พบผลลัพธ์ทั้งหมด 29 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 176/2540
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพากษาคดีปล้นทรัพย์โดยอาศัยพยานหลักฐานที่ไม่น่าเชื่อถือและการชี้ตัวผู้ต้องหาที่มีพิรุธ
เหตุเกิดในเวลากลางคืนแม้บริเวณที่เกิดเหตุมีแสงไฟฟ้าแต่ก็อยู่คนละฟากถนนห่างจากจุดที่ว.จอดรถจักรยานยนต์ถึง13เมตรส่วนจุดที่ผู้เสียหายถูกทำร้ายและปลดทรัพย์อยู่ลึกเข้าไปในบริเวณป่าข้างทางไม่มีแสงสว่างส่องถึงคนร้ายเข้ามาล๊อกคอผู้เสียหายและว. ทางด้านหลังผู้เสียหายรับว่าขณะเกิดเหตุชุลมุนวุ่นวายส่วนว. ตกใจไม่ทันได้ฟังว่าคนร้ายพูดอะไรกับผู้เสียหายประกอบกับคนร้ายคนหนึ่งมีผ้าโพกศีรษะโอกาสที่ผู้เสียหายและว.จะเห็นหน้าคนร้ายได้ชัดเจนจึงมีน้อยมากทั้งพนักงานสอบสวนให้ผู้เสียหายและว. ดูตัวจำเลยก่อนการชี้ตัวดังนั้นการชี้ตัวของผู้เสียหายและว. จึงมีข้อพิรุธเมื่อไม่มีพยานโจทก์ปากใดรู้เห็นว่าจำเลยทั้งสามเป็นคนร้ายอีกและปรากฏว่าจำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธทั้งในชั้นสอบสวนและชั้นศาลพยานหลักฐานโจทก์จึงไม่พอฟังลงโทษจำเลยทั้งสาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 567/2539
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานหลักฐานพิรุธ ขาดอาวุธปืนและพยานยืนยันการยิง ศาลยกฟ้องคดีพยายามฆ่า
ขณะที่จำเลยจ้องอาวุธปืนสั้นไปที่หน้าอกของผู้เสียหายผู้เสียหายมิได้แสดงกิริยาหลบหลีกหรือป้องกันตัวให้พ้นจากการถูกจำเลยยิงเพียงแต่ก้าวถอยหลังเล็กน้อยถือได้ว่าเป็นการผิดวิสัยที่ผู้จะถูกคนร้ายยิงจะไม่หลบหลีกหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อป้องกันมิให้ตนเองถูกยิงขณะนั้น ท. พี่ชายของผู้เสียหายก็ยืนอยู่ใกล้กับจำเลยแต่ไม่ได้กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อป้องกันมิให้จำเลยยิงผู้เสียหายเพียงเข้าไปสอบถามว่าทำไมถึงทำอย่างนี้ถือได้ว่าเป็นการผิดวิสัยเช่นกันพฤติการณ์ของผู้เสียหายและ ท. ทำให้เป็นที่น่าระแวงสงสัยว่าจำเลยจะได้ใช้อาวุธปืนสั้นจ้องยิงผู้เสียหายจริงหรือไม่และเมื่อพิจารณาจากคำเบิกความของจ่าสิบตำรวจ อ. ว่าเมื่อพยานไปถึงที่เกิดเหตุได้พูดคุยกับจำเลยและเจ้าของร้านค้าที่เกิดเหตุประมาณ10นาทีแต่ไม่มีผู้ใดแจ้งต่อพยานว่าจำเลยได้ใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายอีกทั้งเจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยที่บ้านจำเลยในคืนนั้นห่างจากเวลาเกิดเหตุไม่นานแต่ไม่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานตำรวจค้นพบอาวุธปืนของกลางจึงเป็นพิรุธอีกประการหนึ่งพยานหลักฐานของโจทก์มีพิรุธหลายประการเป็นที่น่าเคลือบแคลงสงสัยรับฟังลงโทษจำเลยตามฟ้องไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1550/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญากู้เงินพิรุธ พยานหลักฐานโจทก์ขัดแย้งกันเอง ศาลไม่รับฟังว่ามีการกู้ยืมจริง
