ์ทั้งหมด 14 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 974/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการอ้างบุริมสิทธิค่าเช่านาในคดีบังคับชำระหนี้: ศาลฎีกาเน้นประเด็นที่ยกขึ้นว่ากันมาแล้ว
คดีปรากฏตามคำร้องว่า ผู้ร้องตั้งประเด็นแห่งคดีเพียงประเด็นเดียวว่า ผู้ร้องมีบุริมสิทธิเหนือข้าวเปลือกพิพาท แม้โจทก์จะให้การว่าโจทก์ทราบว่าผู้ร้องได้ตวงข้าวเปลือกทำเป็นค่าเช่านาไปแล้ว คำให้การของโจทก์ไม่ยืนยันข้อเท็จจริงดังกล่าว คำให้การในส่วนนี้จึงเคลือบคลุม และแม้ชั้นไต่สวนคำร้องผู้ร้องจะนำสืบว่าเป็นเรื่องผู้ร้องฝากข้าวเปลือกพิพาทซึ่งเท่ากับค่าเช่านาไว้กับจำเลย ข้าวเปลือกที่โจทก์นำยึดจะเป็นของผู้ร้องก็ตาม ก็ไม่ทำให้ประเด็นที่ผู้ร้องตั้งมาเปลี่ยนแปลงไปที่ผู้ร้องฎีกาว่า ผู้ร้องในฐานะผู้ให้เช่ายังไม่ได้รับชำระข้าวเปลือกเป็นค่าเช่านาไปจากจำเลย จึงเป็นข้อที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น แม้ศาลอุทธรณ์จะได้วินิจฉัยในปัญหานี้ก็ไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา ถือว่าไม่ได้ว่ากล่าวกันมาแต่ในศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249
ในชั้นที่โจทก์เพียงนำยึดข้าวเปลือกของจำเลยไว้ชั่วคราวก่อนคำพิพากษา โจทก์ยังไม่ได้ดำเนินการบังคับชำระหนี้เอากับทรัพย์ดังกล่าวแต่อย่างใดผู้ร้องอ้างว่ามีบุริมสิทธิเหนือข้าวเปลือกที่ยึดไว้นั้น บุริมสิทธิของผู้ร้องมีอยู่อย่างไรก็คงมีอยู่อย่างนั้น การนำยึดข้าวเปลือกไว้ชั่วคราวก่อนคำพิพากษาของโจทก์ หาได้มีผลทำให้บุริมสิทธิของผู้ร้องเหนือข้าวเปลือกไว้ชั่วคราวก่อนคำพิพากษาของโจทก์ หาได้มีผลทำให้บุริมสิทธิของผู้ร้องเหนือข้าวเปลือกเปลี่ยนแปลงไปไม่ หากมีการดำเนินการบังคับคดีกับทรัพย์นั้นในชั้นคดีถึงที่สุด ผู้ร้องย่อมมีสิทธิร้องขอให้บังคับเหนือทรัพย์ดังกล่าวได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 287 ดังนั้นในชั้นนี้ผู้ร้องหามีความจำเป็นจะต้องอ้างบุริมสิทธิตามคำร้องไม่ ผู้ร้องจึงยังไม่มีสิทธิจะขอคืนข้าวเปลือกพิพาท
ในชั้นที่โจทก์เพียงนำยึดข้าวเปลือกของจำเลยไว้ชั่วคราวก่อนคำพิพากษา โจทก์ยังไม่ได้ดำเนินการบังคับชำระหนี้เอากับทรัพย์ดังกล่าวแต่อย่างใดผู้ร้องอ้างว่ามีบุริมสิทธิเหนือข้าวเปลือกที่ยึดไว้นั้น บุริมสิทธิของผู้ร้องมีอยู่อย่างไรก็คงมีอยู่อย่างนั้น การนำยึดข้าวเปลือกไว้ชั่วคราวก่อนคำพิพากษาของโจทก์ หาได้มีผลทำให้บุริมสิทธิของผู้ร้องเหนือข้าวเปลือกไว้ชั่วคราวก่อนคำพิพากษาของโจทก์ หาได้มีผลทำให้บุริมสิทธิของผู้ร้องเหนือข้าวเปลือกเปลี่ยนแปลงไปไม่ หากมีการดำเนินการบังคับคดีกับทรัพย์นั้นในชั้นคดีถึงที่สุด ผู้ร้องย่อมมีสิทธิร้องขอให้บังคับเหนือทรัพย์ดังกล่าวได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 287 ดังนั้นในชั้นนี้ผู้ร้องหามีความจำเป็นจะต้องอ้างบุริมสิทธิตามคำร้องไม่ ผู้ร้องจึงยังไม่มีสิทธิจะขอคืนข้าวเปลือกพิพาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3484/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความ 'ไม่ชำระค่าเช่านา' ตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเช่านา และสิทธิบอกเลิกสัญญา
