พบผลลัพธ์ทั้งหมด 24 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1009/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมการลงนามเช็คพร้อมประทับตราบริษัท ไม่ต้องรับผิดส่วนตัว
กรรมการบริษัทจำกัดซึ่งมีอำนาจลงลายมือชื่อทำการแทนบริษัทจำกัดที่ตนเป็นกรรมการโดยต้องประทับตราสำคัญของบริษัทด้วยนั้น เช็คที่บริษัทเป็นผู้สั่งจ่ายโดยกรรมการลงชื่อสั่งจ่ายและได้ประทับตราสำคัญของบริษัทแล้ว แม้มิได้เขียนแถลงว่ากระทำแทนบริษัทก็ตามถือได้ว่ากรรมการบริษัทกระทำการในฐานะผู้แทนบริษัทจำกัดแล้วหรือกล่าวอีกนัยหนึ่งว่าบริษัทจำกัดนั้นเป็นผู้สั่งจ่ายเช็คนั้นเองกรรมการบริษัทไม่ต้องเป็นผู้รับผิดตามเนื้อความในเช็คนั้นเป็นส่วนตัว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2466/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีโดยกรรมการบริษัท การลงชื่อในคำฟ้องและการประทับตราบริษัท
กรรมการผู้จัดการบริษัทโจทก์ได้ลงชื่อในหนังสือมอบอำนาจให้ ส.เป็นผู้ฟ้องคดีหนังสือฉบับนี้ได้ประทับตราของบริษัทโจทก์แล้ว ส.ลงชื่อเป็นโจทก์ในคำฟ้องโดยไม่จำต้องประทับตราของบริษัทโจทก์อีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1295/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทุจริตออกเช็ค – การฟ้องคดีอาญาฐานออกเช็คโดยไม่มีเจตนาจะให้ใช้ได้ แม้ผู้รับเช็คไม่ขอให้ประทับตรา
การที่จำเลยออกเช็คลงวันที่ล่วงหน้าไปแล้ว ต่อมาจำเลยไปตกลงกับธนาคารว่า เช็คของจำเลยต้องประทับตราด้วยจึงจะจ่ายเงินได้ เมื่อเช็คที่จำเลยออกไปก่อนที่จะมีการตกลงกับธนาคารดังกล่าวถึงกำหนด โจทก์นำเช็คไปขึ้นเงินธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน โดยให้ประทับตราผู้สั่งจ่าย ทั้งจำเลยก็สั่งห้ามธนาคารจ่ายเงินตามเช็คประกอบกับจำเลยมีหนี้ตามเช็คเป็นยอดเงินอีกจำนวนมาก ซึ่งธนาคารไม่ยอมผ่านเช็คให้พฤติการณ์ถือได้ว่าจำเลยมีเจตนาทุจริต ข้อที่โจทก์มิได้ให้จำเลยประทับตราก่อน จึงไม่เป็นข้ออ้างตามกฎหมายที่จะให้จำเลยพ้นความรับผิด
โจทก์เป็นผู้ทรงเช็ค ครั้นเช็คถึงกำหนดโจทก์นำเช็คเข้าบัญชี เพื่อเรียกเก็บเงิน เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คไม่ว่าด้วยเหตุใด โจทก์มีสิทธิฟ้องจำเลยซึ่งเป็นผู้สั่งจ่ายได้
จำเลยออกเช็คสองฉบับชำระหนี้ เมื่อเช็คถึงกำหนดธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินทั้งสองฉบับ เป็นความผิดสองกระทง
ศาลล่างทั้งสองปรับบทลงโทษรวมกันมาเป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ศาลฎีกาเรียงกระทงลงโทษ แต่กำหนดโทษให้เป็นไปตามเดิมได้แม้โจทก์จะมิได้ฎีกา
