พบผลลัพธ์ทั้งหมด 339 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2528/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการทำร้ายด้วยมีด: พยายามฆ่า vs. ทำร้ายร่างกาย
จำเลยถือด้ามมีดทั้งสองมือ เหวี่ยงฟันผู้เสียหาย 2ครั้งติด ๆ กัน ถูกที่บริเวณศีรษะซึ่งเป็นที่สำคัญ มีบาดแผล 3 แห่งคือ ที่ข้างศีรษะขวาเหนือหูยาวประมาณ 7 เซนติเมตร ลึกจดกระดูกศีรษะ เย็บ 8 เข็ม ที่ข้างใบหูขวา ยาวประมาณ 6 เซนติเมตรลึกจดกระดูกศีรษะเย็บ 7 เข็ม และที่ใบหูขวาขาด ยาวประมาณ 4 เซนติเมตร เย็บ 8 เข็ม ลักษณะและขนาดของมีดที่ใช้ฟันเฉพาะตัวมีดยาว 36 เซนติเมตร ด้ามยาว 19 เซนติเมตร ปลายมีดเป็นรูปหัวตัดกว้างประมาณ 8 เซนติเมตร. ดังนี้ ต้องถือว่าจำเลยกระทำโดยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย แต่ผู้เสียหายไม่ตายสมเจตนาจึงเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น หาใช่เป็นความผิดฐานทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 247/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสารภาพของจำเลยในคดีขับรถประมาททำให้บาดเจ็บสาหัส และการพิจารณาบาดแผลตามรายงานแพทย์
ในคดีที่โจทก์ฟ้องกล่าวหาว่าจำเลยขับรถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัสโดยป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาและประกอบกรณียกิจไม่ได้ตามปกติเกินกว่า 20 วัน แม้ผู้ว่าคดีจะนำจำเลยมาฟ้องหลังจากเกิดเหตุได้ 9 วัน ซึ่งยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริงแน่นอนว่าผู้เสียหายจะป่วยเจ็บหรือประกอบกรณียกิจไม่ได้เกินกว่า 20 วันหรือไม่ก็ตาม แต่เมื่อพิเคราะห์ฟ้องประกอบบันทึกบาดแผลตามรายงานชันสูตรของแพทย์ ซึ่งประมาณการรักษาไว้เป็นเวลา 45 วัน ซึ่งต้องถือว่าจำเลยได้รับสารภาพโดยพิเคราะห์ข้อเท็จจริงตามฟ้องทั้งหมดนี้ด้วยแล้ว ศาลย่อมพิพากษาลงโทษจำเลยซึ่งให้การรับสารภาพตามฟ้องไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 247/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสารภาพในคดีขับรถประมาททำให้บาดเจ็บสาหัส ศาลพิจารณาจากบาดแผลและความเห็นแพทย์ แม้ฟ้องหลังเกิดเหตุไม่ถึง 20 วัน
ในคดีที่โจทก์ฟ้องกล่าวหาว่าจำเลยขับรถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัสโดยป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาและประกอบกรณียกิจไม่ได้ตามปกติเกินกว่า 20 วัน แม้ผู้ว่าคดีจะนำจำเลยมาฟ้องหลังจากเกิดเหตุได้ 9 วัน ซึ่งยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริงแน่นอนว่าผู้เสียหายจะป่วยเจ็บหรือประกอบกรณียกิจไม่ได้เกินกว่า 20 วันหรือไม่ก็ตาม แต่เมื่อพิเคราะห์ฟ้องประกอบบันทึกบาดแผลตามรายงานชันสูตรของแพทย์ ซึ่งประมาณการรักษาไว้เป็นเวลา 45 วัน ซึ่งต้องถือว่าจำเลยได้รับสารภาพโดยพิเคราะห์ข้อเท็จจริงตามฟ้องทั้งหมดนี้ด้วยแล้ว ศาลย่อมพิพากษาลงโทษจำเลยซึ่งให้การรับสารภาพตามฟ้องไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 211-212/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาโทษอาญาคดีใช้อาวุธปืนยิงผู้อื่น ศาลฎีกาพิจารณาความร้ายแรงของอาวุธและบาดแผล
จำเลยใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นซึ่งมีลูกกระสุนขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 7 มิลลิเมตร ยิงนาย ค. ในระยะ 3 วา มีรอยกระสุนปืน 4 แห่ง ๆ ละ 1 แผลคือที่แขนซ้าย ก้นกบ ข้างตะโพกซ้าย และที่ขาขวา จากการถ่ายภาพรังษีพบมีกระสุนปืนในเนื้อเยื่อแห่งละ 1 นัด รักษาตัวในโรงพยาบาล 4 วัน ถ้าไม่มีโรคแทรกซ้อนจะหายใน 14 วัน และจำเลยได้ยิงนาย ส. มีรอยกระสุนหลายรอยที่บริเวณตะโพกซ้าย บริเวณรอบแผลบวมและช้ำ รักษาตัวในโรงพยาบาล 7 วัน ถ้าไม่มีโรคแทรกซ้อนจะหายใน 20 วัน และได้ความจากแพทย์ว่าถ้าผู้เสียหายทั้งสองไม่มารับการรักษาที่โรงพยาบาลทันทีและมีโลหิตออกมากเกินควรอาจถึงแก่ชีวิตได้แสดงว่าอาวุธปืนที่จำเลยใช้ยิงมีประสิทธิภาพร้ายแรง อาจทำให้ผู้เสียหายถึงแก่ความตายได้ แม้จะถูกอวัยวะในที่ซึ่งไม่สำคัญ กรณีจึงต้องปรับด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1224/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่า: การพิจารณาจากบาดแผล, พฤติการณ์ และอาการเมาสุราของผู้กระทำ
จำเลยใช้มีดปลายแหลมยาวทั้งด้ามและใบมีดประมาณ 1 คืบเฉพาะตัวมีดยาวประมาณครึ่งคืบ แทงผู้เสียหายที่หน้าอก อันเป็นอวัยวะส่วนสำคัญเพียงทีเดียว เป็นบาดแผลขนาด 1.5X1/2X1.5 เซนติเมตรแพทย์ลงความเห็นว่า แผลไม่ร้ายแรงที่จะทำให้ถึงแก่ความตายได้รักษาประมาณ 12 วันหาย ถ้าไม่มีโรคแทรก ดังนี้ ยังไม่พอฟังว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1224/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่า vs. ทำร้ายร่างกาย: การพิจารณาจากบาดแผลและพฤติการณ์
จำเลยใช้มีดปลายแหลมยาวทั้งด้ามและใบมีดประมาณ 1 คืบเฉพาะตัวมีดยาวประมาณครึ่งคืบแทงผู้เสียหายที่หน้าอกอันเป็นอวัยวะส่วนสำคัญเพียงทีเดียวเป็นบาดแผลขนาด 1.5X1/2X1.5 เซนติเมตร แพทย์ลงความเห็นว่า แผลไม่ร้ายแรงที่จะทำให้ถึงแก่ความตายได้รักษาประมาณ 12 วันหาย ถ้าไม่มีโรคแทรก ดังนี้ ยังไม่พอฟังว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1832/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่า: การทำร้ายด้วยมีดโดยฉุกละหุกและลักษณะบาดแผลที่ไม่ถึงแก่ชีวิต
