พบผลลัพธ์ทั้งหมด 139 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1333-1334/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มเติมฟ้องคดีอาญา: ศาลอนุญาตได้แม้ไม่มีเหตุผลสนับสนุน หากเห็นสมควร
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยลักทรัพย์หรือรับของโจร ขอให้ลงโทษ แต่ในฟ้องมิได้บรรยายว่าเหตุเกิด ณ ที่ใด จำเลยจึงยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งว่าฟ้องของโจทก์ไม่สมบูรณ์ ในวันเดียวกันนั้นโจทก์จึงขอเพิ่มเติมฟ้องระบุว่า เกิดเหตุที่ตำบลใด ดังนี้ แม้ในคำร้องขอเพิ่มเติมฟ้องจะไม่แสดงเหตุอันสมควรที่จะขอเพิ่มเติมฟ้อง ศาลก็พิจารณาว่ามีเหตุอันสมควรได้เองและอนุญาตให้เพิ่มเติมฟ้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1031/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับบัญชีระบุพยานที่ยื่นหลังนัดสืบพยาน: ศาลใช้ดุลยพินิจเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
ในคดีแพ่ง จำเลยเพิ่งขอระบุพยานจำเลยในวันนัดสืบพยานโจทก์ (นัดแรก) โดยอ้างว่าจำเลยป่วยเป็นไข้ไม่สามารถมาระบุพยานตามกำหนดได้ นั้นเมื่อศาลพิจารณาเหตุผลทั่ว ๆ ไปแล้วเห็นว่า มิใช่เรื่องจงใจฝ่าฝืนเพื่อให้โจทก์เสียเปรียบในทางคดี แล้วศาลก็อาศัยอำนาจตาม ป.ม.วิ.แพ่ง มาตรา 87 ให้รับบัญชีระบุพยานของจำเลยไว้ดำเนินการต่อไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1444/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานที่ถูกแนะนำคำให้การ: ศาลต้องพิจารณาความสัตย์จริงในการเบิกความ หากพยานเบิกความตามรู้เห็นจริง ไม่ถือว่าขัดต่อกฎหมาย
ฝ่ายผู้เสียหายพิมพ์คำให้การและแผนที่เกิดเหตุแจกจ่ายพยานโจทก์เพื่อให้พยานเบิกความตามนั้น แต่เมื่อพยานดังกล่าวมาเบิกความต่อศาลพยานต่างยืนยันว่าได้ให้การตามรู้ตามเห็นโดยสัตย์จริงทั้งนั้น พยานไม่ได้ยึดถือเอาข้อความที่เขาพิมพ์แจกมาให้การต่อศาล ดังนี้คำพยานเหล่านี้ถ้าเบิกความประกอบด้วยเหตุผลก็ย่อมฟังได้ ไม่เป็นการฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติ ป.ม.วิ.อาญามาตรา 226
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1056/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การผิดสัญญาประกันตัวจากความล่าช้าในการมาศาล ศาลมีอำนาจปรับแต่ใช้ดุลยพินิจได้
จำเลยและนายประกันไม่มาศาลตามเวลาที่ศาลนัดพิจารณา แต่มาล่าช้าไปตั้งหนึ่งชั่วโมงโดยไม่มีเหตุแก้ตัวที่ฟังได้ นั้นถือว่านายประกันเป็นผู้ผิดสัญญาประกันที่ทำไว้กับศาลแล้ว ศาลมีอำนาจสั่งปรับได้แต่จะปรับเต็มตามที่กำหนดไว้ในสัญญาหรือไม่ย่อมอยู่ในดุลยพินิจของศาล
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1858/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาแท้จริงในสัญญายอมความ: รายการทรัพย์ที่ระบุชัดเจนมีผลเหนือข้อความคลุมเครือ
สัญญายอมความซึ่งข้อความตอนต้นกล่าวว่าให้แบ่งมฤดกตามพินัยกรรม์ แต่ในตอนหลังของข้อเดียวกันนั้นระบุรายการทรัพย์ไว้ชัดแจ้งว่าให้แบ่งทรัพย์อย่างใด ให้ใคร และแบ่งกันอย่างไรซึ่งไม่ตรงกับพินัยกรรม์ ดังนี้ ถือว่าคู่ความมีเจตนาอันแท้จริงที่จะแบ่งทรัพย์มฤดกตามรายการที่ระบุในตอนหลัง
คดีที่ศาลพิพากษาตามยอมแล้ว หากมีข้อขัดข้องสงสัย ให้คู่ความร้องขอให้ศาลสั่งได้ เพราะเป็นเรื่องพิพาทกันด้วยเรื่องบังคับคดี มิใช่เรื่องที่อ้างว่าคำพิพากษาไม่เป็นไปตามยอม เมื่อศาลชั้นต้นสั่งอย่างไรแล้ว ต่อไปคู่ความก็มีสิทธิอุทธรณ์,ฎีกาได้ตามวิธีพิจารณา
