พบผลลัพธ์ทั้งหมด 14 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1752/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บาดแผลจากการทำร้ายร่างกายถึงขั้น 'บาดเจ็บ' ตามประมวลกฎหมายลักษณะอาญา แม้ไม่มีอาวุธหรือเลือดออก
บาดแผลถูกทำร้ายที่หน้าถึง 3 แห่ง คือ (1) ตรงขอบตาล่างข้างซ้ายกว้าง 1 ซ.ม.ยาว 2 ซ.ม. ฐานแผลช้ำบวมห้อเลือด (2) ตรงริมฝีปากล่างกว้าง 2 ซ.ม. ยาว 3 ซ.ม. ฐานแผลช้ำบวมห้อเลือด (3) ตรงขากันไกรข้างซ้ายกว้าง 1 ซ.ม. ยาว 3 ซ.ม. ช้ำบวมผิวหนังถลอก
ผู้ชันสูตรพิเคราะห์ เห็นว่ารักษาประมาณ 15 วันหาย ดังนี้ก็ถือว่าเป็นบาดแผลถึงบาดเจ็บตามก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 254 แล้ว
ผู้ชันสูตรพิเคราะห์ เห็นว่ารักษาประมาณ 15 วันหาย ดังนี้ก็ถือว่าเป็นบาดแผลถึงบาดเจ็บตามก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 254 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 626/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทำร้ายจนวิกลจริต ความผิดตามประมวลกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 254
การที่จำเลยเอาใบไม้เบื่อเมาปนในไข่ทอดให้เจ้าทุกข์กินจนมีอาการวิงเวียนคลื่นไส้เจ้าทุกข์คนหนึ่งซึ่งเป็นเด็กไม่ได้สติคล้ายเป็นบ้า อยู่ 15 ชั่วโมงจึงหาย ดังนี้นับว่าถึงวิกลจริต ต้องตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 254
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 986/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วิวาทสมัครใจทำร้ายร่างกายไม่ถึงบาดเจ็บ ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 338 (3)
ฟ้องของโจทก์กล่าวว่าจำเลยต่างสมัครใจวิวาททำร้ายซึ่งกันและกัน ถ้าฝ่ายใดทำร้ายอีกฝ่ายหนึ่งไม่ถึงบาดเจ็บ กรณีไม่เข้าบทมาตรา 338 (3) เพราะมิได้กระทำโดยบังอาจ จำเลยจึงยังไม่เป็นผิด
(อ้างฎีกา 697/2489)
(อ้างฎีกา 697/2489)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3018/2565
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปรับบทความผิดจาก พ.ร.บ.ยาเสพติด พ.ศ.2522 เป็นประมวลกฎหมายยาเสพติด และพิจารณาโทษตามพฤติการณ์
หลังจากจับกุมจำเลยพร้อมยึดเมทแอมเฟตามีนของกลาง 400 เม็ด ที่ล่อซื้อจากจำเลยบริเวณข้างบ้านที่เกิดเหตุ มีการตรวจค้นบริเวณบ้านที่เกิดเหตุแต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ในระหว่างนั้น จำเลยให้ข้อมูลว่ายังมีเมทแอมเฟตามีนซุกซ่อนฝังดินไว้พร้อมพาเจ้าพนักงานไปขุดพบเมทแอมเฟตามีนของกลาง 600 เม็ด บริเวณหลังบ้านที่เกิดเหตุ และขุดพบเมทแอมเฟตามีนของกลางอีก 1,000 เม็ด บริเวณไร่อ้อยห่างจากหลังบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 20 เมตร ทั้งเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองให้ข้อมูลว่า หากไม่ได้ข้อมูลจากจำเลย ก็จะไม่สามารถตรวจค้นเจอยาเสพติดของกลาง ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่ เห็นว่า หากจำเลยไม่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเมทแอมเฟตามีนที่จำเลยซุกซ่อนไว้และพาเจ้าพนักงานไปขุดพบเมทแอมเฟตามีนอีก 1,600 เม็ด เจ้าพนักงานคงไม่สามารถตรวจพบเมทแอมเฟตามีนดังกล่าวได้ ถือว่าจำเลยได้ให้ข้อมูลที่สำคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดต่อพนักงานฝ่ายปกครอง โดยหาจำต้องเป็นข้อมูลเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษหรือการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษรายอื่นไม่ และมิใช่เป็นกรณีที่จำเลยให้ความร่วมมือต่อเจ้าพนักงานเพื่อเป็นเหตุบรรเทาโทษที่เกิดจากการรู้สึกความผิด หรือลุแก่โทษต่อเจ้าพนักงานอันควรได้รับการลดโทษตามความแห่ง ป.อ. มาตรา 78 ศาลชอบที่จะใช้ดุลพินิจลงโทษจำเลยน้อยกว่าอัตราโทษขั้นต่ำที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 100/2