พบผลลัพธ์ทั้งหมด 182 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4127/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประกันภัยค้ำจุน: ข้อยกเว้นความรับผิดเนื่องจากผู้ขับขี่ไม่มีใบอนุญาตใช้บังคับได้
ความรับผิดของจำเลยที่ 3 ที่มีต่อโจทก์ เกิดขึ้นตามสัญญาประกันภัยค้ำจุนระหว่างจำเลยที่ 2 ผู้เอาประกันภัยกับจำเลยที่ 3 ผู้รับประกันภัยเมื่อโจทก์ฟ้องจำเลยที่ 3 ให้รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนร่วมกับจำเลยที่ 1 ที่ 2 โดยอาศัยมูลหนี้ตามสัญญาดังกล่าว จำเลยที่ 3 ย่อมยกเงื่อนไข ข้อยกเว้น และข้อจำกัดความรับผิดของตนที่กำหนดไว้ในสัญญาขึ้นต่อสู้กับโจทก์ได้ เว้นแต่เงื่อนไขข้อยกเว้นหรือข้อจำกัดความรับผิดดังกล่าวจะขัดต่อกฎหมาย
ข้อยกเว้นความรับผิดของจำเลยที่ 3 ตามกรมธรรม์ประกันภัยที่ระบุว่าการประกันภัยไม่คุ้มครองถึงความรับผิดอันเกิดจากการขับขี่โดยบุคคลที่ไม่เคยได้รับใบอนุญาตขับรถยนต์ใด ๆ ใช้บังคับได้ เมื่อจำเลยที่ 1 ขับรถยนต์คันที่เอาประกันภัยในขณะเกิดเหตุโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์เป็นการผิดเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัย จำเลยที่ 3 จึงไม่ต้องรับผิดต่อจำเลยที่ 2 และยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้กับโจทก์ได้จำเลยที่ 3 ไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์
ข้อยกเว้นความรับผิดของจำเลยที่ 3 ตามกรมธรรม์ประกันภัยที่ระบุว่าการประกันภัยไม่คุ้มครองถึงความรับผิดอันเกิดจากการขับขี่โดยบุคคลที่ไม่เคยได้รับใบอนุญาตขับรถยนต์ใด ๆ ใช้บังคับได้ เมื่อจำเลยที่ 1 ขับรถยนต์คันที่เอาประกันภัยในขณะเกิดเหตุโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์เป็นการผิดเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัย จำเลยที่ 3 จึงไม่ต้องรับผิดต่อจำเลยที่ 2 และยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้กับโจทก์ได้จำเลยที่ 3 ไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4127/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประกันภัยค้ำจุน: ผู้รับประกันภัยไม่ต้องรับผิดหากผู้ขับขี่ไม่มีใบอนุญาต
ความรับผิดของจำเลยที่ 3 ที่มีต่อโจทก์ เกิดขึ้นตามสัญญาประกันภัยค้ำจุนระหว่างจำเลยที่ 2 ผู้เอาประกันภัยกับจำเลยที่ 3 ผู้รับประกันภัยเมื่อโจทก์ฟ้องจำเลยที่ 3 ให้รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนร่วมกับจำเลยที่ 1 ที่ 2 โดยอาศัยมูลหนี้ตามสัญญาดังกล่าว จำเลยที่ 3 ย่อมยกเงื่อนไขข้อยกเว้น และข้อจำกัดความรับผิดของตนที่กำหนดไว้ในสัญญาขึ้นต่อสู้กับโจทก์ได้ เว้นแต่เงื่อนไขข้อยกเว้นหรือข้อจำกัดความรับผิดดังกล่าวจะขัดต่อกฎหมาย
ข้อยกเว้นความรับผิดของจำเลยที่ 3 ตามกรมธรรม์ประกันภัยที่ระบุว่าการประกันภัยไม่คุ้มครองถึงความรับผิดอันเกิดจากการขับขี่โดยบุคคลที่ไม่เคยได้รับใบอนุญาตขับรถยนต์ใด ๆ ใช้บังคับได้ เมื่อจำเลยที่ 1 ขับรถยนต์คันที่เอาประกันภัยในขณะเกิดเหตุโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์เป็นการผิดเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัย จำเลยที่ 3จึงไม่ต้องรับผิดต่อจำเลยที่ 2 และยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้กับโจทก์ได้จำเลยที่ 3 ไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์
