คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ค่าที่ดิน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 24 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1130/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บอกเลิกสัญญาก่อนเช็คถึงกำหนด: จำเลยไม่ต้องรับผิดตามเช็คค่าที่ดิน
เดิมโจทก์ จำเลยทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินกันโดยจำเลยได้สั่งจ่ายเช็คพิพาทให้แก่โจทก์เพื่อชำระเป็นค่าซื้อที่ดินบางส่วน ต่อมา เมื่อโจทก์จำเลยต่างบอกเลิกสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินต่อกันแล้ว จำเลยก็ไม่มีหน้าที่ชำระเงินตามเช็คพิพาทให้แก่โจทก์อีก โจทก์ไม่อาจนำเช็คพิพาทมาฟ้องเรียกเงินจากจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1130/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะซื้อจะขายถูกบอกเลิก เช็คชำระค่าที่ดินส่วนหนึ่ง ไม่มีหน้าที่ชำระเงิน
เดิมโจทก์ จำเลยทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินกันโดยจำเลยได้สั่งจ่ายเช็คพิพาทให้แก่โจทก์เพื่อชำระเป็นค่าซื้อที่ดินบางส่วนต่อมาเมื่อโจทก์จำเลยต่างบอกเลิกสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินต่อกันแล้วจำเลยก็ไม่มีหน้าที่ชำระเงินตามเช็คพิพาทให้แก่โจทก์อีก โจทก์ไม่อาจนำเช็คพิพาทมาฟ้องเรียกเงินจากจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 399/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเรียกร้องค่าที่ดินเพิ่มขึ้นจากผู้เช่ากรณีถูกบังคับคดี ผู้เช่าต้องเรียกร้องจากเจ้าของที่ดิน
ศาลชั้นต้นพิพากษาตามยอมให้จำเลยชำระหนี้ จำเลยผิดนัดโจทก์จึงขอให้บังคับคดีและนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินของจำเลยซึ่งจำนองไว้กับโจทก์ ผู้ร้องคัดค้านว่า ผู้ร้องเช่าที่ดินดังกล่าวจากจำเลยแล้วปลูกต้นสน ใน ที่ดินนั้นขอให้โจทก์ใช้ราคาที่ดินที่เพิ่มขึ้นแก่ผู้ร้อง ดังนี้โจทก์เป็นเพียงผู้นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินซึ่งผู้ร้องปลูกต้นสน ลงไว้ หากต้นสน เป็นส่วนควบของที่ดินโจทก์ก็มิได้เป็นเจ้าของที่ดินดังกล่าว แม้ผู้ร้องปลูกต้นสน โดยสุจริต และค่าที่ดินเพิ่มขึ้น ผู้ร้องก็ชอบที่จะเรียกร้องจากจำเลยซึ่งเป็นเจ้าของที่ดิน หามีสิทธิเรียกเอาจากโจทก์ไม่อีกทั้งไม่มีกฎหมายบัญญัติให้ผู้เช่าที่ดินเรียกร้องเอาค่าที่ดินที่เพิ่มขึ้นเพราะผู้เช่าปลูกต้นสน ลงในที่ดินจากเจ้าหนี้ของเจ้าของที่ดินนอกจากนี้โจทก์มิได้นำยึดต้นสน ที่ผู้ร้องปลูกในที่ดินพิพาท จึงไม่กระทบกระทั่งถึงสิทธิของผู้ร้องเกี่ยวกับต้นสน ที่ผู้ร้องปลูกในที่ดินดังกล่าว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1612/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรุกล้ำที่ดินโดยสุจริตของผู้รับโอน สิทธิเรียกร้องค่าที่ดิน มิใช่การรื้อถอน
เจ้าของเดิมได้ปลูกสร้างตึกแถวเลขที่ 40, 41 และ 42 ลงบนที่ดิน 2 แปลงของตนคือที่ดินโฉนดที่ 811 และ ที่ 237 ปรากฏว่าตึกแถวเลขที่ 41 ได้ปลูกล้ำเข้าไปในที่ดินโฉนดที่ 811 ต่อมาที่ดินโฉนดที่ 811 พร้อมตึกแถวได้ตกเป็นของโจทก์ส่วนที่ดินโฉนดที่ 237 พร้อมทั้งตึกแถวได้ตกเป็นของจำเลยกรณีนี้ ไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้โดยเฉพาะต้องนำบทกฎหมายที่ใกล้เคียงมาใช้บังคับคือประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1312 การที่ตึกแถวเลขที่ 