พบผลลัพธ์ทั้งหมด 16 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 77/2549
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดหลายบท: การแข่งรถเมาแล้วขับ เป็นเจตนาเดียว ความผิดไม่แยกกรรม
จำเลยขับรถจักรยานยนต์แข่งกันไปตามถนนโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากเจ้าพนักงานจราจรและขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของบุคคลอื่นกับการที่จำเลยขับรถในขณะเมาสุราเป็นการกระทำที่เกี่ยวเนื่องกันโดยจำเลยมีเจตนาเดียวคือขับรถจักรยานยนต์แข่งขันกันตามถนน การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท แม้โจทก์จะบรรยายฟ้องต่างกรรมกัน และความผิดฐานขับรถในขณะเมาสุราเกิดขึ้นเป็นความผิดทันทีก็ตาม ก็ไม่ทำให้การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 122/2549
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดหลายบท: เจตนาเดียวขับรถโดยประมาท แม้บัญญัติในอนุมาตราต่างกัน
การที่จำเลยขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่นกับการที่จำเลยขับรถในขณะเมาสุรา เป็นการกระทำที่เกี่ยวเนื่องกันโดยจำเลยมีเจตนาเดียวคือ ขับรถด้วยความเร็วเกินสมควรโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท แม้ พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ บัญญัติบทฐานความผิดไว้ในมาตราเดียวกัน แต่คนละอนุมาตรา ก็ไม่ทำให้การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5584/2543 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดหลายบท: เจตนาเดียวเพื่อเบิกเงินประกันภัย แม้แจ้งความเท็จและใช้เอกสารปลอม
จำเลยแจ้งข้อความอันเป็นเท็จว่ารถยนต์หาย แล้วนำรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีไปแสดงต่อบริษัทประกันภัย เป็นการกระทำที่มีเจตนาเดียวคือมุ่งหมายเพื่อให้จะได้เงินจากบริษัทประกันภัยเป็นหลักการกระทำต่าง ๆ ของจำเลยเป็นเพียงวิธีการเพื่อให้ได้รับเงินไปเท่านั้นการกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 173,267,268 เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษตามมาตรา 173 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6869/2541 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฉ้อโกงประชาชน: เจตนาเดียว, กรรมเดียว, ผู้เสียหายคือผู้ถูกหลอกลวง
โจทก์ทั้งเก้ามิได้ฟ้องจำเลยในข้อหาความผิดต่อพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราฯ หากแต่ฟ้องร้องในข้อหาความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ซึ่งข้อหานี้โจทก์ทั้งเก้ามิได้มีส่วนร่วมกระทำความผิดกับจำเลยที่ 3 และที่ 4 ด้วย โจทก์ทั้งเก้าจึงเป็นผู้เสียหายคดีนี้
การหลอกลวงหรือฉ้อโกงโจทก์ทั้งเก้าและประชาชน โดยสภาพแห่งการกระทำต้องกระทำต่อบุคคลหลายคนในลักษณะที่เป็นประชาชนและอาจต่างวาระกันได้ และเห็นได้ชัดว่าเกิดจากเจตนาอันเดียวกันคือฉ้อโกงประชาชน ดังนั้น การที่จำเลยที่ 3 และที่ 4 โดยมีเจตนาร่วมกันทุจริตแพร่ข่าวและชักชวนด้วยวาจาต่อโจทก์ทั้งเก้าและประชาชนทั่วไปว่าต้องการกู้เงินจากประชาชน โดยจะให้ผลประโยชน์ตอบแทนถึงร้อยละ 10ต่อเดือน จนโจทก์ทั้งเก้าและประชาชนทั่วไปหลงเชื่อให้จำเลยที่ 3 และที่ 4 กู้ไปนั้น ถือได้ว่าเป็นการกระทำอันเป็นกรรมเดียว
การหลอกลวงหรือฉ้อโกงโจทก์ทั้งเก้าและประชาชน โดยสภาพแห่งการกระทำต้องกระทำต่อบุคคลหลายคนในลักษณะที่เป็นประชาชนและอาจต่างวาระกันได้ และเห็นได้ชัดว่าเกิดจากเจตนาอันเดียวกันคือฉ้อโกงประชาชน ดังนั้น การที่จำเลยที่ 3 และที่ 4 โดยมีเจตนาร่วมกันทุจริตแพร่ข่าวและชักชวนด้วยวาจาต่อโจทก์ทั้งเก้าและประชาชนทั่วไปว่าต้องการกู้เงินจากประชาชน โดยจะให้ผลประโยชน์ตอบแทนถึงร้อยละ 10ต่อเดือน จนโจทก์ทั้งเก้าและประชาชนทั่วไปหลงเชื่อให้จำเลยที่ 3 และที่ 4 กู้ไปนั้น ถือได้ว่าเป็นการกระทำอันเป็นกรรมเดียว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7854/2540 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาเดียวในการขายสลากกินรวบ: ความผิดฐานเจ้ามือรับกินรับใช้กรรมเดียว
