คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ยุยง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 15 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2457/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยุยงให้กระทำผิด vs. ตัวการร่วม: ศาลแก้โทษจากตัวการเป็นผู้สนับสนุนอาญา
จำเลยทั้งสองไม่มีเจตนาจะใช้อาวุธปืนยิงทำร้ายผู้ใดมาก่อนเมื่อชาวบ้านวิ่งไล่ตามจับ จำเลยที่ 2 ตะโกนว่า "ยิงเลย" เพื่อหลบหนีเอาตัวรอด จำเลยที่ 1 จึงใช้ปืนยิงผู้เสียหายในระยะห่าง2 วา ดังนี้ ถือว่าจำเลยที่ 2 ก่อให้ผู้อื่นกระทำความผิด จะถือว่าจำเลยที่ 2 เป็นตัวการร่วมกระทำผิดกับจำเลยที่ 1 ไม่ได้ จำเลยที่ 2 จึงเป็นผู้ใช้ให้กระทำความผิด เมื่อการกระทำของจำเลยที่ 2ตามที่ปรากฏในทางพิจารณาเป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 84แต่โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 2 ในฐานะตัวการ จึงเป็นการแตกต่างในสาระสำคัญอย่างมากย่อมลงโทษไม่ได้ ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 192 วรรคสอง แต่การที่จำเลยที่ 2 ร้องบอกดังกล่าวถือได้ว่าเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86ซึ่งศาลมีอำนาจลงโทษฐานเป็นผู้สนับสนุนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 763/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษทางวินัยฐานจงใจทำให้ผู้ร้องเสียหายจากการยุยงให้ผละงาน
ระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของผู้ร้องกำหนดไว้ว่าหากพนักงานผู้ใดจงใจทำให้ผู้ร้องได้รับความเสียหาย ถือว่าผิดวินัยขั้นร้ายแรง เช่นนี้ การที่ผู้คัดค้านจงใจทำให้ผู้ร้องได้รับความเสียหาย โดยการชักชวนหรือยุยงให้พนักงานของผู้ร้องผละงานหรือละทิ้งการงานในการปฏิบัติหน้าที่ ย่อมเป็นการกระทำผิดวินัยขั้นร้ายแรงมีเหตุอันสมควรที่ศาลสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องลงโทษผู้คัดค้านได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2913/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสนับสนุนการกระทำความผิด ยุยงเร้าใจหลังลงมือยิง ไม่ถือเป็นตัวการร่วมหรือก่อให้ผู้อื่นกระทำผิด
การที่จำเลยวิ่งไปพูดกับนาย น. ว่า "ยิงแล้วยิงให้ตายยิงแล้วยิงให้ตาย" ภายหลังจากที่นาย น. ลงมือกระทำความผิดใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายไป 1 นัดแล้ว คำพูดของจำเลยดังกล่าวไม่เป็นการร่วมกับนาย น. ยิงผู้ตายและมิใช่เป็นผู้ก่อให้นาย น.กระทำความผิด หากแต่เป็นคำพูดยุยงสนับสนุนเร้าใจให้นาย น.ยิงผู้ตายให้ถึงแก่ความตายหนักแน่นยิ่งขึ้นเท่านั้น การกระทำของจำเลยจึงเป็นการสนับสนุนให้นาย น. กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2913/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำพูดยุยงหลังการยิงไม่เป็นความร่วมมือ แต่เป็นสนับสนุนความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86
การที่จำเลยวิ่งไปพูดกับนาย น. ว่า "ยิงแล้วยิงให้ตายยิงแล้วยิงให้ตาย" ภายหลังจากที่นาย น. ลงมือกระทำความผิดใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายไป 1 นัดแล้ว คำพูดของจำเลยดังกล่าวไม่เป็นการร่วมกับนาย น. ยิงผู้ตายและมิใช่เป็นผู้ก่อให้นายน. กระทำความผิด หากแต่เป็นคำพูดยุยงสนับสนุนเร้าใจให้นายน. ยิงผู้ตายให้ถึงแก่ความตายหนักแน่นยิ่งขึ้นเท่านั้น การกระทำของจำเลยจึงเป็นการสนับสนุนให้นาย น. กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2076/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การผิดสัญญาเนื่องจากการยุยงส่งผลให้สิทธิเรียกร้องเงินค่าตอบแทนสิ้นสุดลง
จทก์จำเลยตกลงกันว่านับแต่วันทำสัญญาเป็นต้นไป โจทก์ไม่มีสิทธิเข้าไปเกี่ยวข้องกับกิจการใดๆ ของห้างหุ้นส่วนและไม่ให้โจทก์เข้าไปก่อกวนความสงบและการทำงานของพนักงานต่างๆ ของห้างหุ้นส่วน ซึ่งเป็นการกระทำผิดต่อกฎหมายดังนี้ การที่โจทก์ไปพูดกับคนงานของจำเลยว่าทำงานมากหรือน้อย ก็ได้ค่าแรงเท่ากันก็ดี โจทก์ไปพูดกับผู้ส่งวัสดุก่อสร้างให้แก่จำเลยว่าจำเลยจะล้มละลายอยู่แล้ว ส่งของให้ทำไม ก็ดี ก็ไม่ใช่เป็นเรื่องที่โจทก์เข้าไปใช้สิทธิเกี่ยวข้องกับกิจการใดๆ ของจำเลยหรือเข้าไปก่อกวนความสงบและการทำงานของพนักงานของจำเลยซึ่งเป็นการผิดต่อกฎหมายตามข้อตกลงในสัญญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1141/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวการร่วมฆ่า: การยุยงส่งเสริมและร่วมกระทำความผิด
