พบผลลัพธ์ทั้งหมด 121 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 743/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องแย้งต้องมีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นแล้ว ศาลไม่รับฟ้องแย้งเผื่อไว้
การเสนอคำฟ้องหรือคำฟ้องแย้งต่อศาลต้องมีข้อโต้แย้งต่อศาลต้องมีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นแล้วเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ของบุคคลตามกฎหมาย
การที่จำเลยให้การว่าการซื้อขายห้องพิพาทระหว่างโจทก์กับเจ้าของเดิมเป็นการสมยอมโจทก์ไม่ใช่คู่สัญญา เมื่อศาลยังมิได้ชี้ขาดอย่างใดจำเลยจะมาฟ้องแย้งว่าแม้เจ้าของเดิมทำสัญญาซื้อขายห้องพิพาทกับโจทก์โดยชอบสัญญาเช่าห้องพิพาทที่เจ้าของเดิมทำให้จำเลยย่อมติดตามมาอยู่กับโจทก์จำเลยยังได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯขอให้บังคับโจทก์ยอมให้จำเลยเช่าต่อไปตามสัญญาเช่าเดิมดังนี้ไม่ได้
การที่จำเลยให้การว่าการซื้อขายห้องพิพาทระหว่างโจทก์กับเจ้าของเดิมเป็นการสมยอมโจทก์ไม่ใช่คู่สัญญา เมื่อศาลยังมิได้ชี้ขาดอย่างใดจำเลยจะมาฟ้องแย้งว่าแม้เจ้าของเดิมทำสัญญาซื้อขายห้องพิพาทกับโจทก์โดยชอบสัญญาเช่าห้องพิพาทที่เจ้าของเดิมทำให้จำเลยย่อมติดตามมาอยู่กับโจทก์จำเลยยังได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯขอให้บังคับโจทก์ยอมให้จำเลยเช่าต่อไปตามสัญญาเช่าเดิมดังนี้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 571/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อุทธรณ์ไม่ถูกต้องตามกฎหมายเมื่อไม่วางค่าธรรมเนียมและค่าทนายตามกำหนด ทำให้ศาลไม่ต้องรับวินิจฉัย
โจทก์อุทธรณ์อย่างคนอนาถาและขอทุเลาการบังคับคดี ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้โจทก์อุทธรณ์อย่างคนอนาถาให้โจทก์ปฎิบัติตามมาตรา229 นำค่าธรรมเนียมมาวางศาล แต่โจทก์คงนำค่าธรรมเนียมเฉพาะฟ้องอุทธรณ์มาชำระศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์ต่อมาเมื่อศาลอุทธรณ์สั่งไม่อนุญาตให้ทุเลาการบังคับคดีแล้วโจทก์จึงนำค่าธรรมเนียมค่าทนายที่จะต้องใช้ให้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งมาวางศาลซึ่งพ้นกำหนดที่ศาลชั้นต้นสั่งให้วางแล้ว ค่าทนายเป็นค่าธรรมเนียมอย่างหนึ่งเมื่ออุทธรณ์โจทก์ไม่ถูกต้องตามมาตรา 229 ศาลย่อมรับวินิจฉัยให้ไม่ได้ ต้องยกเสียตามมาตรา242(1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1223/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจอุทธรณ์ฎีกาของทนายต้องระบุชัดเจนในใบแต่งทนาย หากไม่ชัดเจนศาลไม่รับอุทธรณ์
ใบแต่งทนายโจทก์ไม่ได้ระบุข้อความให้แจ้งชัดว่าทนายมีอำนาจอุทธรณ์ฎีกาได้ ทนายโจทก์ยื่นอุทธรณ์เอง ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์ ทนายโจทก์ร้องต่อศาลอุทธรณ์ขอให้รับอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์สั่งให้ยกคำร้องของทนายโจทก์ยืนตามศาลชั้นต้น คำสั่งของศาลอุทธรณ์เช่นนี้ย่อมเป็นที่สุดจะฎีกาต่อมาไม่ได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 16/2498)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 641/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องแย้งและการเปลี่ยนแปลงคำให้การในคดีมรดก: ศาลไม่รับฟ้องแย้งที่ไม่เกี่ยวเนื่องกับฟ้องเดิม และไม่อนุญาตให้เปลี่ยนแปลงคำให้การขัดแย้งกับเดิม
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลแสดงว่านาและสวนพิพาท ซึ่งเป็นของผู้ตายตกเป็นมรดกแก่โจทก์ ผู้เป็นป้า
จำเลยให้การว่า จำเลยเป็นผู้รับมรดก เพราะผู้ตายเป็นบุตรจำเลยแต่มารดาผู้ตายซึ่งเป็นภรรยาจำเลยนั้น ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน จำเลยจึงขอให้ถือว่าเป็นฟ้องแย้ง ขอให้ศาลพิพากษาแสดงว่าผู้ตายเป็นบุตรจำเลยดังนี้วินิจฉัยว่าฟ้องแย้งเป็นคนละส่วนจากฟ้องเดิม ศาลย่อมไม่รับเป็นฟ้องแย้ง
จำเลยยื่นคำให้การในชั้นแรกว่า นาและสวนพิพาทอันตกเป็นมรดกนั้น เป็นของผู้ตาย ภายหลังยื่นคำให้การเพิ่มเติมว่า นาและสวนพิพาทเป็นของมารดาผู้ตาย จำเลยครอบครองมาตั้งแต่มารดาผู้ตายตาย ดังนี้ ขัดกับคำให้การเดิม ศาลย่อมไม่อนุญาตให้เพิ่มเติมคำให้การเช่นนี้
จำเลยให้การว่า จำเลยเป็นผู้รับมรดก เพราะผู้ตายเป็นบุตรจำเลยแต่มารดาผู้ตายซึ่งเป็นภรรยาจำเลยนั้น ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน จำเลยจึงขอให้ถือว่าเป็นฟ้องแย้ง ขอให้ศาลพิพากษาแสดงว่าผู้ตายเป็นบุตรจำเลยดังนี้วินิจฉัยว่าฟ้องแย้งเป็นคนละส่วนจากฟ้องเดิม ศาลย่อมไม่รับเป็นฟ้องแย้ง
จำเลยยื่นคำให้การในชั้นแรกว่า นาและสวนพิพาทอันตกเป็นมรดกนั้น เป็นของผู้ตาย ภายหลังยื่นคำให้การเพิ่มเติมว่า นาและสวนพิพาทเป็นของมารดาผู้ตาย จำเลยครอบครองมาตั้งแต่มารดาผู้ตายตาย ดังนี้ ขัดกับคำให้การเดิม ศาลย่อมไม่อนุญาตให้เพิ่มเติมคำให้การเช่นนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1806/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวางเงินค่าธรรมเนียมหลังพ้นกำหนดอุทธรณ์ ทำให้ศาลไม่รับพิจารณาอุทธรณ์
จำเลยวางเงินค่าธรรมเนียม ซึ่งจะต้องใช้แทนโจทก์เมื่อพ้นกำหนดอายุอุทธรณ์โดยไม่ปรากฎพฤตติการณ์พิเศษ แม้ศาลชั้นต้นจะรับอุทธรณ์ไว้แล้ว ก็ขัดต่อมาตรา 229 จะรับอุทธรณ์ไว้วินิจฉัยมิได้.