แม้การจัดให้มีการเล่นการพนันเพื่อนำมาซึ่งผลประโยชน์แห่งตนและการเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ในการเล่นการพนันสลากกินรวบ อาจเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันก็ตาม แต่จำเลยนั่งขายสลากกินรวบที่บ้านพักของจำเลย เมื่อมีลูกค้ามาซื้อ จำเลยได้เขียนโพยสลากให้แก่ผู้ซื้อแล้วมอบโพยสลากให้ผู้ซื้อเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนสำเนาโพยสลากจำเลยเก็บไว้จนถูกเจ้าพนักงานจับกุมได้พร้อมเงินสดของกลาง 40 บาท ดังนี้ แม้การกระทำของจำเลยจะเป็นความผิดทั้งฐานเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันเพื่อนำมาซึ่งผลประโยชน์แห่งตนและฐานเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ด้วยก็ตาม แต่จำเลยกระทำโดยมีเจตนาอันเดียวกันคือขายสลากกินรวบนั่นเองการกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้เพียงกรรมเดียวมิใช่เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6293/2539
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดหลายบท: ตัดไม้ในเขตป่าสงวนฯ แม้ฟ้องแยกกรรม แต่เจตนาเดียว โทษฐานทำไม้
แม้โจทก์จะบรรยายฟ้องว่าจำเลยลักทรัพย์และทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติเป็นสองกรรมแยกต่างหากจากกันแต่เมื่ออ่านรวมกันแล้วได้ความว่าจำเลยเข้าไปตัดต้นยูคาลิปตัสในเขตป่าสงวนแห่งชาติจำนวน38ต้นแล้วทอนออกเป็นท่อนได้250ท่อนและใช้รถยนต์บรรทุกออกจากป่าในวันเวลาเดียวกันไม้ที่จำเลยตัดฟันและลักเอาไปจึงเป็นไม้จำนวนเดียวกันและได้กระทำคราวเดียวพร้อมกันต่อเนื่องกันไปโดยมีเจตนาเพียงเพื่อประสงค์ต้องการไม้เท่านั้นจึงเป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทต้องลงโทษฐานทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติพ.ศ.2507มาตรา14,31วรรคสองซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา90
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1864/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเบียดบังทรัพย์สินโดยมีเจตนาเดียว แม้มีการเบิกถอนหลายครั้ง ถือเป็นกรรมเดียว และประเด็นการไม่รอการลงโทษเป็นปัญหาความสงบเรียบร้อย
คดีต้องห้ามโจทก์อุทธรณ์ปัญหาข้อเท็จจริง โจทก์อุทธรณ์ขอให้ไม่รอการลงโทษแก่จำเลย อันเป็นอุทธรณ์โต้แย้งดุลพินิจในการลงโทษและเป็นปัญหาข้อเท็จจริงการที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยไม่รอการลงโทษจำเลยจึงเป็นการไม่ชอบ ปัญหานี้เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยแม้คู่ความมิได้ฎีกา ศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยเองได้ จำเลยเบิกถอนเงินจากบัญชีของมารดารวม 5 ครั้ง โดยมีเจตนาเบียดบังเงินส่วนที่เหลือจากการนำไปใช้จ่ายตามคำสั่งมารดาก่อนตายเป็นเจตนาเดียวการกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดกรรมเดียว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1504/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำผิดฐานซื้อตัวผู้เยาว์และเป็นธุระจัดหาเพื่อการอนาจาร แม้มีเจตนาเดียวแต่เป็นกรรมต่างกัน
