คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สั่งซื้อสินค้า

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 14 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8039/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้อง, เอกสารประกอบการฟ้อง, การรับฟังพยานหลักฐาน (โทรสาร, ภาพถ่าย), ประเด็นการสั่งซื้อสินค้า
แม้ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนบริษัทโจทก์และหนังสือรับรองว่าค. เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทโจทก์พนักงานโนตารีปับลิก แห่งประเทศสิงคโปร์จะได้รับรองความถูกต้องและสถานฑูตไทยประจำประเทศสิงคโปร์ได้รับรองลายมือชื่อและตราประทับของพนักงานโนตารีปับลิกแห่งประเทศสิงคโปร์หลังจากที่โจทก์ยื่นฟ้องคดีนี้ก็ตามแต่ใบสำคัญจดทะเบียนบริษัทโจทก์ระบุว่าโจทก์จดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัดตามกฎหมายของประเทศสิงคโปร์และระบุว่าค. เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทโจทก์ตั้งแต่ก่อนที่โจทก์จะฟ้องคดีนี้อีกทั้งค.ก็ได้ลงชื่อในใบมอบอำนาจให้น.ฟ้องคดีนี้ด้วยจำเลยที่1มิได้นำสืบให้ฟังเป็นอย่างอื่นย่อมฟังได้ว่าในวันที่โจทก์ยื่นฟ้องคดีนี้โจทก์เป็นนิติบุคคลตามกฎหมายของประเทศสิงคโปร์และค.เป็นกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนโจทก์และได้มอบอำนาจให้น. ฟ้องคดีนี้โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา47นั้นเป็นเรื่องอำนาจของศาลในการดำเนินกระบวนพิจารณาเกี่ยวกับใบมอบอำนาจหรือใบสำคัญและเอกสารอื่นๆในกรณีที่ศาลมีความสงสัยเท่านั้นหาใช่ว่าหากเอกสารไม่มีการรับรองจากโนตาลีปัปลิกจะถือว่าเป็นเอกสารที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายไม่ โทรสารใบสั่งซื้อสินค้าที่จำเลยที่1ส่งถึงโจทก์ต้นฉบับเอกสารจะอยู่ที่จำเลยที่1โจทก์ได้รับโทรสารที่เป็นสำเนาเอกสารส่วนใบกำกับสินค้าซึ่งต้นฉบับเอกสารโจทก์ได้ส่งให้แก่จำเลยที่1โจทก์คงมีแต่ภาพถ่ายใบกำกับสินค้าดังนี้เอกสารเฉพาะที่เป็นโทรสารซึ่งจำเลยที่1ส่งถึงโจทก์และบริษัทในเครือของโจทก์นั้นต้นฉบับเอกสารจึงอยู่ที่จำเลยที่1ส่วนใบกำกับสินค้านั้นโจทก์มอบต้นฉบับให้แก่จำเลยที่1ซึ่งเป็นผู้ซื้อสินค้าโจทก์คงมีแต่สำเนาหรือภาพถ่ายเอกสารถือได้ว่าโจทก์ไม่สามารถนำต้นฉบับเอกสารมาได้จึงรับฟังสำเนาหรือภาพถ่ายเอกสารได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา93(2)ส่วนภาพถ่ายเอกสารที่เหลือซึ่งเป็นโทรสารที่โจทก์ส่งไปถึงจำเลยที่1นั้นก็เป็นเพียงการตอบโทรสารที่จำเลยที่1มีไปถึงโจทก์ซึ่งแม้หากจะไม่รับฟังเอกสารนี้ข้อเท็จจริงก็ฟังได้ว่าจำเลยที่1ได้สั่งซื้อสินค้าและรับสินค้าไปจากโจทก์จริงดังนี้ปัญหาว่าเอกสารดังกล่าวจะรับฟังได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา93หรือไม่จึงไม่จำต้องวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2763/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับผิดในหนี้จากการเชิดตัวแทนสั่งซื้อสินค้า และขอบเขตความรับผิดของหุ้นส่วนผู้จัดการ
