พบผลลัพธ์ทั้งหมด 33 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 60/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์รถยนต์โอนเมื่อทำสัญญาซื้อขาย ไม่ต้องโอนทะเบียน
รถยนต์ไม่ใช่ทรัพย์ที่อยู่ในบังคับตามมาตรา 456 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กรรมสิทธิ์ในรถยนต์ยอมโอนไปยังผู้ซื้อแต่ขณะทำสัญญาซื้อขายกันโดยมิต้องไปโอนทะเบียนส่วนการโอนทะเบียนรถยนต์ตามกฎหมาย เกี่ยวกับทะเบียนรถยนต์นั้น เป็นเรื่องเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่จะควบคุมยานพาหนะและภาษีรถยนต์ มิใช่แบบของนิติกรรมแต่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1507/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเสียสัญชาติไทยจากการถือใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว และผลของการต่ออายุทะเบียน
แม้โจทก์จะมีสัญชาติไทยเพราะเกิดในราชอาณาจักรไทยโดยมีบิดาเป็นคนต่างด้าวแต่โจทก์ได้รับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวซึ่งนายทะเบียนออกให้ตามพระราชบัญญัติการทะเบียนคนต่างด้าวพ.ศ.2479 มาตั้งแต่ พ.ศ.2489 และต่ออายุใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวติดต่อกันตลอดมา โจทก์จึงต้องเสียสัญชาติไทยตามมาตรา 21 แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2508
มาตรา 5 ซึ่งบัญญัติให้การเสียสัญชาติไทยมีผลต่อเมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาและให้มีผลเฉพาะตัวเท่านั้นเป็นบทบัญญัติในเรื่องผลของการเสียสัญชาติไทยว่ามีผลเมื่อใดเป็นคนละเรื่องกับการเสียสัญชาติไทยอันจะต้องพิจารณาตามมาตรา 21 เมื่อโจทก์ได้รับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนคนต่างด้าวแล้ว โจทก์จึงต้องเสียสัญชาติไทยไปตามมาตรา 21 แต่การเสียสัญชาติไทยของโจทก์จะมีผลต่อเมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว
เมื่อโจทก์บรรลุนิติภาวะไปก่อนพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2508 ใช้บังคับมาตรา 24ย่อมใช้บังคับไม่ได้ในกรณีของโจทก์
มาตรา 5 ซึ่งบัญญัติให้การเสียสัญชาติไทยมีผลต่อเมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาและให้มีผลเฉพาะตัวเท่านั้นเป็นบทบัญญัติในเรื่องผลของการเสียสัญชาติไทยว่ามีผลเมื่อใดเป็นคนละเรื่องกับการเสียสัญชาติไทยอันจะต้องพิจารณาตามมาตรา 21 เมื่อโจทก์ได้รับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนคนต่างด้าวแล้ว โจทก์จึงต้องเสียสัญชาติไทยไปตามมาตรา 21 แต่การเสียสัญชาติไทยของโจทก์จะมีผลต่อเมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว
เมื่อโจทก์บรรลุนิติภาวะไปก่อนพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2508 ใช้บังคับมาตรา 24ย่อมใช้บังคับไม่ได้ในกรณีของโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 961/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการยกเว้นโทษ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ เฉพาะปืนที่ยังไม่ได้รับอนุญาต ไม่รวมปืนที่มีทะเบียนแล้ว
พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2510 มาตรา 5, 6 ซึ่งบัญญัติให้ผู้มีอาวุธปืนบางชนิดซึ่งยังมิได้รับอนุญาตโดยชอบด้วยกฎหมายหรือยังมิได้รับอนุญาตโดยชอบด้วยกฎหมาย และไม่อาจอนุญาตได้ตามกฎหมายว่าด้วยอาวุธปืนฯ มาขอรับอนุญาตเพื่อปฏิบัติการให้ถูกต้องตามกฎหมายภายในกำหนดเวลาโดยไม่ต้องรับโทษนั้นหมายความถึงอาวุธปืนที่ยังไม่ได้รับอนุญาตโดยชอบด้วยกฎหมายเท่านั้น มิได้หมายความรวมถึงอาวุธปืนที่ได้รับอนุญาตโดยชอบด้วยกฎหมายอยู่แล้ว ฉะนั้น เมื่อได้ความว่าจำเลยมีอาวุธปืนที่มีทะเบียนของผู้อื่นไว้ในความครอบครองโดยไม่รับอนุญาตก็ไม่มีเหตุจะอ้างว่า จำเลยไม่ต้องรับโทษตามพระราชบัญญัติดังกล่าวได้
(เทียบฎีกาประชุมใหญ่ที่ 295/2513)
(เทียบฎีกาประชุมใหญ่ที่ 295/2513)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 372/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการยกเว้นโทษ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาตรา 5: อาวุธปืนที่มีทะเบียนแล้วไม่ได้รับการยกเว้น
พระราชบัญญัติอาวุธปืน (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2510 มาตรา 5 ซึ่งบัญญัติให้ผู้มีอาวุธปืนบางชนิด ซึ่งยังมิได้รับอนุญาตโดยชอบด้วยกฎหมายมาขอรับอนุญาตเพื่อปฏิบัติการให้ถูกต้องตามกฎหมายภายในกำหนดเวลาโดยไม่ต้องรับโทษนั้น หมายความถึงอาวุธปืนที่ยังไม่ได้รับอนุญาตโดยชอบด้วยกฎหมายเท่านั้น มิได้หมายความรวมถึงอาวุธปืนที่ได้รับอนุญาตโดยชอบด้วยกฎหมายอยู่แล้ว เมื่อจำเลยมีอาวุธปืนมีทะเบียนของบุคคลอื่นและกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจึงไม่มีเหตุที่จะอ้างว่า จำเลยไม่ต้องรับโทษตามพระราชบัญญัติดังกล่าวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 294/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการใช้กฎหมายอาวุธปืนฉบับแก้ไข: การครอบครองอาวุธปืนที่มีทะเบียนของผู้อื่น