จำเลยฟันผู้เสียหายหลายทีด้วยมีดโต้ปลายตัด แต่ฟันด้วยอาการฉุกละหุกดิ้นรนต่อสู้ แม้ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บหลายแห่งถึงสาหัสแต่เมื่อพิจารณาถึงโอกาสที่จำเลยจะเลือกฟันทำร้ายประกอบกับลักษณะบาดแผลที่ผู้เสียหายได้รับ ก็ไม่ปรากฏว่าอาจทำให้ถึงตายได้แล้วยังถือไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า คงฟังว่าจำเลยทำร้ายผู้เสียหายถึงอันตรายสาหัสเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1832/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการทำร้ายด้วยมีด: พิจารณาจากพฤติการณ์, ลักษณะบาดแผล และโอกาสในการกระทำ
จำเลยฟันผู้เสียหายหลายทีด้วยมีดโต้ปลายตัด แต่ฟันด้วยอาการฉุกละหุกดิ้นรนต่อสู้ แม้ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บหลายแห่งถึงสาหัสแต่เมื่อพิจารณาถึงโอกาสที่จำเลยจะเลือกฟันทำร้ายประกอบกับลักษณะบาดแผลที่ผู้เสียหายได้รับ ก็ไม่ปรากฏว่าอาจทำให้ถึงตายได้แล้วยังถือไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า คงฟังว่าจำเลยทำร้ายผู้เสียหายถึงอันตรายสาหัสเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1391/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อันตรายสาหัสจากการทำร้ายร่างกาย: การพิจารณาบาดแผล, ระยะเวลาพักรักษาตัว, และผลกระทบต่อการประกอบอาชีพ
แม้ตามรายงานชันสูตรบาดแผลประกอบคำเบิกความของแพทย์จะลงความเห็นว่ารักษา 20 วันหาย เมื่อปรากฏบาดแผลที่ผู้เสียหายได้รับมี 5 แห่ง บาดแผลสำคัญคือแผลถูกแทงที่หน้าท้องกว้าง 0.5 เซนติเมตร ยาว 1 เซนติเมตร ลึก 2.5 เซนติเมตร ประกอบกับคำของผู้เสียหายว่ารักษาตัวที่สถานีอนามัยและที่บ้านรวม 24 วันแผลจึงหาย ทั้งยังต้องพักรักษาตัวอยู่อีก 2 เดือน จึงทำงานได้ตามปกติ เช่นนี้ นับได้ว่าผู้เสียหายประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เกินกว่า 20 วัน เป็นอันตรายสาหัส
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1361/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพยายามฆ่า ปืนที่ใช้ยิงไม่ร้ายแรง บาดแผลไม่ทะลุเข้าเนื้อ ปรับเป็นมาตรา 81
จำเลยยิงผู้เสียหายด้วยปืนพกสั้น 1 นัดในระยะ 3 วา กระสุนถูกที่บริเวณตะโพกขวาเป็นบาดแผล 2 แห่ง ลักษณะเป็นแผลตื้นแค่ผิวหนังแผลที่ 1 เป็นแผลกลมเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.8 เซนติเมตร มีลักษณะบวมรอบ ๆ แผลที่ 2 เป็นวงกลมรี เส้นผ่าศูนย์กลาง 0.8 เซนติเมตร ยาว 1.5 เซนติเมตร รักษาประมาณ 10 วันหาย ปืนของกลางยึดมาไม่ได้คงได้หลักฐานเพียงว่าปืนที่ใช้ยิงเป็นปืนพกสั้น ลักษณะบาดแผลปรากฏว่ากระสุนแล่นเข้าตรง ๆ แต่ไม่ทะลุเข้าไปถึงในเนื้อมีแต่ลักษณะช้ำบวมที่ผิวหนัง ซึ่งหากเป็นปืนที่สามารถทำให้ผู้ถูกยิงถึงตายแล้ว ระยะที่ยิงห่างกันเพียง 3 วา กระสุนก็น่าจะทะลุเข้าถึงในเนื้อโดยมิต้องสงสัย กรณีเช่นนี้ต้องถือเป็นการกระทำที่ไม่สามารถบรรลุผลได้อย่างแน่แท้ เพราะเหตุปัจจัยที่ใช้ในการกระทำผิด จำเลยกระทำโดยเจตนาฆ่าจึงคงมีความผิดตามมาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 81