โจทก์เป็นผู้ทรงเช็ค ครั้นเช็คถึงกำหนดโจทก์นำเช็คเข้าบัญชี เพื่อเรียกเก็บเงิน เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คไม่ว่าด้วยเหตุใด โจทก์มีสิทธิฟ้องจำเลยซึ่งเป็นผู้สั่งจ่ายได้
จำเลยออกเช็คสองฉบับชำระหนี้ เมื่อเช็คถึงกำหนดธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินทั้งสองฉบับ เป็นความผิดสองกระทง
ศาลล่างทั้งสองปรับบทลงโทษรวมกันมาเป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ศาลฎีกาเรียงกระทงลงโทษ แต่กำหนดโทษให้เป็นไปตามเดิมได้แม้โจทก์จะมิได้ฎีกา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 592/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าหน้าที่ป่าไม้ประทับตราไม้ผิดระเบียบ ทำให้เสียหาย มีเจตนาความผิดตามมาตรา 160
การที่จำเลยซึ่งเป็นผู้ช่วยป่าไม้จังหวัดประทับตราประจำตัวของจำเลย และประทับตราค่าภาคหลวงอันเป็นตราของทางราชการซึ่งจำเลยมีหน้าที่รักษาและใช้อำนาจหน้าที่ ที่ไม้ของกลาง 7 ท่อน เป็นไม้ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ตัดและฝ่าฝืนระเบียบของกรมป่าไม้ โดยมิได้ประทับตราประจำตัวพร้อมเลขเรียงลำดับท่อนภาคหลวงของไม้ท่อนที่ตัดทอนจากตอนั้น และเลขปี พ.ศ. ที่ประทับตราไว้ที่หน้าตัดของตอไม้ทุกตอ ทำให้กรมชลประทานและกรมป่าไม้เสียหายนั้น จำเลยจึงมีความผิดตามมาตรา 160 และการที่จำเลยประทับตราฝ่าฝืนระเบียบดังกล่าวของกรมป่าไม้ที่วางไว้เพื่อป้องกันการลักลอบตัดไม้อื่นแล้วนำมาสวมรอยอ้างว่าเป็นไม้ที่เจ้าหน้าที่ได้ตรวจคัดเลือกอนุญาตให้ตัด นั้น เป็นการกระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่ จำเลยย่อมเล็งเห็นผลเสียหายของการกระทำนั้นได้ และก็ได้เกิดความเสียหายขึ้นแล้ว จะอ้างว่า กระทำไปโดยสุจริตหรือกระทำไปด้วยความสำคัญผิดหาไม่ได้ ต้องถือว่าจำเลยมีเจตนากระทำความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 592/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าหน้าที่ป่าไม้ประทับตราไม้ผิดระเบียบ ทำให้รัฐเสียหาย มีเจตนาทุจริต
การที่จำเลยซึ่งเป็นผู้ช่วยป่าไม้จังหวัดประทับตราประจำตัวของจำเลย และประทับตราค่าภาคหลวงอันเป็นตราของทางราชการซึ่งจำเลยมีหน้าที่รักษาและใช้ตามอำนาจหน้าที่ที่ไม้ของกลาง 7 ท่อนเป็นไม้ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ตัดและฝ่าฝืนระเบียบของกรมป่าไม้โดยมิได้ประทับตราประจำตัวพร้อมเลขเรียงลำดับท่อนภาคหลวงของไม้ท่อนที่ตัดทอนจากตอนนั้นและเลขปี พ.