พระราชบัญญัติอาวุธปืน (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2510 มาตรา 5 ซึ่งบัญญัติให้ผู้มีอาวุธปืนบางชนิดซึ่งยังมิได้รับอนุญาตโดยชอบด้วยกฎหมายมาขอรับอนุญาติเพื่อปฏิบัติการให้ถูกต้องตามกฎหมาย ภายในกำหนดเวลาโดยไม่ต้องรับโทษนั้น หมายความถึงอาวุธปืนที่ยังไม่ได้รับอนุญาตโดยชอบด้วยกฎหมายเท่านั้น มิได้หมายความรวมถึงอาวุธปืนที่ได้รับอนุญาตโดยชอบด้วย กฎหมายอยู่แล้ว ฉะนั้นเมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่า จำเลยมีอาวุธปืนที่มีทะเบียนของผู้อื่นไว้ในความครอบครองโดยไม่รับอนุญาต ก็ไม่มีเหตุที่จะอ้างว่าจำเลยไม่ต้องรับโทษตามพระราชบัญญัติดังกล่าวได้
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 3/2513)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 3/2513)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1431/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่เข้าข่ายต้องริบ หากปืนมีทะเบียนถูกต้อง
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32 เป็นเรื่องที่ให้ริบทรัพย์ชนิดที่กฎหมายบัญญัติว่าถ้าทำหรือมีไว้แล้วก็ต้องเป็นความผิด เมื่อปืนของกลางเป็นปืนที่มีทะเบียนถูกต้องจำเลยซึ่งมิใช่เจ้าของปืนนำมาครอบครองไว้ จึงคงเป็นความผิดในส่วนที่ตนมิได้รับอนุญาตเท่านั้น จึงไม่เข้าลักษณะตามมาตรา 32 อันจะพึงสั่งริบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1431/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต: ไม่เข้าข่ายริบทรัพย์ เพราะปืนมีทะเบียนถูกต้อง
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32 เป็นเรื่องที่ให้ริบทรัพย์ชนิดที่กฎหมายบัญญัติว่าถ้าทำหรือมีไว้แล้วก็ต้องเป็นความผิด. เมื่อปืนของกลางเป็นปืนที่มีทะเบียนถูกต้องจำเลยซึ่งมิใช่เจ้าของปืนนำมาครอบครองไว้. จึงคงเป็นความผิดในส่วนที่ตนมิได้รับอนุญาตเท่านั้น. จึงไม่เข้าลักษณะตามมาตรา 32 อันจะพึงสั่งริบ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 795/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่โจทก์ในการพิสูจน์การครอบครองอาวุธปืนผิดกฎหมาย: การที่โจทก์ไม่นำสืบหลักฐานแสดงว่าอาวุธปืนไม่มีทะเบียนและผู้ครอบครองไม่มีใบอนุญาต ส่งผลให้ศาลลงโทษฐานครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตไม่ได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีอาวุธปืนไม่มีทะเบียนและมิได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนและจำเลยให้อาวุธปืนนั้น จำเลยปฏิเสธตลอดข้อหา ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยใช้ปืนยิงขู่ ไม่มีเจตนาจะฆ่า เช่นนี้ เกี่ยวกับอาวุธปืนที่จำเลยใช้ยิงนั้น ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่เห็นว่า เป็นหน้าที่โจทก์ต้องนำสืบว่าปืนนั้นไม่มีทะเบียน และจำเลยไม่มีใบอนุญาต มิฉะนั้น ก็ลงโทษฐานมีอาวุธปืนไม่รับอนุญาตไม่ได้
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 15/2504
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 15/2504
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1611/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวและทรัพย์พอสมควรแก่เหตุ ทำให้ไม่ควรริบของกลาง แม้ไม่มีประเด็นเรื่องทะเบียน
ในคดีที่ฟ้องว่าจำเลยฆ่าคนโดยเจตนาและจับจำเลยได้พร้อมด้วยปืนและแมกกาซีนของกลาง เมื่อฟังว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันชีวิตและทรัพย์พอสมควรแก่เหตุ ไม่ควรรับอาญาแล้ว ก็ไม่ควรริบของกลาง เพราะคดีไม่มีประเด็นว่าของกลางมีทะเบียนหรือไม่ โจทก์มิได้บรรยายความมาในฟ้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 381/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมีปืนที่มีทะเบียนแต่ไม่มีอนุญาต: ไม่เป็นวัตถุผิดกฎหมายอันริบได้
จำเลยซื้อปืน ซึ่งมีทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายแล้ว มาไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำเลยคงมีผิดฐานมีปืนไว้โดยมิได้รับอนุญาต แต่ปืนของกลางเป็นปืนที่มีทะเบียนแล้วจึงไม่เป็นวัตถุผิดกฎหมายอันจะพึงริบตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 28(อ้างฎีกาที่ 23/2493)