คดีที่ศาลพิพากษาตามยอมแล้ว หากมีข้อขัดข้องสงสัย ให้คู่ความร้องขอให้ศาลสั่งได้ เพราะเป็นเรื่องพิพาทกันด้วยเรื่องบังคับคดี มิใช่เรื่องที่อ้างว่าคำพิพากษาไม่เป็นไปตามยอม เมื่อศาลชั้นต้นสั่งอย่างไรแล้ว ต่อไปคู่ความก็มีสิทธิอุทธรณ์,ฎีกาได้ตามวิธีพิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1110/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอแก้ฟ้องต้องแสดงเหตุอันควร มิใช่เพียงกล่าวว่า 'คลาดเคลื่อน'
โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ฟ้องโดยกล่าวแต่เพียงว่า ฟ้องของโจทก์ "ยังคลาดเคลื่อนอยู่" ดังนี้ นับว่าโจทก์ไม่ได้แสดงว่า "มีเหตุอันควร" ที่จะขอแก้ฟ้องได้ตามมาตรา 163 ป.ม.วิ.อาญา
(อ้างฎีกาที่ 70/2490)
(อ้างฎีกาที่ 70/2490)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1110/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอแก้ฟ้องต้องแสดงเหตุอันควร มิใช่เพียงกล่าวว่าฟ้องคลาดเคลื่อน
โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ฟ้องโดยกล่าวแต่เพียงว่า ฟ้องของโจทก์ "ยังคลาดเคลื่อนอยู่"ดังนี้ นับว่าโจทก์ไม่ได้แสดงว่า"มีเหตุอันควร" ที่จะขอแก้ฟ้องได้ตามมาตรา 163ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา(อ้างฎีกาที่ 70/2490)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 942/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
โทษหลายบท ศาลลงโทษตามบทหนักได้ แม้บทเบามีโทษขั้นต่ำสูงกว่า
ความผิดละเมิดกฎหมายหลายบทนั้นศาลต้องลงโทษตามบทหนัก และถึงหากว่าตามกฎหมายบทเบามีโทษขั้นต่ำสูงกว่าตามกฎหมายบทหนักศาลก็ไม่ต้องผูกพันให้ต้องวางโทษตามอัตราขั้นต่ำของกฎหมายบทเบา พระราชบัญญัติศุลกากร มาตรา 120ซึ่งบัญญัติมิให้ถือว่ากฎหมายอื่นจำกัดเปลี่ยนแปลงบทบัญญัติในพระราชบัญญัติศุลกากรนั้น ไม่กินความถึงกรณีที่การกระทำเป็นผิดต้องด้วยกฎหมายหลายบทซึ่งศาลจะต้องลงโทษตามกฎหมายอื่นอันเป็นบทกำหนดโทษหนักกว่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 488/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาในการกระทำความผิดฐานฆ่าคนตาย แม้ฟ้องว่าเจตนา แต่ศาลลงโทษได้หากพิเคราะห์แล้วเป็นความผิดฐานฆ่าโดยไม่เจตนา
ฟ้องว่าฆ่าคนตายโดยเจตนา ได้ความว่าฆ่าคนตายไม่เจตนา ลงโทษได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 408/2485
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับคำรับสารภาพและอำนาจศาลในการพิจารณาสำนวนการสอบสวน
คำรับของจำเลยในคดีมีอัตราโทษจำคุกถึง 10 ปีนั้นรับฟังได้เมื่อมีพยานโจทก์ประกอบ มิใช่จะห้ามไม่ให้รับฟังเสียเลยทีเดียว
ศาลอาจใช้ดุลพินิจเรียกสำนวนการสอบสวนมาประกอบการพิจารณาได้ แม้โจทก์จะไม่ได้อ้างก็ตาม
สำนวนการสอบสวนของเจ้าพนักงานสอบสวนต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าถูกต้อง แม้จะไม่มีพยานบุคคลประกอบ เพราะเป็นหนังสือราชการ
ศาลอาจใช้ดุลพินิจเรียกสำนวนการสอบสวนมาประกอบการพิจารณาได้ แม้โจทก์จะไม่ได้อ้างก็ตาม
สำนวนการสอบสวนของเจ้าพนักงานสอบสวนต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าถูกต้อง แม้จะไม่มีพยานบุคคลประกอบ เพราะเป็นหนังสือราชการ