พี่ชายจำเลยโต้เถียงกับเจ้าของที่นาข้างเคียงเรื่องเขตที่นาผู้ตายซึ่งเป็นกำนันพูดไกล่เกลี่ย พี่ชายจำเลยไม่เชื่อฟัง จึงถูกผู้ตายว่ากล่าว ต่อมาพี่ชายจำเลยเดินเข้าหาผู้ตายจำเลยเดินตามไปด้วยพร้อมกับพูดให้พี่ชายยิงผู้ตายให้ตาย พี่ชายจำเลยจึงใช้ปืนสั้นยิงผู้ตาย 2 นัด แล้วจำเลยกับพี่ชายวิ่งหนีไป ผู้ตายถึงแก่ความตายดังนี้ จำเลยเป็นตัวการร่วมกับพี่ชายฆ่าผู้ตาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 457/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ละเมิดจากการยุยงให้หลบหนี ทำให้ผู้อื่นเสียค่าปรับประกัน
จำเลยได้ยุยงให้นายสมนึกจำเลยในคดีอาญาหลบหนี โดยให้เงินและฝากให้ทำงานในที่ห่างไกล ทั้งนี้ เพื่อให้โจทก์ซึ่งเป็นนายประกัน นายสมนึกถูกศาลปรับฐานผิดสัญญาประกัน นายสมนึกได้หลบหนีไป และโจทก์ได้ถูกศาลปรับฐานผิดสัญญาประกัน การกระทำของจำเลยเช่นนี้เป็นละเมิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 457/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ละเมิดจากการยุยงให้หลบหนีเพื่อทำให้คู่กรณีเสียค่าปรับประกัน
จำเลยได้ยุยงให้นายสมนึกจำเลยในคดีอาญาหลบหนี โดยให้เงินและฝากให้ทำงานในที่ห่างไกลทั้งนี้ เพื่อให้โจทก์ซึ่งเป็นนายประกันนายสมนึกถูกศาลปรับฐานผิดสัญญาประกันนายสมนึกได้หลบหนีไป และโจทก์ได้ถูกศาลปรับฐานผิดสัญญาประกัน การกระทำของจำเลยเช่นนี้เป็นละเมิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 457/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ละเมิดจากการยุยงให้หลบหนี ทำให้เกิดความเสียหายจากค่าปรับและค่าติดตามตัว
จำเลยได้ยุยงให้นายสมนึกจำเลยในคดีอาญาหลบหนี โดยให้เงินและฝากให้ทำงานในที่ห่างไกล. ทั้งนี้ เพื่อให้โจทก์ซึ่งเป็นนายประกันนายสมนึกถูกศาลปรับฐานผิดสัญญาประกัน.นายสมนึกได้หลบหนีไป และโจทก์ได้ถูกศาลปรับฐานผิดสัญญาประกัน. การกระทำของจำเลยเช่นนี้เป็นละเมิดต่อโจทก์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 102/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทนายยุยงให้ตัวความหลีกเลี่ยงหมายศาล: ความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลและการเป็นตัวการ
ทนายจำเลยถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้แนะนำไม่ให้จำเลยมาศาลเพื่อฟังคำสั่งศาล และเป็นผู้ยุยงส่งเสริมให้จำเลยหลีกเลี่ยงที่จะไม่รับหมายต่าง ๆ ของศาล ศาลชั้นต้นจึงได้ทำการไต่สวนในข้อหาว่ากระทำผิดฐานละเมิดอำนาจศาล และได้มีคำสั่งให้ทนายจำเลยมาศาลด้วยตนเองทุกนัดที่มีการนัดไต่สวน กรณีเช่นนี้ทนายจำเลยไม่มีฐานะเป็นคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 19 ฉะนั้น การที่ทนายจำเลยไม่มาศาลตามคำสั่งของศาล จึงไม่มีความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 31(5) และมาตรา 19
เมื่อปรากฎต่อศาลว่าผู้ใดกระทำละเมิดอำนาจศาลจะปรากฎโดยผู้นั้นกระทำต่อหน้าศาลหรือปรากฎจากหลักฐานอื่นใด ศาลก็ย่อมสั่งลงโทษได้ ในระหว่างที่ศาลชั้นต้นพิจารณาคดีที่คู่ความพิพาทกัน มีหลักฐานแสดงต่อศาลว่าทนายจำเลยกระผิดฐานละเมิดอำนาจศาลแต่ศาลยังมิได้ลงโทษทนายจำเลย ศาลยังได้สั่งให้ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปเกี่ยวกับเรื่องละเมิดอำนาจศาลโดยเฉพาะอีก และให้โอกาสทนายจำเลยที่จะอ้างอิงพยานหลักฐานมาสืบแสดงต่อศาล ครั้นถึงวันนัดทนายจำเลยก็ไม่มาศาล และไม่แจ้งเหตุขัดข้องอย่างไร แม้ภายหลังที่ศาลสั่งลงโทษทนายจำเลยแล้ว ทนายจำเลยก็มิได้แจ้งเหตุขัดข้องอย่างไรต่อศาลซึ่งแสดงว่าทนายจำเลยจงใจไม่อ้างอิงพยานหลักฐานมาสืบ และหลบเลี่ยงการดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลในเรื่องละเมิดอำนาจศาล ดังนี้ ศาลชั้นต้นได้ดำเนินกระบวนพิจารณาในเรื่องทนายจำเลยละเมิดอำนาจศาลมาชอบแล้ว
เมื่อศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณารับฟังได้ว่าทนายจำเลยเป็นผู้ยุยงเสี้ยมสอนให้ตัวความหลบเลี่ยงไม่รับหมายของศาลตลอดมา การกระทำของทนายจำเลยย่อมมีความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 31(3)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1,2/2507)
of 2