พบผลลัพธ์ทั้งหมด 206 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1224/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดการอุทธรณ์ข้อเท็จจริง และอำนาจศาลอุทธรณ์ในการวินิจฉัยข้อเท็จจริงใหม่
การที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงต่างกันนั้น จะถือว่าศาลชั้นต้นวินิจฉัยข้อเท็จจริงผิดกฎหมายหาได้ไม่ และเมื่อคดีต้องห้ามไม่ให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ทั้งคู่ความก็มิได้กล่าวอ้างมาในฟ้องอุทธรณ์ด้วยแล้ว ศาลอุทธรณ์ย่อมไม่มีอำนาจหยิบยกข้อเท็จจริงขึ้นวินิจฉัยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1224/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลอุทธรณ์จำกัดในคดีที่ห้ามอุทธรณ์ข้อเท็จจริง แม้จะอ้างว่าศาลชั้นต้นวินิจฉัยผิด
การที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงต่างกันนั้นจะถือว่าศาลชั้นต้นวินิจฉัยข้อเท็จจริงผิดกฎหมายหาได้ไม่ และเมื่อคดีต้องห้ามไม่ให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ทั้งคู่ความก็มิได้กล่าวอ้างมาในฟ้องอุทธรณ์ด้วยแล้ว ศาลอุทธรณ์ย่อมไม่มีอำนาจหยิบยกข้อเท็จจริงขึ้นวินิจฉัยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 585/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดการอุทธรณ์ปัญหาข้อเท็จจริงหลังจำเลยไม่ได้ยกข้อโต้แย้งเรื่องสัญญา
เมื่อจำเลยกล่าวแก้ข้อพิพาทโดยมิได้ยกข้อโต้เถียงในเรื่องแปลความหมายแห่งข้อความในสัญญาเช่า แม้คดีจะมีอุทธรณ์ปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับการแปลความแห่งสัญญาเช่าคู่ความก็อุทธรณ์ปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ กรณีไม่ต้องด้วยข้อยกเว้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 639/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำกัดขอบเขตการสืบพยานและค่าเสียหาย: เมื่อโจทก์พอใจค่าเสียหายที่ศาลชั้นต้นพิพากษา ศาลไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยอุทธรณ์ฎีกาเพิ่มเติม
ถ้าเดิมโจทก์ฟ้องว่าหมิ่นประมาทเรียกค่าเสียหาย 200,000 บาท แต่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ค่าเสียหายเพียง 10,000 บาท แม้โจทก์จะอุทธรณ์ฎีกาให้ย้อนสำนวนไปสืบเรื่องความเสียหายเกี่ยวกับเกียรติคุณของโจทก์ ส่วนค่าเสียหายโจทก์ไม่เรียกร้องเกินกว่าที่ศาลชั้นต้กำหนดให้และไม่เสียค่าขึ้นศษลในทุนทรัพย์เกินกว่านี้ นั้น ศาลจึงไม่สมควรวินิจฉัยอุทธรณ์และฎีกาของโจทก์ในกรณีเช่นนี้ เพราะถึงอย่างไรเสียก็ไม่ได้ค่าเสียหายเกินกว่าจำนวนนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 639/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำกัดขอบเขตการสืบพยานและความเสียหาย: เมื่อโจทก์ไม่ติดใจเรียกร้องค่าเสียหายเพิ่มเติม ศาลไม่สมควรวินิจฉัยอุทธรณ์ฎีกา
ถ้าเดิมโจทก์ฟ้องว่าหมิ่นประมาทเรียกค่าเสียหาย 200,000 บาทแต่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ค่าเสียหายเพียง 10,000 บาท แม้โจทก์จะอุทธรณ์ฎีกาให้ย้อนสำนวนไปสืบเรื่องความเสียหายเกี่ยวกับเกียรติคุณของโจทก์ ส่วนค่าเสียหายโจทก์ไม่เรียกร้องเกินกว่าที่ศาลชั้นต้นกำหนดให้และไม่เสียค่าขึ้นศาลในทุนทรัพย์เกินกว่านี้ นั้น ศาลจึงไม่สมควรวินิจฉัยอุทธรณ์และฎีกาของโจทก์ในกรณีเช่นนี้ เพราะถึงอย่างไรเสียก็ไม่ได้ค่าเสียหายเกินกว่าจำนวนนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 373-374/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลอุทธรณ์จำกัดเฉพาะคดีที่มีการอุทธรณ์ คดีที่ไม่อุทธรณ์ถือเป็นที่สิ้นสุด