จำเลยทั้งสองได้เชิดช.ออกแสดงเป็นตัวแทนของตนสั่งซื้อวงกบประตู หน้าต่างจากโจทก์ และค้างชำระหนี้ค่าสินค้าโจทก์ตามฟ้องจำเลยที่ 2 ในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการของจำเลยที่ 1 จะต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 1 ชำระค่าวงกบประตู หน้าต่างที่ค้าง ปัญหาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่จำเลยทั้งสองยกขึ้นฎีกาจำเลยทั้งสองไม่ได้ให้การต่อสู้ไว้ และเป็นข้อที่มิได้ว่ากล่าวกันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 249 วรรคแรก ศาลฎีกาไม่วินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 499/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสั่งซื้อสินค้าโดยกรรมการผู้จัดการของบริษัทจำกัด ถือเป็นการกระทำแทนบริษัท และขอบเขตความรับผิดชอบต่อค่าเสียหายที่เกิดขึ้น
จำเลยเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัดมี ส. เป็นกรรมการผู้จัดการการที่ ส. สั่งซื้อกรอบรูปจากโจทก์แม้จะลงลายมือชื่อในใบสั่งซื้อเพียงผู้เดียว ก็ถือได้ว่า ส. ทำการแทนจำเลย จำเลยจึงต้องรับผิดชอบตามใบสั่งซื้อดังกล่าว จำเลยสั่งซื้อกรอบรูปจากโจทก์แล้วผิดสัญญา เงินกำไรที่โจทก์จะได้รับจากการขายกรอบรูปย่อมเป็นค่าเสียหายตามปกติอันเกิดจากการผิดสัญญาของจำเลย จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องชดใช้ให้โจทก์ ส่วนค่าจ้างทำแม่พิมพ์กรอบรูปนั้น โจทก์มีข้อตกลงกับ ท.ซึ่งโจทก์ว่าจ้างให้ทำกรอบรูปเพื่อขายให้จำเลยว่า หากมีการส่งมอบกรอบรูปให้จำเลยเรียบร้อยค่าจ้างแม่พิมพ์ ท. จะเป็นผู้ออก แต่หากผิดสัญญาโจทก์ต้องรับผิดชอบเอง เช่นนี้ แม้ค่าจ้างทำแม่พิมพ์จะเป็นค่าเสียหายอันเนื่องจากการที่จำเลยผิดสัญญา แต่ก็เป็นค่าเสียหายอันเกิดแต่พฤติการณ์พิเศษซึ่งจำเลยไม่สามารถคาดเห็นหรือควรจะคาดเห็นได้ก่อนล่วงหน้า โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายส่วนนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4790/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หุ้นส่วนผู้จัดการสั่งซื้อสินค้าแทนห้างหุ้นส่วน และหนังสือรับสภาพหนี้ทำให้ อายุความสะดุดหยุดลง
จำเลยที่ 2 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการห้างจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 สั่งซื้อน้ำมันจากโจทก์และจ้างโจทก์บรรทุกดินลูกรัง ใบสั่งซื้อน้ำมันระบุชื่อจำเลยที่ 1 และโจทก์บรรทุกดินลูกรังไปยังสถานที่ที่จำเลยที่ 1 รับจ้างทำงานแก่บริษัทอาร์ เอ็ม ไอ จำกัด หนังสือบันทึกข้อความรับรองว่าจะจ่ายเงินค่าบรรทุกดินลูกรังและค่าน้ำมันที่ค้าง ซึ่งจำเลยที่ 2 ทำให้แก่โจทก์หัวกระดาษมีชื่อจำเลยที่ 1 พฤติการณ์แสดงว่าจำเลยที่ 2 กระทำแทนจำเลยที่ 1 ในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการ การสั่งซื้อน้ำมันและการจ้างบรรทุกดินลูกรัง โจทก์และจำเลยที่ 2 ไม่ได้ทำสัญญากันเป็นหลักฐาน การสั่งซื้อน้ำมันจึงหาจำต้องประทับตราของหุ้นส่วนจำเลยที่ 1 ไม่
หนังสือบันทึกข้อความที่ฝ่ายจำเลยทำให้ไว้แก่โจทก์มีข้อความยอมรับว่าเป็นหนี้อยู่จริงจะใช้ให้ ไม่มีข้อโต้แย้งว่าไม่เป็นหนี้หรือมีสิทธิไม่ต้องชำระหนี้ หนังสือฉบับนี้จึงเป็นหนังสือรับสภาพหนี้ทำให้อายุความฟ้องคดีของโจทก์สะดุดหยุดลง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3764/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวแทนเชิดไม่ต้องรับผิดเมื่อตัวการเป็นผู้สั่งซื้อสินค้า
ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทว่า จำเลยที่ 3 เป็นตัวแทนเชิดของจำเลยที่ 1 ที่ 2 ในการสั่งซื้อสินค้าจากโจทก์ตามฟ้องหรือไม่จึงไม่มีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยว่า จำเลยที่ 3 ได้แสดงตนเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของจำเลยที่ 1 หรือไม่ แม้ฟ้องโจทก์จะกล่าวว่าจำเลยที่ 3 แสดงตนเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของจำเลยที่ 1มาด้วยก็ตาม แต่ศาลชั้นต้นไม่ได้กำหนดเป็นประเด็นข้อพิพาทในชั้นชี้สองสถานไว้ และโจทก์ก็มิได้คัดค้าน ถือได้ว่าโจทก์สละประเด็นข้อนี้แล้ว ดังนั้น เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยที่เป็นตัวแทนเชิดของจำเลยที่ 1 ที่ 2 ซึ่งเป็นตัวการ จำเลยที่ 3จึงไม่ต้องรับผิดชำระค่าสินค้าต่อโจทก์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2911/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเชิดตัวแทนสั่งซื้อสินค้า: ห้างหุ้นส่วนต้องรับผิดชอบราคาสินค้าที่ตัวแทนสั่งซื้อ
ใบรับบิลและใบส่งของระบุว่าส่งของให้ห้างจำเลยที่ 1 โดยมี ป. และ ส. ลงนามเป็นผู้รับบิล และผู้รับสินค้าเป็นส่วนใหญ่เมื่อบุคคลทั้งสองเป็นบุตรสาวของจำเลยที่ 2 และเป็นหุ้นส่วนของห้างจำเลยที่ 1 โดยเฉพาะ ป. ยังได้รับมอบหมายจากจำเลยที่2 ให้เป็นผู้สั่งของในนามของห้างจำเลยที่ 1 ด้วย เช่นนี้เป็นพฤติการณ์ถือได้ว่า ห้างจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 หุ้นส่วนผู้จัดการได้เชิด ป. ให้เป็นตัวแทนของจำเลยที่ 1 มีอำนาจสั่งซื้อสินค้าแทนจำเลยที่ 1 เมื่อ ป. สั่งซื้อสินค้าจากโจทก์แทนจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 ต้องรับผิดชดใช้ราคาให้โจทก์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2911/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเชิดตัวแทนสั่งซื้อสินค้า: ห้างหุ้นส่วนต้องรับผิดชอบราคาสินค้าที่ตัวแทนสั่งซื้อ
ใบรับบิลและใบส่งของระบุว่าส่งของให้ห้างจำเลยที่ 1 โดยมีป. และ ส. ลงนามเป็นผู้รับบิล และผู้รับสินค้าเป็นส่วนใหญ่เมื่อบุคคลทั้งสองเป็นบุตรสาวของจำเลยที่ 2 และเป็นหุ้นส่วนของห้างจำเลยที่ 1 โดยเฉพาะ ป. ยังได้รับมอบหมายจากจำเลยที่2 ให้เป็นผู้สั่งของในนามของห้างจำเลยที่ 1 ด้วย เช่นนี้เป็นพฤติการณ์ถือได้ว่า ห้างจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2หุ้นส่วนผู้จัดการได้เชิด ป. ให้เป็นตัวแทนของจำเลยที่ 1 มีอำนาจสั่งซื้อสินค้าแทนจำเลยที่ 1 เมื่อ ป. สั่งซื้อสินค้าจากโจทก์แทนจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 ต้องรับผิดชดใช้ราคาให้โจทก์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1042/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดร่วมกันของกรรมการบริษัทต่อหนี้ที่เกิดจากการสั่งซื้อสินค้าในนามบริษัท แม้จะมีข้อจำกัดวงเงิน
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันสั่งสินค้าของโจทก์มาจำหน่ายยังค้างชำระราคาสินค้าโจทก์อยู่ จำเลยที่ 1 ปฏิเสธว่าไม่ได้สั่งซื้อ จำเลยที่ 2 ให้การว่าได้สั่งซื้อในนามของจำเลยที่ 1 ศาลล่างพิพากษามาให้จำเลยร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าสินค้าที่ค้างชำระจำนวนหนึ่งแก่โจทก์ จำเลยที่ 2 ไม่ฎีกา คดียุติชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ จำเลยที่ 1 จะฎีกาว่าจำเลยที่ 2 ค้างชำระค่าสินค้าโจทก์อยู่เพียง 2 หมื่นบาทเศษ หาได้ไม่ เพราะตนมิได้ต่อสู้เป็นประเด็นไว้ในคำในการ
