คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ความสอดคล้อง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 15 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1950/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีอาญาต้องสอดคล้องกับข้อเท็จจริง หากข้อเท็จจริงไม่ตรงกับฟ้อง ศาลย่อมลงโทษจำเลยตามฟ้องไม่ได้
แม้ผู้ตายซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านจะมีอำนาจว่ากล่าวสั่งสอนลูกบ้านของตนได้ตาม พระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ.2457มาตรา 27 ก็ตาม เมื่อโจทก์ฟ้องว่าจำเลยฆ่าผู้ตายขณะจับกุมตามหน้าที่ แต่ได้ความว่าจำเลยฆ่าเพราะเหตุผู้ตายไปว่ากล่าวสั่งสอนตามหน้าที่ดังนี้ ข้อเท็จจริงที่ได้ความไม่ตรงกับที่โจทก์ฟ้อง ลงโทษจำเลยตามมาตรา 250(2)ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1442/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพากษาคดีลักทรัพย์: ความสอดคล้องของวันเวลาเกิดเหตุตามคำฟ้องและพยานหลักฐาน
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยทำผิดคืนวันที่ 3 เมษายน 2491เวลากลางคืน พยานโจทก์ว่าเกิดเหตุคืนวันแรม 9 ค่ำ เดือน4 เวลาประมาณ 5 นาฬิกา รุ่งขึ้นเป็นวันแรม 10 ค่ำซึ่งตรงกับวันที่ 3 เมษายน ดังนี้ ข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณา หาต่างกับฟ้องไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 182/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสำคัญของสถานที่เกิดเหตุในคดีอาญา การฟ้องที่ไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้
ข้อเท็จจริงพิจารณาต่างกับฟ้องในเรื่องตำบลที่เกิดเหตุ ซึ่งจำเลยได้โต้เถียงเรื่องนี้ไว้ดังนี้ ศาลต้องยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 892/2484

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการลงโทษทางอาญา: การเปลี่ยนแปลงลักษณะบาดเจ็บ และความสอดคล้องกับฟ้อง
ฟ้องระบุว่าทำร้ายเขาสาหัสถึงรูปหน้าเสียโฉม ศาลจะลงโทษจำเลยในลักษณะสาหัสอย่างอื่นไม่ได้ ฟ้องขอให้ลงโทษตามมาตรา 256 ได้ความว่าจำเลยมีผิดตามมาตรา 254 ศาลลงโทษจำเลยตามมาตรา 254 ได้ ศาลชั้นต้นจำคุก 5 ปี ตามมาตรา 256 ศาลอุทธรณ์แก้ให้จำคุก 2 ปี ตามาตรา 254 เป็นแก้น้อย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9209/2553 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางแพ่งต้องสอดคล้องข้อเท็จจริงในคำพิพากษาคดีอาญา ศาลไม่สามารถฟังข้อเท็จจริงใหม่ขัดแย้งกับคำพิพากษาอาญาได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองกับพวกร่วมกันบุกรุกและร่วมกันขุดต้นยูคาลิปตัสที่โจทก์ปลูกไว้ออกจากที่ดินของโจทก์ทั้งแปลงและเรียกค่าเสียหายจำนวน 81,000 บาท ซึ่งความรับผิดทางแพ่งเกิดจากการกระทำผิดอาญาอันมีมูลคดีเดียวกัน จึงเป็นคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา เมื่อคำพิพากษาส่วนอาญายุติแล้วว่าพยานหลักฐานตามทางนำสืบของโจทก์ยังไม่เพียงพอให้รับฟังลงโทษจำเลยที่ 1 ถือได้ว่าศาลได้วินิจฉัยในประเด็นแห่งคดีแล้วว่าจำเลยที่ 1 ไม่ได้กระทำความผิดฐานบุกรุกและทำให้เสียทรัพย์ดังนี้ จะฟังข้อเท็จจริงใหม่เป็นอย่างอื่นหาได้ไม่ ที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้ว่าจ้าง ฮ. นำรถแบ็คโฮไปขุดถอนต้นยูคาลิปตัสในที่ดินของจำเลยที่ 1 ซึ่งอยู่ติดกับที่ดินของโจทก์แล้ว ฮ. ให้คนงานนำรถแบ็คโฮไปทำงานตามที่ตนรับจ้างโดยที่จำเลยที่ 1 ไม่ชี้แนวเขตที่ดินของตนถือได้ว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้ผิดในส่วนการงานที่สั่งให้ทำหรือในคำสั่งที่ตนให้ไว้หรือในการเลือกหาผู้รับจ้างตาม ป.พ.พ. มาตรา 428 จึงไม่ชอบนอกจากนี้ข้อเท็จจริงดังกล่าวโจทก์ก็ไม่ได้บรรยายมาในฟ้องจึงเป็นการพิพากษาเกินคำขอ ต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 142 วรรคหนึ่งอีกด้วย แม้ ป.วิ.อ. มาตรา 47 จะบัญญัติว่าคำพิพากษาส่วนแพ่งต้องเป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายอันว่าด้วยความรับผิดของบุคคลในทางแพ่ง โดยไม่ต้องคำนึงว่าจำเลยต้องคำพิพากษาว่าได้กระทำผิดหรือไม่ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไปกลับข้อเท็จจริงที่จำต้องรับฟังตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญาตาม ป.วิ.อ. มาตรา 46 ศาลจึงไม่อาจรับฟังข้อเท็จจริงในส่วนแพ่งขัดกับข้อเท็จจริงที่ปรากฏในคำพิพากษาส่วนอาญาได้จึงต้องฟังว่าจำเลยที่ 1 มิได้ทำละเมิดอันจะต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์
of 2