ข้อยกเว้นความรับผิดของจำเลยที่ 3 ตามกรมธรรม์ประกันภัยที่ระบุว่าการประกันภัยไม่คุ้มครองถึงความรับผิดอันเกิดจากการขับขี่โดยบุคคลที่ไม่เคยได้รับใบอนุญาตขับรถยนต์ใด ๆ ใช้บังคับได้ เมื่อจำเลยที่ 1 ขับรถยนต์คันที่เอาประกันภัยในขณะเกิดเหตุโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์เป็นการผิดเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัย จำเลยที่ 3จึงไม่ต้องรับผิดต่อจำเลยที่ 2 และยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้กับโจทก์ได้จำเลยที่ 3 ไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4127/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อยกเว้นกรมธรรม์ประกันภัย กรณีผู้ขับขี่ไม่มีใบอนุญาต และผลกระทบต่อความรับผิดของผู้รับประกันภัยต่อบุคคลภายนอก
ความรับผิดของจำเลยที่3ที่มีต่อโจทก์เกิดขึ้นตามสัญญาประกันภัยค้ำจุนระหว่างจำเลยที่2ผู้เอาประกันภัยกับจำเลยที่3ผู้รับประกันภัยเมื่อโจทก์ฟ้องจำเลยที่3ให้รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนร่วมกับจำเลยที่1ที่2โดยอาศัยมูลหนี้ตามสัญญาดังกล่าวจำเลยที่3ย่อมยกเงื่อนไขข้อยกเว้นและข้อจำกัดความรับผิดของตนที่กำหนดไว้ในสัญญาขึ้นต่อสู้กับโจทก์ได้เว้นแต่เงื่อนไขข้อยกเว้นหรือข้อจำกัดความรับผิดดังกล่าวจะขัดต่อกฎหมาย ข้อยกเว้นความรับผิดของจำเลยที่3ตามกรมธรรม์ประกันภัยที่ระบุว่าการประกันภัยไม่คุ้มครองถึงความรับผิดอันเกิดจากการขับขี่โดยบุคคลที่ไม่เคยได้รับใบอนุญาตขับรถยนต์ใดๆใช้บังคับได้เมื่อจำเลยที่1ขับรถยนต์คันที่เอาประกันภัยในขณะเกิดเหตุโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์เป็นการผิดเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัยจำเลยที่3จึงไม่ต้องรับผิดต่อจำเลยที่2และยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้กับโจทก์ได้จำเลยที่3ไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3583/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้รับประกันภัยเมื่อคนขับรถที่ได้รับความยินยอมจากผู้เอาประกันภัยประมาทก่อให้เกิดความเสียหาย
จำเลยที่ 1 เช่าซื้อรถยนต์บรรทุกจากห้างหุ้นส่วนจำกัด น.ไปใช้โดยให้ ช. ลูกจ้างของตนเป็นคนขับ และห้างหุ้นส่วนจำกัด น. นำรถยนต์ดังกล่าวไปประกันภัยไว้กับจำเลยที่ 2 กรมธรรม์ประกันภัยมีข้อความว่า 'บริษัทจะใช้ค่าสินไหมทดแทนในนามของผู้เอาประกันภัย เมื่อผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดตามกฎหมายและบริษัทจะถือบุคคลใดซึ่งขับขี่รถยนต์โดยได้รับความยินยอมจากผู้เอาประกันภัย เสมือนหนึ่งเป็นผู้เอาประกันภัยเอง' ดังนี้ การที่ ช. ขับรถไปทำละเมิดต่อโจทก์ ต้องถือว่า ช.ขับรถโดยได้รับความยินยอมจากห้างหุ้นส่วนจำกัด น. ผู้เอาประกันภัย มีฐานะเสมือนผู้เอาประกันภัยเอง จำเลยที่ 2 จึงต้องรับผิดในฐานะผู้รับประกันภัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3583/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประกันภัยรถยนต์: การรับผิดของผู้รับประกันภัยเมื่อผู้ขับขี่ได้รับความยินยอมจากผู้เอาประกันภัย
จำเลยที่1เช่าซื้อรถยนต์บรรทุกจากห้างหุ้นส่วนจำกัดน.ไปใช้โดยให้ช.ลูกจ้างของตนเป็นคนขับและห้างหุ้นส่วนจำกัดน.นำรถยนต์ดังกล่าวไปประกันภัยไว้กับจำเลยที่2กรมธรรม์ประกันภัยมีข้อความว่า'บริษัทจะใช้ค่าสินไหมทดแทนในนามของผู้เอาประกันภัยเมื่อผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดตามกฎหมายและบริษัทจะถือบุคคลใดซึ่งขับขี่รถยนต์โดยได้รับความยินยอมจากผู้เอาประกันภัยเสมือนหนึ่งเป็นผู้เอาประกันภัยเอง'ดังนี้การที่ช.ขับรถไปทำละเมิดต่อโจทก์ต้องถือว่าช.ขับรถโดยได้รับความยินยอมจากห้างหุ้นส่วนจำกัดน.ผู้เอาประกันภัยมีฐานะเสมือนผู้เอาประกันภัยเองจำเลยที่2จึงต้องรับผิดในฐานะผู้รับประกันภัย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3431/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประกันภัยรถยนต์: การคุ้มครองเมื่อผู้ขับขี่มีใบอนุญาต แต่เกิดประมาท และข้อยกเว้นเรื่องผู้ขับขี่ที่ไม่มีคุณสมบัติ
