คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ประเมิน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 121 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1074/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางอาญาของผู้มีจิตบกพร่อง: การประเมินความสามารถในการรู้ผิดชอบและควบคุมตนเอง
หากจำเลยกระทำความผิดลงในขณะที่จำเลยเป็นคนมีจิตบกพร่อง โรคจิต หรือจิตฟั่นเฟือน แต่จำเลยก็ยังสามารถรู้ผิดชอบอยู่บ้าง หรือยังสามารถบังคับตนเองได้บ้างแล้ว ศาลจะลงโทษจำเลยน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 617/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประเมินความร้ายแรงของการบาดเจ็บเพื่อกำหนดความผิดฐานปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส
ผู้บาดเจ็บถูกฟันศีรษะ 1 ทีและถูกแทงหลัง 1 ที ต้องรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล 15 วัน แพทย์ก็ให้กลับและให้ไปโรงพยาบาลทุก 3 วัน เพราะประสาทยังไม่ปกติ ไปโรงพยาบาลอีก 3 ครั้ง แล้วขอยามารักษาที่บ้าน เพราะต้องเดินทางไกลสะเทือนสมอง เพียงเท่านี้ไม่ปรากฎอาการใดที่จะถือเป็นทุกขเวทนา เกินกว่า 20 วัน ถือว่ายังไม่เป็นอันตรายสาหัส
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยทุกคนฐานปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้มีผู้รับอันตรายสาหัสตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรค 3 จำเลยที่ 1 ผู้เดียวฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าบาดเจ็บนั้นไม่ถึงสาหัสจึงเป็นผิดเพียงตาม มาตรา 340 วรรค 2 ซึ่งมีโทษเบากว่า แม้จำเลยอื่นจะมิได้ฎีกา ก็เป็นเหตุในลักษณะคดี ย่อมมีผลตลอดถึงจำเลยอื่นด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 617/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประเมินความสาหัสของบาดแผลเพื่อกำหนดโทษฐานปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตราย
ผู้บาดเจ็บถูกฟันศีรษะ 1 ที และถูกแทงหลัง 1 ที ต้องรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล 15 วัน แพทย์ก็ให้กลับและให้ไปโรงพยาบาลทุก 3 วันเพราะประสาทยังไม่ปกติไปโรงพยาบาลอีก 3 ครั้ง แล้วขอยามารักษาที่บ้านเพราะต้องเดินไกลสะเทือนสมอง เพียงเท่านี้ไม่ปรากฏอาการใดที่จะถือเป็นทุกขเวทนาเกินกว่า 20 วัน ถือว่ายังไม่เป็นอันตรายสาหัส
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยทุกคนฐานปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้มีผู้รับอันตรายสาหัสตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสาม จำเลยที่ 1 ผู้เดียวฎีกาศาลฎีกาเห็นว่าบาดเจ็บนั้นไม่ถึงสาหัสจึงเป็นผิดเพียงตาม มาตรา 340 วรรคสอง ซึ่งมีโทษเบากว่าแม้จำเลยอื่นจะมิได้ฎีกา ก็เป็นเหตุในลักษณะคดี ย่อมมีผลตลอดถึงจำเลยอื่นด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1022/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาพยายามฆ่า: การประเมินจากพฤติการณ์และข้อเท็จจริงที่ปรากฏ
การที่จะลงโทษบุคคลฐานพยายามฆ่าคนนั้น ข้อเท็จจริงจะต้องให้ได้ความว่าจำเลยได้มีเจตนากระทำการเพื่อฆ่า ฉะนั้น ที่จำเลยถือปืนส่ายไปมาต่อหน้าคนหมู่มากแล้วกระสุนลั่นออกโดยไม่มีใครเห็นว่าจำเลยได้จ้องยิง คดีย่อมมีทางส่อให้วินิจฉัยได้ว่า จำเลยประมาทเลินเล่อทำปืนลั่นออกไปโดยไม่มีเจตนาจะเหนี่ยวไกปืน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 966/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บาดเจ็บสาหัสจากทำร้ายร่างกาย: การประเมินระยะเวลาไม่สามารถทำงานได้เกิน 20 วัน