41 ปลูกล้ำเข้าไปในโฉนดที่ 811 ของโจทก์นั้น เจ้าของเดิมเป็นผู้ปลูกหาใช่จำเลยไม่โจทก์จำเลยต่างรับโอนที่ดินและตึกแถวมาอีกทอดหนึ่งถือได้ว่าการรุกล้ำดังกล่าวเป็นมาโดยสุจริต จะให้จำเลยรื้อถอนไปหาชอบด้วยความยุติธรรมไม่และจะนำมาตรา 1310 มาปรับกับกรณีนี้ก็ไม่ได้ เพราะมาตรา 1310 เป็นบทบัญญัติกรณีที่ปลูกสร้างโรงเรือนลงในที่ดินผู้อื่นทั้งหลัง มิใช่ปลูกสร้างรุกล้ำเข้าไปในที่ดินผู้อื่นเพียงบางส่วนเช่นกรณีนี้โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องบังคับให้จำเลยรื้อถอนฝาห้องเลขที่ 41 ออกไปจากที่ดินโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1563/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งเรียกค่าที่ดินหลังเพิกถอนสัญญาขายฝาก: ไม่เกี่ยวข้องกับฟ้องเดิม
จำเลยที่ 2 ฟ้องแย้งว่าหากศาลเห็นว่าจำเลยที่ 1 กระทำการโดยไม่สุจริต ขอให้บังคับโจทก์ใช้ค่าที่ดินให้จำเลยที่ 2 ดังนี้ ฟ้องแย้งเป็นเรื่องที่จะเกิดตามมาภายหลังเมื่อศาลพิพากษาว่าจำเลยที่ 1 กระทำการโดยไม่สุจริตให้เพิกถอนสัญญาขายฝากที่ดินระหว่างจำเลยทั้งสองแล้ว ถ้าจำเลยทั้งสองชนะคดีตามที่ให้การปฏิเสธว่าจำเลยทำสัญญาขายฝากกันโดยสุจริต ฟ้องแย้งของจำเลยที่ 2 ก็เป็นอันตกไป ดังนั้นฟ้องแย้งจึงเป็นเรื่องที่จะต้องเรียกร้องกันต่างหากเมื่อปรากฏผลคำพิพากษาในคดี นี้แล้วเป็นฟ้องแย้งในเรื่องอื่นไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3766/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคืนเงินทดรองค่าที่ดินส่วนตัว ไม่เข้าข้อยกเว้นอากรแสตมป์ เพราะเป็นการรับเงินส่วนตัว ไม่ใช่ในฐานะกรรมการ
โจทก์เป็นกรรมการอำนวยการบริษัทยูไนโกคอนสตรัคชั่น จำกัดโจทก์กับ บริษัทยูไนโกคอนสตรัคชั่น จำกัด ได้ร่วมกันซื้อที่ดินจากบริษัทสหกรุงเทพพัฒนา จำกัด จำนวน 43 ไร่เป็นของโจทก์ 14 ไร่ ที่เหลือเป็นของบริษัทยูไนโกคอนสตรัคชั่น จำกัด โจทก์ได้จ่ายเงินชำระค่าที่ดินทั้งหมด 29,000,000 บาท โดยจ่ายทดรองให้บริษัทยูไนโกคอนสตรัคชั่น จำกัด ไปก่อนเป็นเงิน 20,185,000 บาท ต่อมาบริษัทยูไนโกคอนสตรัคชั่น จำกัด ได้คืนเงินดังกล่าวให้โจทก์โดยจ่ายเงิน 3 งวด โจทก์ลงชื่อรับเงินไว้ในใบสั่งจ่ายเงินดังกล่าวรวม 3 ฉบับ เอกสารทั้ง 3ฉบับดังกล่าวจึงเป็นบันทึกที่เป็นหลักฐานว่าโจทก์ได้รับ เงินจึงเป็นใบรับตามประมวลรัษฎากร มาตรา 103(ก) และการที่โจทก์รับเงินดังกล่าวเป็นการรับเงินมาเป็นส่วนตัวมิได้รับมาในฐานะเป็นกรรมการอำนวยการ บริษัทยูไนโกคอนสตรัคชั่น จำกัด ใบรับดังกล่าวจึงไม่มีลักษณะเป็นใบรับที่ลูกจ้างและนายจ้างออกให้ซึ่งกันและกันหรือของคณะบุคคลซึ่งกระทำกิจการร่วมกันออกให้ซึ่งกันและกันตามหน้าที่เพื่อดำเนินกิจการของคณะบุคคลนั้น จึงไม่เข้าข้อยกเว้นไม่ต้องเสียอากรตามบัญชีอัตราอากรแสตมป์ข้อ 28 ณใบรับในลักษณะเช่นนี้จึงต้องปิดอากรตามกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2920/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกเลิกสัญญาจะซื้อจะขายเนื่องจากคู่สัญญาไม่ปฏิบัติตามสัญญา และการคืนเงินค่าที่ดิน