จำเลยยื่นคำขอระบุพยานเพิ่มเติมภายหลังสืบพยานโจทก์ซึ่งมีหน้าที่นำสืบก่อนเสร็จเพื่อแสดงว่าเอกสารท้ายฟ้องที่แสดงรายละเอียดของรายการซ่อมรถยนต์ของโจทก์ตลอดถึงราคาว่าซ่อมอะไรราคาเท่าไรนั้นเป็นเอกสารปลอมเมื่อจำเลยได้นำสืบบุคคลอื่นเป็นพยานแล้วว่าราคาตามรายการต่างๆสูงเกินไปและค่าเสียหายในการซ่อมรถยนต์ของโจทก์นี้แม้จำเลยไม่ได้นำสืบหักล้างศาลก็ต้องวินิจฉัยชี้ขาดและกำหนดให้ตามสมควรอยู่แล้วการที่จะนำสืบว่าลายมือชื่อในเอกสารดังกล่าวเป็นลายมือปลอมจึงไม่เป็นการอ้างพยานหลักฐานเพื่อให้การวินิจฉัยชี้ขาดข้อสำคัญแห่งประเด็นเป็นไปโดยเที่ยงธรรมและไม่จำเป็นต้องสืบพยานที่ขออ้างเพิ่มเติมนั้นศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้จำเลยยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมชอบด้วยกฎหมายแล้ว ตามกรมธรรม์ประกันภัยมีเงื่อนไขยกเว้นไม่คุ้มครองความรับผิดอันเกิดจากการขับขี่โดยบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ขับรถยนต์ตามกฎหมายหรือเคยได้รับแต่ถูกตัดสิทธิตามกฎหมายการมีเงื่อนไขดังกล่าวก็เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่ไม่มีความสามารถทำการขับรถยนต์ที่เอาประกันภัยเพราะจะเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายอันจะทำให้จำเลยที่1จะต้องเสี่ยงภัยมากขึ้นม.ลูกจ้างของจำเลยที่2ที่3ได้รับใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ของกรมตำรวจย่อมมีความรู้ความสามารถในการขับรถยนต์ได้ม.จึงเป็นผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ขับรถยนต์ตามกฎหมายม.ขับรถยนต์บรรทุกที่จำเลยที่1รับประกันไว้จากจำเลยที่2ที่3โดยประมาทเป็นเหตุให้ชนกับรถยนต์ของโจทก์ที่1จึงไม่เป็นการผิดเงื่อนไขตามกรมธรรม์ดังกล่าวจำเลยที่1ต้องร่วมรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์ทั้งสอง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3356-3358/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทางละเมิดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์: การประเมินความประมาทของผู้ขับขี่และขอบเขตความรับผิด
จำเลยที่1และจำเลยที่5ต่างขับรถชนกันโดยประมาทแต่เหตุเกิดขึ้นเพราะความประมาทของจำเลยที่5ก่อนจึงให้จำเลยที่5รับผิดสองในสามส่วนให้จำเลยที่1รับผิดหนึ่งในสามส่วนและเมื่อหักกลบลบกันแล้วส่วนที่จำเลยที่5จะต้องรับผิดมีมากกว่าจึงสมควรให้ค่าเสียหายที่จำเลยที่5ฟ้องเรียกจากจำเลยที่1เป็นพับ รถที่จำเลยที่1ขับเป็นของจำเลยที่3มอบให้จำเลยที่2ใช้จำเลยที่1เป็นลูกจ้างจำเลยที่2ได้รับเงินเดือนจากจำเลยที่2วันเกิดเหตุจำเลยที่1ขับรถของจำเลยที่3นำบุตรของจำเลยที่2ไปส่งโรงเรียนซึ่งมิใช่กิจการของจำเลยที่3การกระทำละเมิดของจำเลยที่1จึงมิใช่การกระทำของลูกจ้างในทางการที่จ้างของจำเลยที่3จำเลยที่3และจำเลยที่4ผู้รับประกันภัยจึงไม่ต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่1ที่2 โจทก์ฟ้องจำเลยที่1ที่2ให้ชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์จะพิพากษาให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยนับแต่วันละเมิดไปจนกว่าจะชำระเสร็จหาได้ไม่เพราะเป็นการเกินไปกว่าหรือนอกจากที่ปรากฏในคำฟ้องไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา142ปัญหาข้อนี้เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้จำเลยที่1ที่2จะมิได้ฎีกาศาลฎีกาก็มีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 217/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ การประมาทของผู้ขับขี่ และความรับผิดทางอาญา