(อ้างฎีกาที่ 51/2489)
(อ้างฎีกาที่ 51/2489)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1806/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวางเงินค่าธรรมเนียมหลังพ้นกำหนดอุทธรณ์ ทำให้ศาลไม่รับพิจารณาอุทธรณ์
จำเลยวางเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แทนโจทก์เมื่อพ้นกำหนดอายุอุทธรณ์โดยไม่ปรากฏพฤติการณ์พิเศษ แม้ศาลชั้นต้นจะรับอุทธรณ์ไว้แล้ว ก็ขัดต่อมาตรา 229 จะรับอุทธรณ์ไว้วินิจฉัยมิได้ (อ้างฎีกาที่ 51/2489)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 321/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องแย้งต้องมีสิทธิเรียกร้องชัดเจน ศาลไม่รับฟ้องแย้งหากยังไม่มีข้อพิพาทเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่
การฟ้องหรือฟ้องแย้ง ผู้ฟ้องจะต้องแสดงว่า ตนมีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่หรือมีข้อเท็จจริงที่จะใช้สิทธิทางศาลได้ หากเสนอขึ้นมาโดยกล่าวว่าไม่มีกรณีเช่นว่านั้นและว่าถ้าหากศาลเห็นว่ามี ก็พิพากษาให้ตนชนะ ดังนี้ ไม่เป็นฟ้องที่ควรรับไว้พิจารณา
โจทก์ฟ้องขอให้เปิดภารจำยอม จำเลยต่อสู้ว่าไม่มีภารจำยอมและฟ้องแย้งว่าหากศาลฟังว่ามี ก็ขอให้ปลดภารจำยอม โดยให้โจทก์ได้ค่าทดแทน ดังนี้ ศาลไม่รับฟ้องแย้ง
โจทก์ฟ้องขอให้เปิดภารจำยอม จำเลยต่อสู้ว่าไม่มีภารจำยอมและฟ้องแย้งว่าหากศาลฟังว่ามี ก็ขอให้ปลดภารจำยอม โดยให้โจทก์ได้ค่าทดแทน ดังนี้ ศาลไม่รับฟ้องแย้ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 307/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอแก้ฟ้องต้องแสดงเหตุอันควร การแก้ฟ้องที่อ้างเหตุไม่ชัดเจน ศาลไม่รับ
การขอแก้ฟ้องเมื่อสืบพยานโจทหมดแล้ว +สืบตัวจำเลยอีก 1 ปากเช่นนี้ ฟ้องแสดงเหตุอันควนไนการขอแก้นั้น ขอแก้ฟ้องเพียงแต่กล่าวว่าฟ้องโจทคลาดเคลื่อนเพราะเหตุไดโจทไม่ได้กล่าว ถือว่าขอแก้โดยไม่มีเหตุอันควน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 447/2483
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องอุทธรณ์ต้องระบุข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายชัดเจน หากไม่เป็นไปตามหลัก ศาลไม่รับพิจารณา
ฟ้องอุทธรณ์ทุกฉะบับต้องรุบุข้อเท็จจริงโดยย่อ++ข้อกฎหมายที่ยกขึ้นอ้างอิงยื่นฟ้องอุทธรณ์โดยให้ถือเอาข้อความตามคำแถลงปิดสำนวนเป็นข้ออุทธรณ์นั้นเป็นฟ้องอุทธรณ์ที่ไม่+ด้วยประมวลวิธีพิจารณาความ ม. 225,193, ฟ้องอุทธรณ์เช่นนี้ ศาลไม่รับพิจารณา อ้างฎีกาที่ 529/2479
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 786/2481
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับโทษต่อจากโทษเดิม: ศาลไม่รับคำร้องหากคำพิพากษาเดิมไม่ได้ระบุข้อยกเว้น
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ ครั้นศาลได้พิพากษาแล้วได้ + วัน โจทก์จะยื่นคำร้องขอให้ศาลนับโทษจำเลยต่อจากโทษในคดีก่อนซึ่งโจทก์มิได้+ไว้เดิมมิได้ เป็นการขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 190
อ้างฎีกาที่ 371/2481
อ้างฎีกาที่ 371/2481