กรณีที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยฐานนำเงินตราออกนอกประเทศโดยมิได้รับอนุญาตสำนวนหนึ่ง และฐานนำคนต่างด้าวออกนอกราชอาณาจักรโดยมิได้รับอนุญาตอีกสำนวนหนึ่ง และจำเลยอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาเฉพาะความผิดสำนวนแรกซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมายต่างกับความผิดสำนวนหลังซึ่งจำเลยมิได้อุทธรณ์ คดีที่มิได้อุทธรณ์ขึ้นมาจึงเป็นอันเสร็จเด็ดขาดแล้ว ฉะนั้นศาลอุทธรณ์ย่อมไม่มีอำนาจที่จะรื้อฟื้นขึ้นมาพิจารณาอีกได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 373-374/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลจำกัดเฉพาะคดีที่อุทธรณ์ คดีที่ไม่อุทธรณ์ถือเป็นอันยุติแล้ว
กรณีที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยฐานนำเงินตราออกนอกประเทศโดยมิได้รับอนุญาตสำนวนหนึ่งและฐานนำคนต่างด้าวออกนอกราชอาณาจักรโดยมิได้รับอนุญาตอีกสำนวนหนึ่ง และจำเลยอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาเฉพาะความผิดสำนวนแรกซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมายต่างกับความผิดสำนวนหลังซึ่งจำเลยมิได้อุทธรณ์คดีที่มิได้อุทธรณ์ขึ้นมาจึงเป็นอันเสร็จเด็ดขาดแล้ว ฉะนั้น ศาลอุทธรณ์ย่อมไม่มีอำนาจที่จะรื้อฟื้นขึ้นมาพิจารณาอีกได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1589/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดในการยกข้อต่อสู้ใหม่ในชั้นอุทธรณ์และฎีกา หากมิได้ยกขึ้นต่อสู้ในชั้นศาลล่าง
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยโดยกล่าวว่าสัญญาเช่าสิ้นอายุและได้บอกเลิกการเช่าแก่จำเลยแล้ว จำเลยต่อสู้ว่า โจทก์ไม่เคยบอกเลิกสัญญาเช่ากับจำเลย คำบอกกล่าวท้ายฟ้องหากมีจริงก็เป็นเอกสารทำขึ้นโดยมิชอบในภายหลัง ดังนี้ จำเลยหาได้ต่อสู้ว่าโจทก์ได้บอกกล่าวจำเลย แต่เป็นการบอกกล่าวที่ไม่ให้โอกาสจำเลยรู้ตัวก่อนระยะเวลาเก็บค่าเช่าระยะหนึ่งไม่ เมื่อจำเลยมิได้ต่อสู้ไว้ดังนั้นจำเลยจะยกขึ้นเป็นข้ออุทธรณ์หรือฎีกาไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 225,249
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1117/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดการวินิจฉัยข้อเท็จจริงในชั้นอุทธรณ์และฎีกา: เมื่อศาลอุทธรณ์ไม่วินิจฉัย ศาลฎีกาไม่สามารถวินิจฉัยได้
คดีไม่มีทุนทรัพย์(คดีฟ้องขับไล่)ที่ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงนั้น แม้จะไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงด้วย ศาลฎีกาก็รับพิจารณาข้อเท็จจริงที่ได้ว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์เท่านั้น
ศาลอุทธรณ์ไม่วินิจฉัยข้อเท็จจริงให้เพราะต้องห้ามอุทธรณ์ต้องถือว่าข้อเท็จจริงนั้นมิได้ว่ากันมาในศาลอุทธรณ์ แม้คดีจะฎีกาข้อเท็จจริงได้ ศาลฎีกาก็ไม่วินิจฉัยข้อเท็จจริงนี้ให้
ศาลอุทธรณ์ไม่วินิจฉัยข้อเท็จจริงให้เพราะต้องห้ามอุทธรณ์ต้องถือว่าข้อเท็จจริงนั้นมิได้ว่ากันมาในศาลอุทธรณ์ แม้คดีจะฎีกาข้อเท็จจริงได้ ศาลฎีกาก็ไม่วินิจฉัยข้อเท็จจริงนี้ให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 623/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดในการฎีกาคดีอาญาที่ศาลอุทธรณ์แก้ไขเฉพาะจำนวนทรัพย์ที่ยักยอก ศาลฎีกาต้องถือตามข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยกระทำความผิดฐานยักยอก ให้จำคุก 6 เดือน รอการลงโทษไว้3 ปีและให้ใช้เงินแก่ผู้เสียหาย 120,000 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำเลยใช้เงิน แก่ผู้เสียหาย 66,000 บาท นอกนั้นยืน ดังนี้ คู่ความจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ ฉะนั้น ข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ชี้ขาดว่าจำเลยยักยอกเงินเพียง 66,000 บาท จึงเป็นอันยุติ ซึ่งศาลจะต้องถือตามในการพิพากษาคดีส่วนแพ่ง