จำเลยที่1ขับรถยนต์ด้วยความเร็วแต่อยู่ในช่องทางเดินรถของตน จำเลยที่2ขับรถยนต์กินทางเข้าไปในช่องทางเดินรถของจำเลยที่1จึงเกิดชนกันขึ้นเหตุที่เกิดการชนกันจึงเป็นความประมาทของจำเลยที่2แม้หลังเกิดเหตุจำเลยที่1จะหลบหนีไม่แสดงตัวแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งตามกฎหมายจะให้สันนิษฐานว่าเป็นผู้กระทำผิดก็เป็นข้อสันนิษฐานในเบื้องต้นเมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยที่1ไม่ได้กระทำผิดจะนำข้อสันนิษฐานมารับฟังลงโทษจำเลยที่1หาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1319/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้รับประกันภัยค้ำจุนต้องพิจารณาจากความสัมพันธ์ระหว่างผู้ขับขี่กับเจ้าของรถ หากเจ้าของรถไม่มีส่วนรับผิด ผู้รับประกันภัยก็ไม่ต้องรับผิด
โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 7 ให้รับผิดในฐานะที่เป็นผู้รับประกันภัยค้ำจุนรถยนต์บรรทุกคันเกิดเหตุ อันเป็นรถที่ก่อให้เกิดความเสียหายครั้งนี้คดีได้ความแต่เพียงว่า จำเลยที่1 ขับรถยนต์บรรทุกคันเกิดเหตุซึ่งเป็นรถของ ช. และช.เอาประกันภัยค้ำจุนไว้กับบริษัทจำเลยที่ 7 เท่านั้น โจทก์มิได้บรรยายฟ้องให้ปรากฏไว้เลยว่า จำเลยที่1 ขับรถยนต์ของ ช. คันดังกล่าวในฐานะอะไร และมีนิติสัมพันธ์กันอย่างไรกับ ช. จึงฟังไม่ได้ว่า ช. เจ้าของรถคันดังกล่าวมีนิติสัมพันธ์กับจำเลยที่ 1 อันจะเป็นเหตุให้ ช. ต้องร่วมรับผิดในการกระทำละเมิดของจำเลยที่ 1 ครั้งนี้ จำเลยที่ 7 ผู้รับประกันภัยค้ำจุนจะต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนในกรณีที่ ช. ต้องรับผิดชอบ เมื่อ ช.ไม่ต้องรับผิดชอบต่อโจทก์แล้ว จำเลยที่ 7 ในฐานะผู้รับประกันภัยค้ำจุนจึงไม่ต้องรับผิดด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 460/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้รับประกันภัยเมื่อผู้ขับขี่ได้รับความยินยอมจากผู้เอาประกันภัย
จำเลยที่ 2 รับประกันภัยรถยนต์คันที่จำเลยที่ 1 ขับชนรถยนต์ของโจทก์ประเภทประกันภัยค้ำจุนไว้จากบุคคลภายนอก ตามกรมธรรม์ประกันภัยหมวด 2 การคุ้มครองความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก ข้อ 2.8 มีความว่า การคุ้มครองผู้ขับขี่ บริษัทจะถือว่าบุคคลใดซึ่งขับขี่โดยได้รับความยินยอมจากผู้เอาประกันภัยเสมือนหนึ่งเป็นผู้เอาประกันภัยเอง หมายความว่า นอกจากรับผิดในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยทำละเมิดต่อผู้อื่นแล้ว จำเลยที่ 2 ยังยอมรับผิดในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยมิได้เป็นผู้ทำละเมิดแต่ผู้อื่นเป็นผู้ทำละเมิดโดยผู้นั้นได้ขับขี่รถยนต์คันที่จำเลยที่ 2 รับประกันภัยไว้ โดยความยินยอมของผู้เอาประกันภัย
จำเลยที่ 1 ขับขี่รถยนต์คันที่จำเลยที่ 2 รับประกันภัยไว้โดยความยินยอมของผู้เอาประกันภัย จำเลยที่ 2 จึงต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 1 ตามกรมธรรม์ประกันภัยดังกล่าว
จำเลยที่ 1 ขับขี่รถยนต์คันที่จำเลยที่ 2 รับประกันภัยไว้โดยความยินยอมของผู้เอาประกันภัย จำเลยที่ 2 จึงต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 1 ตามกรมธรรม์ประกันภัยดังกล่าว