คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
กระทำผิด

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 237 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 893/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำผิดฐานปิดกั้นเหมืองสาธารณะ แม้จะโต้แย้งเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดิน การพิสูจน์ได้ว่ากระทำผิดในช่วงเวลาที่กล่าวอ้างก็เพียงพอ
ฟ้องหาว่า จำเลยกระทำทำนบปิดกั้นเหมืองสาธารณะระหว่างวันที่1 มกราคม ถึงวันที่ 25 มีนาคม 2492 จำเลยรับว่าทำทำนบจริง แต่ต่อสู้ว่าเป็นที่ดินของจำเลย ดังนี้ วันเวลาที่จำเลยทำทำนบจึงไม่สำคัญโจทก์นำสืบได้ความว่าจำเลยทำทำนบปิดเหมืองสาธารณะเมื่อต้นปี พ.ศ.2492 ก็ลงโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 793/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องไม่ชัดเจนจำเลยกระทำผิดต่อใคร ฟ้องไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
ฟ้องโจทก์ที่กล่าวว่า จำเลยทั้ง 3 บังอาจใช้กำลังกายและสาตราวุธทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน จำเลยที่ 1 บาดเจ็บสาหัส จำเลยที่ 2 ไม่บาดเจ็บ จำเลยที่ 3 บาดเจ็บ ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.อาญา ม. 254,256 ดังนี้เป็นฟ้องเคลือบคลุม เพราะจำเลยคนใดย่อมไม่อาจเข้าใจว่า ต้องหาว่าทำร้ายจำเลยคนใดอย่างไร ถึงบาดเจ็บสาหัสหรือไม่ และจะลงโทษตาม ม. 258 ก็ไม่ได้ เพราะโจทก์ไม่ประสงค์ให้ลงโทษ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1266/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยกระทำผิดซ้ำหลังได้รับโทษรอการลงอาญา ศาลเพิ่มโทษตามกฎหมายและรวมโทษเดิม
จำเลยเคยต้องคำพิพากษาให้จำคุกมีกำหนด 9 เดือนมาแล้วแต่ถูกรอการลงอาญาไว้ มากระทำผิดฐานฆ่าคนตายตามมาตรา 249 ขึ้นอีกภายใน 5 ปี ศาลพิพากษาจำคุก 15 ปี และเพิ่มโทษตามมาตรา 42,72 อีก 1 ใน 3 เป็นโทษให้จำคุก 20 ปี แล้วเอาโทษที่รอไว้ 9 เดือนมาลงแก่จำเลย รวมเป็นโทษจำคุก 20 ปี 9 เดือน ศาลฎีกาพิพากษายืน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 354/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขกฎหมายหลังกระทำผิดและการยกฟ้องอาญาเนื่องจากกฎหมายใหม่เป็นคุณแก่จำเลย
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานกักกันข้าวในเขตห้ามกักกันข้าวในระหว่างพิจารณาได้มีพระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว(ฉบับที่ 2)2489 ออกใช้ ซึ่งบัญญัติว่าผู้มีข้าวเกินปริมาณจะมีผิดต่อเมื่อไม่แจ้งปริมาณและสถานที่เก็บข้าวภายในระยะเวลาที่คณะกรรมการกำหนดซึ่งเป็นการแก้ไขกฎหมายฉบับเดิมและเป็นคุณแก่จำเลย เมื่อการกระทำของจำเลยไม่มีผิดตามกฎหมายฉบับหลัง ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 8 (อ้างฎีกาที่ 621-622/2491)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2073/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบของกลางต้องมีเจตนาใช้กระทำผิด คดีประมาทไม่เข้าข่ายริบ
สิ่งของที่จะริบได้ตามมาตรา 27(1) นั้น จะต้องเป็นของที่เจตนาใช้กระทำผิดหรือมีไว้โดยเจตนาใช้ทำผิด ฉะนั้นจะมีการริบทรัพย์ในความผิดฐานประมาทไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1993-1997/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิด พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว: โจทก์ต้องพิสูจน์จำเลยทราบประกาศก่อนกระทำผิด
คดีอาญาที่โจทก์หาว่า จำเลยกระทำผิด พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว (ฉบับที่ 2) โจทก์จะต้องนำสืบให้ปรากฏว่าจำเลยได้ทราบประกาศของพนักงานเจ้าหน้าที่แล้วฝ่าฝืนประกาศจึงจะเป็นผิด
ที่มีประกาศของคณะกรรมการฯในราชกิจจาฯ เป็นข้อเท็จจริงซึ่งโจทก์จะต้องนำสืบ ไม่มีหลักกฎหมายสันนิษฐานเด็ดขาดว่าราษฎรทั่วไปได้รู้แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1909/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบของกลางในคดีฝ่าฝืน พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว ต้องมีผู้กระทำผิดตามมาตรา 10 เท่านั้น
ข้าวและเรือที่ใช้บรรทุกข้าวของกลางในคดีที่หาว่า ทำผิด พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว จะริบได้ต่อเมื่อปรากฎว่ามีผู้หนึ่งผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 10 หากยังไม่ปรากฎว่า ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 10 แล้วจะริบมิได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1909/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบของกลางในคดี พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว ต้องมีผู้กระทำผิดตามมาตรา 10 จึงจะริบได้
ข้าวและเรือที่ใช้บรรทุกข้าวของกลางในคดีที่หาว่า ทำผิด พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว จะริบได้ต่อเมื่อปรากฏว่ามีผู้หนึ่งผู้ใดฝ่าฝืน มาตรา 10 หากยังไม่ปรากฏว่า ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 10 แล้วจะริบมิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1810/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระบุเวลาในฟ้องอาญา: ความชัดเจนของช่วงเวลาที่กระทำผิดเพียงพอต่อการเข้าใจข้อหา
คำว่า เวลาตาม ป.ม.วิ.อาญา ม .158(5) หมายความตลอดถึงวันเดือนปีด้วย แต่คดีใด จะต้องระบุเวลากลางวันกลางคืนหรือไม่ ต้องพิจารณาเป็นเรื่อง ๆ ไปแล้วแต่กรณี ข้อสำคัญฟ้องให้กล่าวพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี
โจทก์ฟ้องว่า ได้ซื้อรถยนตร์จากผู้มีชื่อแต่รถยนตร์ชำรุด จึงได้ฝากจำเลยไว้ รุ่งขึ้นไปขอคืนจากจำเลย ปรากฎว่าเครื่องยนตร์ที่ฝากไว้บางแห่งหายไป ทราบว่าจำเลยยักยอกโดยมิได้ระบุในฟ้องว่าจำเลยทำผิดเวลาใด ถือว่าจำเลยทำผิดในวัน,เวลาที่ฝากกับวัน,เวลาที่ปรากฎของหาย ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 766/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สมคบร่วมกันลักทรัพย์: การกระทำที่ถือเป็นตัวการ
พฤตติการณ์ที่ถือว่า เป็นตัวการฐานลักทรัพย์
ศาลชั้นต้นลงโทษฐานลักทรัพย์ตาม มาตรา 295,54, จำคุก 1 ปี 6 เดือน ศาลอุทธรณ์แก้ลงโทษตามมาตนา 321 ,59 จำคุก 6 เดือน โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงได้
of 24