พบผลลัพธ์ทั้งหมด 17 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 289/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เขตอำนาจศาล: ความผิดเริ่มเกิดในจังหวัดใด ศาลจังหวัดนั้นมีอำนาจพิจารณา
ในความผิดฐานรับของโจรโคของกลางจับได้ที่จังหวัดสงขลาแต่โคนี้ถูกคนร้ายลักจากจังหวัดพัทลุงความผิดได้เริ่มเกิดในเขตอำนาจศาลจังหวัดพัทลุงศาลจังหวัดพัทลุงมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีนี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1673-1674/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสอบสวนที่ชอบด้วยกฎหมาย แม้พยานและจำเลยต่างอยู่ในจังหวัดที่แตกต่างกัน
พยานโจทก์ซึ่งเป็นตำรวจจับผู้เล่นการพะนันแล้วต่างก็เขียนคำให้การของตนส่งให้กรมการอำเภอเจ้าของที่ ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานผู้ทำการสอบสวนแล้วพนักงานสอบสวนได้ดำเนินการสอบสวนต่อไป มีถามจดคำให้การของผู้ต้องหาเสร็จแล้วส่งเรื่องให้อัยการดังนี้ ถือได้ว่ามีการสอบสวนชอบด้วยกฎหมายแล้ว
(อ้างฎีกาที่ 516/2481)
(อ้างฎีกาที่ 516/2481)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 868/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับของผู้ต้องหาที่บันทึกโดยไม่ใช่พนักงานสอบสวน ไม่ผูกมัดในชั้นศาล และการขนย้ายข้าวภายในจังหวัดเดียวกัน
คำรับของผู้ต้องหาต่อนายสิบและพลตำรวจที่บันทึกขึ้นไว้ หาผูกมัดผู้นั้นในชั้นศาลไม่ เพราะตำรวจผู้บันทึกไม่ใช่พนักงานสอบสวน
ฟ้องหาว่า จำเลยเจตนาขนย้ายข้าวภายในเขตต์จังหวัดเดียวกัน แต่เป็นการขนย้ายทางทะเล ดังนี้ ย่อมไม่เป็นผิดตาม พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว 2489 มาตรา 10,13 เพราะมิได้เป็นการขนย้ายออกนอกเขตต์ที่กำหนดไว้.
(อ้างฎีกาที่ 637/2492)
ฟ้องหาว่า จำเลยเจตนาขนย้ายข้าวภายในเขตต์จังหวัดเดียวกัน แต่เป็นการขนย้ายทางทะเล ดังนี้ ย่อมไม่เป็นผิดตาม พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว 2489 มาตรา 10,13 เพราะมิได้เป็นการขนย้ายออกนอกเขตต์ที่กำหนดไว้.
(อ้างฎีกาที่ 637/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 623/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจสั่งกักสิ่งของตาม พ.ร.บ.เตรียมป้องกันประเทศ ต้องระบุสิ่งของชัดเจน การนำสิ่งของผ่านจังหวัดไม่ผิด
การที่จำเลยนำเครื่องเขียนติดตัวเดินทางผ่านไปเที่ยวขายและถูกจับก่อนขึ้นรถไฟไปแห่งอื่น ดังนี้ไม่เปนความผิดถานพยายามนำเครื่องเขียนออกนอกเขตจังหวัดที่จำเลยถูกจับเพราะประกาสข้าพลวงประจำจังหวัดมิได้ระบุสิ่งของและไช่จำเลยไม่ได้กักสิ่งของที่หยู่ไนจังหวัดนั้นตามคำสั่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 825/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เขตอำนาจการสอบสวนคดีอาญา: อำเภอ vs. จังหวัด
เหตุเกิดที่อำเพอกันตัง ซึ่งหยู่ไนเขตจังหวัดตรัง ผู้บังคับกองตำหรวดจังหวัดตรังมีอำนาดทำการสอบสวนคดีเรื่องนี้ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 965/2485
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อยกเว้นการห้ามนำผ้าออกนอกจังหวัด: วัตถุสำเร็จรูป
ข้าหลวงประจำจังหวัดประกาศห้ามไม่ให้ผู้ใดนำผ้าทุกชนิดตั้งแต่ 5 เมตรขึ้นไปออกนอกจังหวัด. ย่อมไม่หมายถึงผ้าที่เป็นเสื้อและกางเกง ซึ่งเป็นวัตถุสำเร็จและเปลี่ยนสภาพแล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3100/2551
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เขตอำนาจศาล: สัญญาและหนังสือรับสภาพหนี้ที่ทำในจังหวัดอื่น ศาลแขวงดุสิตไม่มีอำนาจพิจารณา