ศ. ที่ประทับตราไว้ที่หน้าตัดของตอไม้ทุกตอ ทำให้กรมชลประทานและกรมป่าไม้เสียหายนั้น จำเลยจึงมีความผิดตาม มาตรา 160 และการที่จำเลยประทับตราฝ่าฝืนระเบียบดังกล่าวของกรมป่าไม้ที่วางไว้เพื่อป้องกันการลักลอบตัดไม้อื่นแล้วนำมาสวมรอยอ้างว่าเป็นไม้ที่เจ้าพนักงานได้ตรวจคัดเลือกอนุญาตให้ตัด นั้นเป็นการกระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่ จำเลยย่อมเล็งเห็นผลเสียหายของการกระทำนั้นได้ และก็ได้เกิดความเสียหายขึ้นแล้ว จะอ้างว่ากระทำไปโดยสุจริตหรือกระทำไปด้วยความสำคัญผิดหาได้ไม่ ต้องถือว่าจำเลยมีเจตนากระทำความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1463/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจผู้แทน-ความรับผิดบริษัท: เช็คสลักหลัง-ประทับตรา-ผู้แทนมีอำนาจ-บริษัทต้องรับผิด
บริษัทจำเลยมี ง.กับล.เป็นกรรมการอำนวยการย. เป็นรองผู้จัดการและเหรัญญิก ง. ติดต่อขอยืมเงินจากโจทก์โดยอ้างว่าบริษัทจำเลยต้องการเงิน โจทก์นำเงินที่จะให้ยืมมาพบกับ ง. ที่สำนักงานบริษัทจำเลย และขอให้ ง.ออกเช็คให้เพื่อเป็นการชำระหนี้เงินยืมนี้ง.บอกให้รอย. เมื่อย. มาแล้วย.ก็เอาเช็คที่ผู้อื่นออกให้แก่ผู้ถือมาประทับตราบริษัทจำเลยและเซ็นชื่อย. เองมอบให้โจทก์ โจทก์จึงมอบเงินยืมให้แก่ ย. ดังนี้ เมื่อตามข้อบังคับของบริษัทปรากฏว่า ง. โดยลำพังก็มีอำนาจลงลายมือชื่อเป็นสำคัญแทนบริษัทจำเลยได้โดยต้องประทับตราของบริษัทไว้ด้วย แสดงว่า ง. มีอำนาจกระทำการในฐานะผู้แทนโดยชอบของบริษัทจำเลยได้โดยลำพัง การที่ ง.ติดต่อยืมเงินและรู้เห็นในการที่ ย. เซ็นชื่อสลักหลังเช็คและประทับตราของบริษัทจำเลยนั้น ย่อมต้องถือว่าบริษัทจำเลยเป็นผู้ติดต่อยืมเงินและรู้เห็นเองด้วยจึงต้องถือว่าบริษัทจำเลยเชิด ย. ออกแสดงเป็นตัวแทนในการสลักหลังเช็ครายนี้ให้แก่โจทก์
ผู้แทนและเจ้าหน้าที่ของบริษัทอาศัยตำแหน่งหน้าที่แอบอ้างชื่อของบริษัทหาประโยชน์ใส่ตัว ถ้าบุคคลภายนอกมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยแล้ว บริษัทก็จะอ้างเอาการที่ผู้แทนของตนกระทำทุจริตมาบอกปัดความรับผิดต่อบุคคลภายนอกหาได้ไม่
ผู้แทนและเจ้าหน้าที่ของบริษัทอาศัยตำแหน่งหน้าที่แอบอ้างชื่อของบริษัทหาประโยชน์ใส่ตัว ถ้าบุคคลภายนอกมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยแล้ว บริษัทก็จะอ้างเอาการที่ผู้แทนของตนกระทำทุจริตมาบอกปัดความรับผิดต่อบุคคลภายนอกหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1504/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของกรรมการบริษัท: การลงลายมือชื่อประทับตราต้องเป็นไปตามข้อบังคับบริษัท
