คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
บังคับตามสัญญา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 108 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1177/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าที่ระบุวัตถุประสงค์ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ศาลย่อมบังคับตามสัญญา หากไม่มีการถูกบังคับหรือหลอกลวง
เช่าเคหะอยู่อาศัยแต่ทำหนังสือสัญญาเช่าว่า เช่าเพื่อการค้าอย่างเดียว ซึ่งฝืนความจริงเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นจากความควบคุมของ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ นั้น ศาลย่อมบังคับให้ตามหนังสือสัญญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1268/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะซื้อขาย: การฟ้องให้บังคับตามสัญญาต้องพิสูจน์การตกลงกันแล้ว ไม่ใช่แค่ขอให้ศาลแสดงว่ามีสัญญา
โจทก์ฟ้องว่าได้เสนอขายสิ่งของแก่จำเลย ๆ ได้สนองรับซื้อสิ่งของนั้น ตามคำเสนอของโจทก์แล้วแต่ต่อมาบิดพริ้วไม่ยอมทำสัญญาซื้อขายสิ่งของนั้นกับโจทก์ทำให้โจทก์ได้รับความเสีย หาย จึงขอให้ศาลแสดงว่าการกระทำระหว่างโจทก์จำเลยเป็นสัญญาจะซื้อขายมีผลผูกพันและบังคับได้ตามกฎหมาย ดังนี้ยังไม่เป็นเหตุผลที่โจทก์จะต้องมาขอใช้สิทธิทางศาลตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 55 เพราะเป็นเรื่องที่ขอให้แสดงว่าได้มีการตกลงจะทำสัญญาระหว่างโจทก์จำเลยหรือไม่เท่านั้น ถ้าโจทก์ยืนยันว่าได้มีการตกลงกับจำเลยแล้ว และจำเลยกระทำผิดข้อตกลงอย่างใด โจทก์ชอบที่จะฟ้องร้องว่ากล่าวในทางนั้น ฉะนั้นในเรื่องนี้จึงยังไม่เป็นมูลกรณีที่จะพึงฟ้องร้องกลับ
(ประชุมใหญ่)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 961/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาปราณีประนอมยอมความและการบังคับตามสัญญา หากศาลบังคับตามสัญญาแล้ว ประเด็นเรื่องมรดกย่อมสิ้นสุด
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิที่ดินโฉนดที่ 291 ร่วมกับ ท. ท.ตายมีผู้รับมฤดกส่วนของ ท.ต่อมาเป็นทอด ๆ จนถึง ด. เมื่อ ด. ตาย โจทก์,จำเลยเป็นผู้รับมฤดกของ ด. ร่วมกันและได้ทำสัญญาปราณีประนอมกัน คือ จำเลยยอมแบ่งที่ดินโฉนดที่ 505 ตามเขตต์ที่โจทก์ปกครองให้โจทก์ และโจทก์ยอมให้จำเลยรับมฤดกของ ด.แต่ผู้เดียว บัดนี้จำเลยไม่ยอมปฏิบัติตามสัญญาปราณีประนอม โจทก์จึงฟ้องโดยมีคำขอท้ายฟ้อง ดังนี้
1. ให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาปราณีประนอมยอมความ หรือมิฉะนั้นให้ถอนชื่อจำเลยออกจากโฉนดที่ 291 ในฐานะผู้รับมฤดกของ ด.
2. ขอให้ที่นาส่วนของ ด.เป็นมฤดกตามเดิม
3. แบ่งที่นามฤดกของ ด. ให้โจทก์ครึ่งหนึ่ง
ดังนี้ ต้องแปลว่าโจทก์ขอให้บังคับจำเลยปฏิบัตตามสัญญาปราณีประนอมเป็นข้อต้น ถ้าศาลไม่บังคับให้ จึงขอให้บังคับจำเลยตามคำขอในข้ออื่น ๆ อันเกี่ยวกับมฤดกของ ด. ฉะนั้นเมื่อศาลบังคับให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาปราณีประนอมแล้ว ก็เป็นอันไม่มีประเด็นจะต้องไปชี้ในเรื่องที่ดินโฉนดที่ 291 อันเกี่ยวกับมฤดกของ ด. อีก.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 961/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความและการบังคับตามสิทธิในมรดก หากศาลบังคับตามสัญญาประนีประนอมแล้ว ประเด็นเรื่องมรดกย่อมสิ้นสุด
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดที่ 291 ร่วมกับท. ท.ตายมีผู้รับมรดกส่วนของ ท.ต่อมาเป็นทอดๆจนถึงด. เมื่อ ด. ตาย โจทก์,จำเลยเป็นผู้รับมรดกของด ร่วมกันและได้ทำสัญญาประนีประนอมกันคือจำเลยยอมแบ่งที่ดินโฉนดที่ 505 ตามเขตที่โจทก์ปกครองให้โจทก์และโจทก์ยอมให้จำเลยรับมรดกของ ด. แต่ผู้เดียว บัดนี้จำเลยไม่ยอมปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอม โจทก์จึงฟ้องโดยมีคำขอท้ายฟ้อง ดังนี้
1. ให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความหรือมิฉะนั้นให้ถอนชื่อจำเลยออกจากโฉนดที่ 291 ในฐานะผู้รับมรดกของด.
2. ขอให้ที่นาส่วนของ ด. เป็นมรดกตามเดิม
3. แบ่งที่นามรดกของ ด. ให้โจทก์ครึ่งหนึ่ง
ดังนี้ ต้องแปลว่าโจทก์ขอให้บังคับจำเลยปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมเป็นข้อต้น ถ้าศาลไม่บังคับให้ จึงขอให้บังคับจำเลยตามคำขอในข้ออื่นๆ อันเกี่ยวกับมรดกของ ด.ฉะนั้นเมื่อศาลบังคับให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมแล้วก็เป็นอันไม่มีประเด็นจะต้องไปชี้ในเรื่องที่ดินโฉนดที่ 291 อันเกี่ยวกับมรดกของ ด. อีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1009/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยผิดสัญญาจะซื้อขายที่ดิน แม้มีข้อตกลงค่าเสียหาย โจทก์มีสิทธิฟ้องบังคับให้ปฏิบัติตามสัญญาได้
จำเลยได้ทำสัญญาจะขายที่ดินไว้กับโจทก์ โดยกำหนดวันโอนไว้แน่นอนแล้ว แต่ก่อนถึงกำหนดวันโอน จำเลยกลับเอาที่ดินไปขายแก่ผู้อื่นเสีย ดังนี้ การกระทำของจำเลยย่อมเป็นการผิดสัญญา โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยปฏิบัติตามสัญญาก่อนกำหนดได้ โดยจำเลยจะยกเงื่อนเวลามาเป็นประโยชน์แก่จำเลยไม่ได้
ในสัญญาจะซื้อขายที่ดินระบุไว้ว่า ถ้าฝ่ายใดผิดสัญญา ยอมให้อีกฝ่ายหนึ่งเรียกค่าเสียหายได้ 6000 บาท ดังนี้ ไม่แปลว่าเจ้าหนี้จะเรียกได้แต่ฉะเพาะค่าเสียหายเท่านั้น เจ้าหนี้อาจเลือกฟ้องขอให้ลูกหนี้ปฏิบัติตามสัญญาก็ได้ตามมาตรา 380 ป.ม.แพ่ง ฯ
(อ้างฎีกาที่ 131/2489)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 320/2488