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 319 วรรคสอง คำว่าซื้อหรือรับตัวมีผลเป็นทำนองเดียวกันว่าจำเลยได้ตัวนางสาว ก. ผู้เยาว์ซึ่งถูกพรากตามวรรคแรกมาอยู่กับจำเลย ส่วนเหตุแห่งการได้ตัวมานั้นไม่ว่าจะได้มาโดยเสียค่าตอบแทนหรือไม่ก็เป็นความผิดเช่นเดียวกัน ฉะนั้นที่โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยซื้อหรือรับตัวนางสาว ก. ผู้เยาว์ไว้ โดยไม่ได้ระบุว่ากระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งจึงไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม แม้ความมุ่งหมายในการกระทำของจำเลยจะมีอย่างเดียวคือเป็นธุระจัดหาหญิงไว้เพื่อสำเร็จความใคร่ของผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 282 แต่การที่จำเลยจะได้นางสาว ก.ผู้เยาว์ไว้เพื่อสำเร็จความใคร่ของผู้อื่นนั้นจำเลยรับซื้อเอานางสาว ก. ผู้เยาว์ซึ่งถูกพรากจากมารดามาไว้กับจำเลยอันเป็นการกระทำความผิดอีกอันหนึ่ง ตามมาตรา 319 วรรคสอง ด้วยเพื่อบรรลุผลตามความมุ่งหมาย ซึ่งเป็นความผิดต่างฐานกันต้องถือว่าเป็นเจตนาอีกอันหนึ่งต่างหาก ดังนั้นการกระทำของจำเลยจึงเป็นหลายกรรม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1972/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดหลายบท: บุกรุกเคหสถานและขู่เข็ญด้วยอาวุธปืน ศาลยึดเจตนาเดียวในการขับไล่
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลย 2 กระทงความผิด ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยกระทำเพียงกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทและให้ลงโทษบทที่มีโทษหนักที่สุดเพียงบทเดียว เป็นการแก้ไขเล็กน้อยและยังคงจำคุกจำเลยไม่เกิน 5 ปี คดีต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
จำเลยกับพวกบุกรุกขึ้นไปบนทับซึ่งเป็นเคหสถานที่อยู่อาศัยของผู้เสียหายโดยมีอาวุธปืนติดตัวไปด้วย และได้ใช้อาวุธปืนยิงเพื่อขู่เข็ญให้ผู้เสียหายกับพวกเกิดความกลัวจนผู้เสียหายกับพวกลงจากทับหนีเข้าไปในป่า แสดงว่าจำเลยกับพวกบุกรุกขึ้นไปบนทับของผู้เสียหายก็เพื่อขับไล่ผู้เสียหายให้ออกไปจากทับ เมื่อผู้เสียหายยังไม่ยอมออกไปจึงยิงปืนขู่เข็ญให้ผู้เสียหายเกิดความกลัวจนผู้เสียหายออกไปจากทับเข้าไปในป่าการกระทำของจำเลยต่อเนื่องกันโดยมีเจตนาประการเดียวคือเพื่อขับไล่ผู้เสียหายกับพวกให้ออกไปจากทับ จึงเป็นการกระทำเพียงกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท.
จำเลยกับพวกบุกรุกขึ้นไปบนทับซึ่งเป็นเคหสถานที่อยู่อาศัยของผู้เสียหายโดยมีอาวุธปืนติดตัวไปด้วย และได้ใช้อาวุธปืนยิงเพื่อขู่เข็ญให้ผู้เสียหายกับพวกเกิดความกลัวจนผู้เสียหายกับพวกลงจากทับหนีเข้าไปในป่า แสดงว่าจำเลยกับพวกบุกรุกขึ้นไปบนทับของผู้เสียหายก็เพื่อขับไล่ผู้เสียหายให้ออกไปจากทับ เมื่อผู้เสียหายยังไม่ยอมออกไปจึงยิงปืนขู่เข็ญให้ผู้เสียหายเกิดความกลัวจนผู้เสียหายออกไปจากทับเข้าไปในป่าการกระทำของจำเลยต่อเนื่องกันโดยมีเจตนาประการเดียวคือเพื่อขับไล่ผู้เสียหายกับพวกให้ออกไปจากทับ จึงเป็นการกระทำเพียงกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2457/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาเดียว ความผิดกรรมเดียว ลักทรัพย์-ชิงทรัพย์ในคราวเดียวกัน
การที่จำเลยลักเอาอาวุธปืนของผู้เสียหายในลิ้นชักและใช้อาวุธปืนนั้นขู่บังคับผู้เสียหายให้ส่งทรัพย์อื่นให้อีก ถือว่าจำเลยได้กระทำโดยมีเจตนาอันแท้จริงต่อผลเพียงอย่างเดียว คือมุ่งประสงค์ต่อทรัพย์ทั้งหมดแต่ต้น การที่จำเลยลักอาวุธปืนและชิง เอาทรัพย์อื่นของผู้เสียหายอีกจึงเป็นการกระทำในคราวเดียวกันอันเป็นความผิดกรรมเดียว แม้โจทก์จะบรรยายแยกการกระทำผิดดังกล่าวของจำเลยมาในฟ้อง เพื่อแสดงให้เห็นว่าเป็นการกระทำผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกันและจำเลยให้การรับสารภาพก็ตาม ศาลจะลงโทษจำเลยหลายกรรมเป็นกระทงความผิดไม่ได้.