ได้ความว่าผู้เสียหายมีอาชีพทำนาถูกชกด้วยสนับมือมีบาดแผลที่ขอบตาล่างขวาฉีกลึก 1 ซ.ม. ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาล 20 วันกว่าระหว่างนั้นทำงานไม่ได้ ดังนี้ถือได้ว่าผู้เสียหายไม่สามารถประกอบการหาเลี้ยงชีพได้ปกติเกิน 20 วัน อันเป็นบาดเจ็บสาหัส

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1561/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาในการกระทำความผิดทางอาญา: การประเมินจากพฤติการณ์และข้อเท็จจริงที่ปรากฏ
จำเลยกระทำอย่างไรเป็นปัญหาข้อเท็จจริง แต่การกระทำนั้นจะเป็นความผิดหรือไม่เป็นปัญหาข้อกฎหมาย
ในการวินิจฉัยข้อกฎหมายจำต้องอาศัยข้อเท็จจริงต่างๆประกอบ เมื่อขาดข้อเท็จจริงบางอย่างเช่นขวากวางห่างหัวคันนาเพียงใด แล้วก็หาอาจวินิจฉัยได้ไม่ว่าจำเลยมีเจตนาจะให้ผู้เดินนอกนาต้องได้รับบาดเจ็บจากขวาก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1135/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาการกระทำสำคัญในการประเมินความผิดฐานฆ่าคนตาย
ฟ้องกล่าวว่าจำเลยได้ทำร้ายผู้ตายถึงแก่ความตาย แต่มิได้กล่าวยืนยันลงไปว่า จำเลยมีเจตนาจะฆ่าให้ตาย แม้จะมีคำขอให้ลงโทษฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249 มาด้วยและตามทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยฆ่าผู้ตาย ศาลก็ต้องฟังทางเป็นผลดีแก่จำเลยว่า จำเลยมิได้มีเจตนาจะฆ่าผู้ตายให้ตาย คงมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 251

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1210/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาในการทำร้ายร่างกาย: การประเมินจากลักษณะบาดแผลและพฤติการณ์
ถามซื้อสุราเขาบอกว่าไม่มี ก็ใช้มีดแทงเขาเพียง 1 ทีแล้ววิ่งหนีไม่ได้ซ้ำเติมอีก แม้บาดแผลที่แทงถูกที่ราวนมขวา ถ้ารักษาไม่ดีอาจตายได้ แต่ก็ปรากฎว่าแผลกว้างเพียง 1.5 เซ็นติเมตร ยาว 2.9 เซ็นติเมตร ลึก 6 เซ็นติเมตร ตัวมีดที่แทงยาวถึง 26 เซ็นติเมตรเศษ ถ้าแทงเต็มแรงอาจเข้าลึกกว่านี้ ดังนี้ รูปคดีไม่แสดงว่าจำเลยตั้งใจฆ่า คงมีผิดเพียงฐานทำร้ายร่างกายเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 629/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่การพิสูจน์การได้รับแจ้งประเมินภาษี เกินกำหนด 15 วัน โจทก์ต้องแสดงเหตุ
โจทก์ฟ้องเรียกเงินค่าภาษี ในคำฟ้องและเอกสารฟังว่า โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ประเมินใหม่ เกินกำหนด 15 วัน เมื่อโจทก์อ้างว่า เพิ่งได้รับใบแจ้งการประเมินยังไม่เกิน 15 วัน จึงเป็นหน้าที่โจทก์ต้องนำสืบแสดงเหตุ เมื่อโจทก์ไม่สืบพะยาน โจทก์ก็ต้องแพ้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 213/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการชี้ขาดจำนวนเงินภาษีที่ประเมิน และขอบเขตการตัดสินคดีภาษี
พระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ.2475 มาตรา 31 นั้นไม่ได้หมายความว่าศาลมีอำนาจเพียงชี้ว่าการประเมินนั้นได้กระทำถูกหรือไม่ถูกเท่านั้น แต่ศาลย่อมมีอำนาจชี้ขาดจำนวนเงินที่ประเมินด้วยได้
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยคืนเงิน 2,005 บาท 42 สตางค์แต่ศาลให้คืน 1,305 บาท 42 สตางค์นั้นไม่เป็นการตัดสินเกินคำขอ
of 13