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบี้ยปรับในสัญญาซื้อขาย: เจ้าหนี้มีสิทธิฟ้องบังคับตามสัญญา แม้ไม่เรียกเบี้ยปรับ
สัญญาที่กำหนดเบี้ยปรับไว้นั้นถ้าเจ้าหนี้ไม่เรียกเบี้ยปรับ ก็ย่อมฟ้องขอบังคับตามสัญญาได้ โดยไม่ถือว่า เจ้าหนี้มีเจตนาจะเรียกฉะเพาะค่าปรับ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 155-156/2488 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับตามสัญญาซื้อขายที่ดินติดจำนอง แม้มีการไถ่ถอนและจำนองใหม่ สิทธิของผู้ซื้อยังคงมีอยู่
ผู้ขายได้ขายที่ติดจำนองแก่ผู้ซื้อ ผู้รับจำนองฟ้องบังคับจำนองและผู้ขายไถ่ถอนจำนองแล้ว ดังนี้เมื่อไม่มีข้อตกลงไว้เป็นอย่างอื่นสัญญาซื้อขายนั้นไม่เลิกกัน
ขายที่ดินบางส่วนซึ่งติดการจำนองผู้ซื้อฟ้องขอให้บังคับผู้ขายแบ่งแยกโอนให้ตนได้ไม่กระทบกระเทือนถึงสิทธิ-จำนอง
ขายที่ดินเฉพาะบางส่วนให้แก่หลายคน แม้จะไม่พอแบ่งแยกให้แก่ผู้ซื้อทุกๆคนก็ตาม ถ้ายังไม่มีการแบ่งแยกที่ดินไป ผู้ซื้อหนึ่งคนหนึ่งก็มาฟ้องขอให้แบ่งแยกโอนขายให้ตนได้.
ที่ดินหลายเจ้าของเมื่อเจ้าของคนหนึ่ง ๆ รับโอนมาโดยทราบถึงนิติกรรมการซื้อขายก่อนแล้ว ศาลก็บังคับให้ปฏิบัติตามสัญญาซื้อได้ ไม่ขัดกับประมวลแพ่งฯ ม.1361 วรรค 2