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 กู้เงินโจทก์ไป มีจำเลยที่ 2เป็นผู้ค้ำประกันถึงกำหนดแล้ว จำเลยที่ 1 ไม่ชำระหนี้คืนโจทก์ ขอให้จำเลยที่ 1 ชำระพร้อมดอกเบี้ย หากจำเลยที่ 1ไม่ชำระ ให้จำเลยที่ 2 ชำระแทน จำเลยที่ 1มิได้ยื่นคำให้การ ส่วนจำเลยที่ 2 ก็ให้การเพียงว่าสัญญาค้ำประกันเป็นสัญญาปลอมจึงไม่มีประเด็นข้อพิพาทว่าสัญญากู้เงินเป็นสัญญาปลอมหรือไม่ ปัญหาว่าสัญญากู้เงินเป็นสัญญาปลอมหรือไม่ จึงเป็นข้อเท็จจริงที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้น คดีแพ่งที่จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาศาลจะวินิจฉัยชี้ขาดคดีให้โจทก์เป็นฝ่ายชนะได้ต่อเมื่อข้ออ้างของโจทก์มีมูลและไม่ขัดต่อกฎหมาย ปัญหาว่าพยานหลักฐานโจทก์ฟังได้หรือไม่ว่าจำเลยที่ 1 ได้กู้ยืมเงินโจทก์จำนวน 80,000 บาท ตามสัญญากู้เงินตามฟ้องหรือไม่นั้นเมื่อพยานหลักฐานโจทก์มีข้อพิรุธหลายประการไม่มีน้ำหนักให้รับฟังว่าจำเลยที่ 1 ได้กู้ยืมเงินโจทก์จำนวน 80,000 บาทและทำสัญญากู้เงินซึ่งมีข้อความครบถ้วนแล้วจำเลยที่ 1 จึงไม่ต้องรับผิดชำระเงินตามสัญญากู้เงินดังกล่าวแก่โจทก์ เมื่อจำเลยที่ 1 ผู้กู้ไม่ต้องรับผิดตามสัญญากู้ จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันการชำระหนี้ของจำเลยที่ 1จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ด้วย โดยไม่จำต้องวินิจฉัยว่าสัญญาค้ำประกันเป็นสัญญาปลอมหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1923/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวางเพลิงทำลายเอกสารราชการโดยมีพิรุธจากพฤติการณ์และการถูกฟ้องคดีก่อนหน้า
วันเกิดเหตุซึ่งเป็นเวลาใกล้ชิดกับเหตุเพลิงไหม้ จำเลยเป็นคนสุดท้ายที่เปิดประตูเข้าไปในสำนักงานที่ดิน โดยเข้าออกหลังเลิกงานซึ่งมีการปิดประตูหน้าต่างเรียบร้อยแล้วและเป็นเวลาก่อนเกิดเหตุไม่นาน ก่อนเกิดเหตุจำเลยถูกราษฎรฟ้องคดีอาญาฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการออก น.ส.3 ทับที่ดินผู้อื่น จำเลยย่อมต้องได้รับความเดือดร้อนจากการปฏิบัติหน้าที่อันเกี่ยวกับการมีอยู่ของเอกสารบางฉบับซึ่งอยู่ในความครอบครองของทางราชการ นับแต่จำเลยถูกฟ้องเป็นต้นมาจำเลยมีพฤติการณ์เข้าไปมีส่วนได้เสียกับแผนที่ระวาง ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญเกี่ยวข้องกับการออก น.ส.3 การเผาทำลายเอกสารครั้งนี้ย่อมเล็งเห็นเจตนาของผู้กระทำได้ว่ามุ่งหมายจะทำลายเอกสารทั้งหมด เพื่อไม่ต้องการให้เอกสารฉบับใดฉบับหนึ่ง ใช้เป็นพยานหลักฐานยันตนในการกระทำอันฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ประกอบกับพฤติการณ์ของจำเลยที่เข้าไปในสำนักงานที่ดินเป็นคนสุดท้ายก่อนเกิดเพลิงไหม้ไม่นาน แม้โจทก์จะไม่มีประจักษ์พยานยืนยันว่าจำเลยเป็นผู้วางเพลิง แต่จากพยานแวดล้อมกรณีมีน้ำหนักมั่นคงฟังได้ว่าจำเลยเป็นผู้วางเพลิงเผาทรัพย์รายนี้เป็นเหตุให้ ส.ค.1 ประมาณ 30 แฟ้มและเพดานห้องบางส่วนบนอาคารสำนักงานที่ดินได้รับความเสียหาย จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 218