บริษัทจำกัดมีกรรมการ 8 นาย ในจำนวนนี้ได้ระบุไว้ 3 นายเป็นกรรมการจัดการ ในข้อบังคับของบริษัทมีกรรมการจัดการหนึ่งนายกับกรรมการอื่นอีกหนึ่งนายลงชื่อประทับตราบริษัทแทนบริษัทได้ ฉะนั้นกรรมการจัดการทั้งสามนายจะลงชื่อประทับตราบริษัทแต่งทนายฟ้องคดีแทนบริษัท โดยไม่มีกรรมการอื่นอีกหนึ่งนายลงชื่อด้วยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1300/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารรับรองหนี้ไม่เป็นใบรับเงิน อากรแสตมป์, การประทับตราแทนลายมือ, และอายุความเงินเกิน
เอกสารรับรองหนี้ที่ผู้ขายรับเงินไว้จากผู้ซื้อเกินกว่าราคาของที่ขายให้นั้น มิใช่เป็นใบรับเงินอันจะต้องปิดอากรแสตมป์ตาม ม.3 แห่ง พ.ร.บ.อากรแสตมป์ พ.ศ. 2475
การยื่นเอกสารโดยได้แปลข้อความมาเป็นพะยานนั้นถ้าอีกฝ่ายหนึ่งไม่คัดค้านว่าคำแปลนั้นไม่ถูกต้องแล้วฝ่ายที่ยื่นไม่จำต้องสืบพะยานบุคคลประกอบคำแปลเอกสารนั้น
เมื่อบุคคลทำการค้าขายโดยใช้ยี่ห้อและใช้ตรานามยี่ห้อประทับแทนการลงลายมือเป็นปกติ การประทับตราเช่นนั้น ก็เสมอกับลงลายมือชื่อของบุคคลนั้น
อ้างฎีกาที่ 645/2475,
ที่ 887/2479,
เงินที่ผู้ซื้อของจ่ายเกินไปกว่าราคาของให้แก่ผู้ขายนั้น ไม่ใช่เงินทดรองอันมีอายุความฟ้องร้องตาม ป.พ.พ.ม.165 ข้อ 1
การยื่นเอกสารโดยได้แปลข้อความมาเป็นพะยานนั้นถ้าอีกฝ่ายหนึ่งไม่คัดค้านว่าคำแปลนั้นไม่ถูกต้องแล้วฝ่ายที่ยื่นไม่จำต้องสืบพะยานบุคคลประกอบคำแปลเอกสารนั้น
เมื่อบุคคลทำการค้าขายโดยใช้ยี่ห้อและใช้ตรานามยี่ห้อประทับแทนการลงลายมือเป็นปกติ การประทับตราเช่นนั้น ก็เสมอกับลงลายมือชื่อของบุคคลนั้น
อ้างฎีกาที่ 645/2475,
ที่ 887/2479,
เงินที่ผู้ซื้อของจ่ายเกินไปกว่าราคาของให้แก่ผู้ขายนั้น ไม่ใช่เงินทดรองอันมีอายุความฟ้องร้องตาม ป.พ.พ.ม.165 ข้อ 1
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 276/2480
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประทับตราไม้ของตนบนไม้ของผู้อื่น ไม่ถือเป็นความผิดฐานปลอมแปลงเอกสาร
จำเลยเอาตรายี่ห้อซึ่งใช้สำหรับรับประทับไม้ของตนไปประทับไม้ของผู้อื่นเพื่อแสดงว่าเป็นไม้ของตนนั้น ไม่มีผิดฐานปลอมหนังสือ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 530/2474
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดในหนี้ที่เกิดจากการประทับตราโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีความประมาทเลินเล่อ
การที่บุคคลที่ 3 เขียนตั๋วแลลอบประทับตราของจำเลยแล้วนำไปซื้อของจาก โจทก์โดยไม่ได้รับอำนาจจากจำเลย แลทั้งมิใช่ความเลินเล่อของจำเลยในการระวังรักษาดวงตราดังนี้ จำเลยไม่ต้องรับผิดต่อ โจทก์
จำเลยบังคับอังกฤษ คู่ความฎีกาได้แต่ปัญหากฎหมาย
จำเลยบังคับอังกฤษ คู่ความฎีกาได้แต่ปัญหากฎหมาย