คำว่า มูลคดี ตามที่บัญญัติใน ป.วิ.พ. มาตรา 4 นั้น หมายถึง มูลเหตุซึ่งเป็นที่มาแห่งการโต้แย้งสิทธิอันจะทำให้เกิดอำนาจฟ้องแก่โจทก์ คดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองเรียกค่าสินค้าฝากขายที่จำเลยทั้งสองค้างชำระอันเนื่องจากโจทก์ตั้งให้จำเลยทั้งสองเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าที่โจทก์ผลิตในจังหวัดพัทลุง โดยพนักงานของโจทก์เป็นผู้ติดต่อกับจำเลยทั้งสองที่จังหวัดพัทลุง แม้มิได้ทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรไว้ แต่จำเลยทั้งสองก็ได้แสดงเจตนาสนองรับเป็นตัวแทนที่จังหวัดพัทลุงนั้นเอง ดังนั้น สัญญาที่เป็นมูลเหตุให้เกิดสิทธิฟ้องร้องของโจทก์จึงเกิดขึ้นที่จังหวัดพัทลุง ซึ่งอยู่ในเขตอำนาจศาลจังหวัดพัทลุง ส่วนที่ตั้งของสำนักงานโจทก์เป็นเพียงสถานที่ที่พนักงานโจทก์ทำงานอยู่ในเวลาที่จำเลยทั้งสองโทรศัพท์มาติดต่อเพื่อให้ส่งสินค้าเท่านั้น ซึ่งสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับการติดต่อส่งสินค้าไม่ใช่ติดต่อทำสัญญา ย่อมไม่ใช่สถานที่ที่มูลคดีเกิด
การรับสภาพหนี้โดยการทำเป็นหนังสือเป็นนิติกรรมฝ่ายเดียวที่ลูกหนี้กระทำได้เองโดยสมบูรณ์ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยที่ 2 ลงลายมือชื่อในหนังสือรับสภาพหนี้ที่จังหวัดพัทลุง หนังสือรับสภาพหนี้ก็มีผลโดยสมบรูณ์ทันที ศาลแขวงดุสิตจึงไม่ใช่ศาลที่มีเขตอำนาจ ศาลแขวงดุสิตจึงชอบที่จะพิพากษายกฟ้องเพื่อให้โจทก์นำคดีไปฟ้องต่อศาลที่มีเขตอำนาจต่อไป
การที่โจทก์ยื่นฟ้องจำเลยทั้งสองต่อศาลแพ่งและศาลแพ่งมีคำสั่งรับฟ้องไว้แล้ว ต่อมาศาลแพ่งมีคำสั่งให้โอนคดีมายังศาลแขวงดุสิตตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 16 วรรคสี่ และศาลแขวงดุสิตรับคดีไว้พิจารณา ไม่ถือว่าศาลแพ่งใช้ดุลพินิจรับคดีที่ไม่ได้อยู่ในเขตอำนาจไว้พิจารณาตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 16 วรรคสาม เพราะโจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องว่าคดีนี้ไม่อยู่ในเขตอำนาจของศาลแพ่ง ส่วนที่ศาลแขวงดุสิตรับคดีนี้ไว้พิจารณาก็เป็นไปตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 16 วรรคสี่ ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ศาลแขวงดุสิตใช้ดุลพินิจรับคดีนี้ไว้พิจารณาเอง
การรับสภาพหนี้โดยการทำเป็นหนังสือเป็นนิติกรรมฝ่ายเดียวที่ลูกหนี้กระทำได้เองโดยสมบูรณ์ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยที่ 2 ลงลายมือชื่อในหนังสือรับสภาพหนี้ที่จังหวัดพัทลุง หนังสือรับสภาพหนี้ก็มีผลโดยสมบรูณ์ทันที ศาลแขวงดุสิตจึงไม่ใช่ศาลที่มีเขตอำนาจ ศาลแขวงดุสิตจึงชอบที่จะพิพากษายกฟ้องเพื่อให้โจทก์นำคดีไปฟ้องต่อศาลที่มีเขตอำนาจต่อไป
การที่โจทก์ยื่นฟ้องจำเลยทั้งสองต่อศาลแพ่งและศาลแพ่งมีคำสั่งรับฟ้องไว้แล้ว ต่อมาศาลแพ่งมีคำสั่งให้โอนคดีมายังศาลแขวงดุสิตตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 16 วรรคสี่ และศาลแขวงดุสิตรับคดีไว้พิจารณา ไม่ถือว่าศาลแพ่งใช้ดุลพินิจรับคดีที่ไม่ได้อยู่ในเขตอำนาจไว้พิจารณาตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 16 วรรคสาม เพราะโจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องว่าคดีนี้ไม่อยู่ในเขตอำนาจของศาลแพ่ง ส่วนที่ศาลแขวงดุสิตรับคดีนี้ไว้พิจารณาก็เป็นไปตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 16 วรรคสี่ ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ศาลแขวงดุสิตใช้ดุลพินิจรับคดีนี้ไว้พิจารณาเอง