คำว่า 'ไม่ชำระค่าเช่านา' ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517 มาตรา 32(1) นั้นมีความหมายรวมถึงการไม่ชำระค่าเช่าแต่บางส่วนด้วย เมื่อจำเลยไม่ชำระค่าเช่านาเป็นข้าวเปลือกตามที่ตกลงกันให้โจทก์ในปี พ.ศ.2521 ส่วนในปี พ.ศ.2522 จำเลยชำระให้โจทก์เพียงส่วนหนึ่งไม่ครบถ้วนตามที่ตกลง ถือได้ว่าจำเลยไม่ชำระค่าเช่านาให้โจทก์รวมกันเป็นเวลา 2 ปี และไม่ปรากฏว่าคณะกรรมการควบคุมการเช่านาประจำอำเภอผ่อนผันให้จำเลย โจทก์จึงมีสิทธิบอกเลิกการเช่านากับจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3484/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความ 'ไม่ชำระค่าเช่านา' ตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเช่านา และสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่า
คำว่า 'ไม่ชำระค่าเช่านา' ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517 มาตรา 32(1) นั้นมีความหมายรวมถึงการไม่ชำระค่าเช่าแต่บางส่วนด้วย เมื่อจำเลยไม่ชำระค่าเช่านาเป็นข้าวเปลือกตามที่ตกลงกันให้โจทก์ในปี พ.ศ.2521 ส่วนในปี พ.ศ.2522 จำเลยชำระให้โจทก์เพียงส่วนหนึ่งไม่ครบถ้วนตามที่ตกลง ถือได้ว่าจำเลยไม่ชำระค่าเช่านาให้โจทก์รวมกันเป็นเวลา 2 ปี และไม่ปรากฏว่าคณะกรรมการควบคุมการเช่านาประจำอำเภอผ่อนผันให้จำเลยโจทก์จึงมีสิทธิบอกเลิกการเช่านากับจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 66/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าเช่านาปรัง: แม้ทำนอกฤดู ก็ต้องชำระค่าเช่าตามสัญญาเช่านาปกติ
การทำนาปรังเป็นการทำนานอกฤดูการทำนาประจำปี ทั้งคำว่า 'พืชอายุสั้น' และ 'พืชไร่' ตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา มาตรา 20 ก็มิได้หมายความถึงข้าว ฉะนั้นเมื่อผู้เช่านาทำนาปรังในนาพิพาท ผู้เช่านาก็ต้องชำระค่าเช่าสำหรับการทำนาปรังนั้น และเมื่อฤดูการทำนาปรังสิ้นสุดในเดือนสิงหาคม ผู้ให้เช่านาก็ฟ้องให้ผู้เช่าชำระค่าเช่านานั้นในเดือนกันยายน ต่อมาได้ เพราะเป็นเวลาภายหลังจากเสร็จฤดูการทำนาปรังปีนั้นแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 261/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าเช่านาปรัง: การทำนาปรังเป็นการเพาะปลูกข้าวเช่นเดียวกับนาปี จึงต้องเสียค่าเช่าตามปกติ
พระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ. 2517 มาตรา 20 บัญญัติให้ผู้เช่านามีสิทธิปลูกพืชอายุสั้นภายหลังการเก็บเกี่ยวข้าวหรือพืชไร่ประจำปีในนาที่เช่าได้ โดยผู้ให้เช่านาจะเรียกเก็บค่าเช่านาเพิ่มมิได้ คำว่าพืชอายุสั้นมิได้หมายความถึงข้าว การทำนาปรังเป็นการเพาะปลูกข้าวเช่นเดียวกับการทำนาปี เมื่อจำเลยทำนาปรังในนาที่เช่า จำเลยไม่ได้รับความคุ้มครองตามบทบัญญัติดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 261/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าเช่านาปรัง: การทำนาปรังไม่ใช่พืชอายุสั้นตามกฎหมาย ผู้เช่าต้องชำระค่าเช่า
พระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517 มาตรา 20 บัญญัติให้ผู้เช่านามีสิทธิปลูกพืชอายุสั้นภายหลังการเก็บเกี่ยวข้าวหรือพืชไร่ประจำปีในนาที่เช่าได้โดยผู้ให้เช่านาจะเรียกเก็บค่าเช่านาเพิ่มมิได้ คำว่าพืชอายุสั้นมิได้หมายความถึงข้าว การทำนาปรังเป็นการเพาะปลูกข้าวเช่นเดียวกับการทำนาปี เมื่อจำเลยทำนาปรังในนาที่เช่าจำเลยไม่ได้รับความคุ้มครองตามบทบัญญัติดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1347/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อัตราค่าเช่านาต้องไม่เกินที่กฎหมายกำหนด การทำนาปรังไม่ขัดต่อกฎหมายเช่านา