โจทก์จำเลยทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินเป็นเงิน 70,125 บาท ยังค้างชำระราคาอยู่ 35,062.50 บาท ส่วนที่ค้างตกลงกันให้จำเลยหักเอาจากค่าเช่ารถแทรกเตอร์ที่จำเลยเช่าจากโจทก์เป็นการชำระค่าที่ดินเดือนละ 8,000 บาท ถ้าเลิกสัญญาเช่าให้โจทก์ผ่อนราคาที่ดินเดือนละ 5,000 บาท เมื่อชำระราคาครบถ้วนจำเลยจึงจะโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้โจทก์ จำเลยหักค่าเช่ารถแทรกเตอร์ไว้เป็นค่าที่ดินเพียงเดือนเดียวจำนวน 8,000 บาท โจทก์เอารถแทรกเตอร์คืนไม่ชำระค่าที่ดินอีกเลย กลับเรียกเอาเงินที่ชำระไปแล้วคืนจากจำเลย ถือเป็นการบอกเลิกสัญญากับจำเลย นับแต่วันทำสัญญาถึงวันที่ฟ้องเป็นเวลา 3 ปีเศษ ไม่ปรากฏว่าจำเลยเรียกร้องขอบังคับเอาส่วนที่เหลือจากโจทก์ซึ่งจำเลยควรถือได้ว่าโจทก์กระทำผิดสัญญา โจทก์ทวงถามให้จำเลยคืนเงินค่าที่ดิน จำเลยก็มิได้โต้แย้งอันแสดงความประสงค์ว่าจะให้ปฏิบัติตามสัญญาต่อไป เมื่อโจทก์ฟ้องคดีจำเลยก็บอกปัดชัดแจ้งไม่ยอมรับความผูกพันตามสัญญา ทั้งยังอ้างว่าไม่มีการชำระราคาที่ดินกันตามสัญญาเลย ถ้าจำเลยไม่ต้องการเลิกสัญญาด้วย ก็ย่อมมีสิทธิบังคับให้โจทก์ชำระราคาที่ดินที่ยังค้างและมีหน้าที่โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้โจทก์ จึงเป็นการที่จำเลยได้แสดงออกซึ่งเจตนาต่อโจทก์แล้วว่าไม่ประสงค์จะปฏิบัติตามสัญญาจะซื้อจะขายนั้นต่อไปอีก เท่ากับสนองรับโดยปริยายในการที่โจทก์บอกเลิกสัญญา คู่สัญญาต้องกลับคืนสู่ฐานะเดิม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 387/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้ค่าที่ดินและการส่งมอบทรัพย์ ศาลฎีกาตัดสินให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญา หรือคืนเงินพร้อมดอกเบี้ย
ศาลฎีกาพิพากษาให้จำเลยรับเงินค่าที่ดินที่ยังค้างชำระ 248,500 บาทจากโจทก์แล้วให้จำเลยส่งมอบที่พิพาทให้แก่โจทก์ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1378 หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้จำเลยคืนเงิน 101,500 บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ยแก่โจทก์ดังนี้ ในชั้นบังคับคดีเมื่อโจทก์ยืนยันให้จำเลยปฏิบัติตามเงื่อนไขแรก และจำเลยก็แถลงว่าไม่มีเหตุขัดข้องที่จะไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขแรกจำเลยจึงจะเลือกปฏิบัติตามเงื่อนไขหลัง คือคืนเงินค่าที่ดินที่รับไว้เป็นเงิน 101,500 บาทพร้อมทั้งดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2041/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตกลงซื้อขายเพื่อชำระหนี้เงินกู้ โดยถือว่าเงินกู้เป็นค่าที่ดินล่วงหน้า ถือเป็นสัญญาจะซื้อจะขายที่มีการชำระหนี้บางส่วนแล้ว
จำเลยกู้เงินโจทก์แล้วต่อมาจำเลยตกลงจะขายที่พิพาทให้โจทก์หักหนี้เงินกู้กับราคาที่พิพาท และให้ถือว่าเงินที่จำเลยกู้ไปเป็นเงินที่โจทก์จ่ายให้จำเลยเป็นค่าที่ดินล่วงหน้าบางส่วน และโจทก์จะจ่ายเงินค่าที่พิพาทให้จำเลยในวันที่ไปทำหนังสือสัญญาซื้อขายกันที่อำเภออีก 500 บาทด้วย ดังนี้ เป็นสัญญาจะซื้อจะขายและมีการชำระค่าที่ดินบางส่วนแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 161/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรุกล้ำที่ดิน: คำพิพากษาบังคับรื้อสิ่งปลูกสร้าง หรือชดใช้ค่าที่ดิน
คำพิพากษาที่บังคับให้ลูกหนี้ตามคำพิพากษารื้อห้องแถวที่ปลูกรุกล้ำเข้าไปในที่พิพาทออกเสียจากที่พิพาทถ้าไม่สามารถจะรื้อได้ให้ลูกหนี้ตามคำพิพากษาใช้ค่าที่ดินให้แก่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษานั้นลูกหนี้ตามคำพิพากษาจะเลือกปฏิบัติในประการหลังโดยอ้างเหตุว่าถ้ารื้อห้องแถวแล้วลูกหนี้ตามคำพิพากษาจะได้รับความเสียหายมากนั้นไม่ได้
of 3