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1049-1050/2485

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความไม่ชัดเจนของฟ้องเรื่องกลฉ้อฉลและการบังคับตามสัญญาซื้อขาย
ฟ้องโจทกล่าวว่าโจทถูกจูงไจด้วยกลฉ้อฉลของจำเลยไห้หลงเข้าทำสัญญาโดยโจทมิได้บันยายว่าจำเลยกล่าวอ้างความจิงอันไดต่อโจทและเปนเท็ดหย่างไร จึงจูงไจไห้โจทเข้าทำสัญญา ย่อมเปนฟ้องที่ไม่แน่นอน , โจทฟ้องกล่าวว่า สัญญาลงวันที่ 16 พรึสจิกายน 2482 ไม่ไช่สัญญาที่แท้จิงและบริสุทธิอาดทำปลอมขึ้นทั้งฉบับหรือปลอมข้อความบางส่วนหรือทำขึ้นด้วยการหลอกลวงโดยไม่รู้เท่าถึงความจิงไม่ยืนยันว่าจำเลยหลอกลวงโจทว่ากะไร ความจิงเปนหย่างไร ย่อมเปนฟ้องเคลือบคลุม.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 969/2484

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับตามสัญญาซื้อขายร่วมและการระบุสภาพแห่งข้อหาในคำฟ้อง
ทำสัญญาร่วมทุนกันไปซื้อที่ดินเพื่อมาแบ่งกัน เมื่อคนหนึ่งไปจัดการซื้อและรับโอนโฉนดมาแล้วไม่ยอมโอนแบ่งให้อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องขอแบ่งได้ สัญญาเข้าทุนกันไปซื้อทรัพย์มาแบ่งกันโดยไม่ประสงค์แบ่งกำไรนั้น ไม่ใช่สัญญาเข้าหุ้นส่วน การทำสัญญากันนั้นแม้ไม่เข้าลักษณะเอกเทศสัญญาก็ฟ้องร้องบังคับกันได้ตามหลักทั่วไปในบรรพ 1-2 ในคดีแพ่งโจทก์ไม่จำเป็นต้องอ้างบทกฎหมายเสมอไป
กรณีที่ถือว่าฟ้องของโจทก์กล่าวความครบถ้วนตามที่ประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง ม.172 บังคับไว้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1001/2484

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผิดสัญญาซื้อขายที่ดิน: ศาลมีอำนาจใช้ค่าเสียหายแทนการบังคับตามสัญญาเมื่อมีพฤตติการณ์พิเศษ
กรณีผิดสัญญา โดยปกติศาลย่อมบังคับให้ปฏิบัติตามสัญญา แต่เมื่อมีพฤตติการณ์พิเศษ เช่นจะเป็นการเสียหายแก่บุคคลภายนอกมากมาย ศาลจะให้ใช้ค่าเสียหายแทนก็ได้
of 11