คณะกรรมการควบคุมการเช่านาฯ กำหนดอัตราค่าเช่านาเกินกว่าที่เคยเก็บอยู่ก่อนวันที่ พระราชบัญญัติใช้บังคับไม่ได้ คือเกินไร่ละ 10 ถังตามที่กำหนดในพระราชบัญญัติฉบับก่อนที่ถูกพระราชบัญญัติฉบับนี้ ยกเลิกไปไม่ได้
ผู้เช่านาทำนาปรังนอกฤดูทำนาปกติ คณะกรรมการควบคุมการเช่านากำหนดให้ผู้ให้เช่าเก็บค่าเช่าอีกได้ ไม่ขัดต่อพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ. 2517 มาตรา 17, 20
ผู้เช่านาทำนาปรังนอกฤดูทำนาปกติ คณะกรรมการควบคุมการเช่านากำหนดให้ผู้ให้เช่าเก็บค่าเช่าอีกได้ ไม่ขัดต่อพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ. 2517 มาตรา 17, 20
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1724/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการแย่งข้าวเปลือกเป็นค่าเช่านา ไม่ถือเป็นการฟ้องซ้ำ หากการกระทำละเมิดเกิดขึ้นภายหลังคดีเดิม
คดีก่อน โจทก์ฟ้องจำเลยขอให้โอนที่นาและให้ใช้ค่าเสียหายในการที่จำเลยหรือบริวารแย่งเก็บเกี่ยวเอาข้าวเปลือกเป็นค่าเช่าที่นาพิพาทไปก่อนฟ้อง ศาลพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี ระหว่างที่คดีก่อนอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาจำเลยหรือบริวารได้แย่งเอาข้าวเปลือกจากบุคคลที่สามซึ่งเช่านาพิพาทไปเป็นค่าเช่านาพิพาทอีก 4 ปี ดังนี้ โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยคืนข้าวเปลือกที่เอาไปหรือใช้ราคาได้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ เพราะการแย่งเอาข้าวเปลือกนี้จำเลยได้กระทำเป็นครั้งๆ ตามระยะเวลาของการเก็บเกี่ยวข้าว ขณะโจทก์ฟ้องคดีก่อนการละเมิดของจำเลยตามฟ้องคดีหลังยังไม่เกิด โจทก์ไม่อาจใช้สิทธิทางศาลฟ้องจำเลยเสียในคราวเดียวกับที่คดีก่อนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 995/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเรียกเงินค่าเช่านาที่จำเลยยึดถือไว้โดยไม่มีสิทธิ ไม่เกี่ยวข้องกับกรรมสิทธิที่ดินหรือสัญญาเช่าที่ไม่มีอำนาจ
โจทก์ฟ้องเรียกเงินที่จำเลยเก็บค่าเช่านาแล้วไม่ส่งโจทก์หรือส่งให้ไม่ครบนั้นเนื้อแท้ก็เป็นเรื่องที่โจทก์ฟ้องเรียกเงินค่าเช่านาของโจทก์ที่จำเลยยึดถือไว้โดยไม่มีสิทธิ หาได้เกี่ยวข้องกับกรรมสิทธิของที่ดินหรือการที่จะให้บังคับตามสัญญาเช่าที่ดินซึ่งตัวแทนทำไว้โดยไม่มีอำนาจนั้นแต่ประการใดไม่ จึงไม่มีประเด็นที่จำเลยจะเถียงถึงเรื่องกรรมสิทธิของที่ดินหรือการตั้งตัวแทนทำสัญญาเช่าที่ดินโดยไม่มีอำนาจนั้น แต่ประการใดไม่เมื่อจำเลยฎีกาขึ้นมาก็เป็นนอกประเด็นแห่งคดี ศาลฎีกาย่อมไม่รับฟัง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 995/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเรียกเงินค่าเช่านา: ศาลไม่รับฟังฎีกาที่อ้างกรรมสิทธิ์ที่ดินหรือการแต่งตั้งตัวแทนที่ไม่เกี่ยวข้องกับประเด็นฟ้อง
โจทก์ฟ้องเรียกเงินที่จำเลยเก็บค่าเช่านาแล้วไม่ส่งโจทก์หรือส่งให้ไม่ครบนั้น เนื้อแท้ก็เป็นเรื่องที่โจทก์ฟ้องเรียกเงินค่าเช่านาของโจทก์ที่จำเลยยึดถือไว้โดยไม่มีสิทธิ หาได้เกี่ยวข้องกับกรรมสิทธิ์ของที่ดินหรือการที่จะให้บังคับตามสัญญาเช่าที่ดินซึ่งตัวแทนทำไว้โดยไม่มีอำนาจนั้นแต่ประการใดไม่ จึงไม่มีประเด็นที่จำเลยจะเถียงถึงเรื่องกรรมสิทธิ์ของที่ดินหรือการตั้งตัวแทนทำสัญญาเช่าที่ดินโดยไม่มีอำนาจนั้น แต่ประการใดไม่ เมื่อจำเลยฎีกาขึ้นมาก็เป็นนอกประเด็นแห่งคดี ศาลฎีกาย่อมไม่รับฟัง