จำเลยที่ 2 ติดต่อสั่งซื้อสินค้าหลายรายการหลายครั้ง จากโจทก์ขณะเป็นผู้จัดการจำเลยที่ 1 และได้กระทำในนามของจำเลยที่ 1 โดยลงชื่อในตำแหน่งผู้จัดการจำเลยที่ 1 กับได้ประทับตราสำคัญของจำเลยที่ 1 ในเอกสารต่าง ๆ ทุกฉบับ ถือว่าได้ซื้อในนามหรือแทนจำเลย ที่ 1 ตามหน้าที่ของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 1 จึงมีหน้าที่ร่วมกับจำเลยที่ 2 ที่ จะต้องชำระราคาที่ค้างชำระอยู่แก่โจทก์ จำเลยที่ 1 จะยกเอาคำสั่งภายในที่โจทก์ ไม่รู้มายันโจทก์ เพื่อปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้
หมายเหตุในใบส่งของของโจทก์ระบุให้ฟ้องคดีต่อศาลจังหวัดกรุงเทพนั้นเป็นข้อความที่โจทก์พิมพ์ไว้แต่ฝ่ายเดียว ไม่ปรากฏว่าจำเลยได้ตกลงด้วย จึงไม่ใช่ข้อตกลงที่จะผูกพันความ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 7 (4) โจทก์มีอำนาจฟ้องคดีต่อ ศาลจังหวัดนครปฐม ซึ่งจำเลยทั้งสองมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตอำนาจได้ตามมาตรา 4 (2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1042/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดร่วมกันของกรรมการบริษัทในการซื้อขายสินค้า โดยกรรมการสั่งซื้อในนามบริษัทและลงตราสำคัญ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันสั่งสินค้าของโจทก์มาจำหน่ายยังค้างชำระราคาสินค้าโจทก์อยู่ จำเลยที่ 1ปฏิเสธว่าไม่ได้สั่งซื้อ จำเลยที่ 2 ให้การว่าได้สั่งซื้อในนามของจำเลยที่ 1 ศาลล่างพิพากษาให้จำเลยร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าสินค้าที่ค้างชำระจำนวนหนึ่งแก่โจทก์จำเลยที่ 2 ไม่ฎีกา คดียุติชั้นศาลอุทธรณ์ จำเลยที่1 จะฎีกาว่าจำเลยที่ 2 ค้างชำระค่าสินค้าโจทก์อยู่เพียง2 หมื่นบาทเศษ หาได้ไม่ เพราะตนมิได้ต่อสู้เป็นประเด็นไว้ในคำให้การ
จำเลยที่ 2 ติดต่อสั่งซื้อสินค้าหลายรายการหลายครั้งจากโจทก์ขณะเป็นผู้จัดการจำเลยที่ 1 และได้กระทำในนามของจำเลยที่ 1 โดยลงชื่อในตำแหน่งผู้จัดการจำเลยที่ 1กับได้ประทับตราสำคัญของจำเลยที่ 1 ในเอกสารต่างๆทุกฉบับ ถือว่าได้ซื้อในนามหรือแทนจำเลยที่ 1 ตามหน้าที่ของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 1 จึงมีหน้าที่ร่วมกับจำเลยที่ 2 ที่จะต้องชำระราคาที่ค้างชำระอยู่แก่โจทก์ จำเลยที่ 1 จะยกเอาคำสั่งภายในที่โจทก์ไม่รู้มายันโจทก์เพื่อปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้
หมายเหตุในใบส่งของของโจทก์ระบุให้ฟ้องคดีต่อศาลจังหวัดกรุงเทพนั้นเป็นข้อความที่โจทก์พิมพ์ไว้แต่ฝ่ายเดียวไม่ปรากฏว่าจำเลยได้ตกลงด้วย จึงไม่ใช่ข้อตกลงที่จะผูกพันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา7(4) โจทก์มีอำนาจฟ้องคดีต่อศาลจังหวัดนครปฐมซึ่งจำเลยทั้งสองมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตอำนาจได้ตามมาตรา 4(2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1744/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในเครื่องหมายการค้า: การสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศที่มีเครื่องหมายคล้ายกัน ไม่ถือเป็นการละเมิด หากไม่ใช่เจ้าของเครื่องหมาย
โจทก์จำเลยสั่งสินค้าชนิดเดียวกันจากบริษัทในต่างประเทศแห่งเดียวกันและบริษัทติดเครื่องหมาย "ฮิท" (Hit) ในสินค้านั้นมา แต่เครื่องหมายไม่เหมือนกับที่จำเลยจดทะเบียนไว้ในประเทศไทยและสินค้าที่จำเลยสั่งมา จำเลยให้บริษัททำเครื่องหมายแตกต่างจากเดิมเล็กน้อย ดังนี้ การที่โจทก์สั่งสินค้าเครื่องหมาย "ฮิท" (Hit) ตามธรรมดา (ซึ่งไม่เหมือนกับที่จำเลยสั่ง) เข้ามาจำหน่ายไม่เป็นการละเมิดต่อกิจการจำเลย
of 2