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1249/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยิงทำร้ายผู้เสียหายโดยบันดาลโทสะจากเหตุข่มเหงน้ำใจ และพิรุธในการให้การของจำเลย
วันเวลาเกิดเหตุจำเลยนอนเฝ้าห้างนาเพียงคนเดียว ผู้เสียหายซึ่งเป็นสามีได้ไปดื่มสุรากับเพื่อน เพิ่งไปหาจำเลยเมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืน ทั้งยังได้บอกให้จำเลยไปหาข้าวมาให้รับประทานจำเลยต้องเดินไปเอาข้าวที่บ้านซึ่งอยู่ห่างห้างนาประมาณ 3 เส้นเมื่อเอามาให้แล้ว ผู้เสียหายไม่ยอมรับประทาน กลับบ่นว่าจำเลยและยังพูดถึงภรรยาน้อยอีกด้วย การกระทำของผู้เสียหายถือเป็นการข่มเหงน้ำใจอย่างร้ายแรง ด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม การที่จำเลยได้ใช้ปืนยิงผู้เสียหายในขณะนั้น จึงเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 93/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานหลักฐานโจทก์ไม่เพียงพอและมีพิรุธ ศาลยกฟ้องคดีอาญา ฆ่าผู้อื่น
ประจักษ์พยานโจทก์ทั้งสองปากเบิกความเป็นพิรุธ ขัดต่อเหตุผลเมื่อจับจำเลยได้แล้วพนักงานสอบสวนก็มิได้จัดให้พยานชี้ ตัวยืนยัน นอกจากนี้โจทก์คงมีเพียงคำรับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวนโดยไม่มีพยานเหตุผลแวดล้อมอื่น ๆ ประกอบให้เห็นว่าจำเลยเป็นคนร้าย ทั้งคำให้การชั้นสอบสวนดังกล่าวก็ยังมีข้อโต้แย้งของจำเลยว่าไม่ได้ให้การด้วยความสมัครใจ พยานหลักฐานของโจทก์ จึงไม่มีน้ำหนักมั่นคงพอที่จะรับฟังลงโทษจำเลยได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5719/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
รับของโจร: การกระทำเร่งรีบรื้อย้ายคอกหมูเมื่อถูกทักท้วง แสดงพิรุธรับรู้ว่าไม้เป็นของที่ได้มาโดยมิชอบ
ไม้ของกลางของผู้เสียหายได้หายไป ผู้เสียหายพบว่าไม้ที่หายถูกนำไปใช้ทำคอกหมูของจำเลย จึงขอคืนจากจำเลย จำเลยไม่ยอมคืนให้ขณะผู้เสียหายไปแจ้งความจำเลยรีบรื้อคอกหมูและขนย้ายไม้ดังกล่าวของผู้เสียหายไป แสดงว่าจำเลยรับไม้ดังกล่าวไว้จากคนร้ายโดยรู้ว่าเป็นไม้ที่ถูกลักมา การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานรับของโจร.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4974/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับสารภาพชั้นสอบสวนต้องมีพยานหลักฐานประกอบ หากพยานประกอบมีพิรุธหรือไม่น่าเชื่อถือ ศาลไม่สามารถนำมาลงโทษจำเลยได้
การรับฟังคำรับสารภาพชั้นสอบสวนซึ่งจำเลยปฏิเสธชั้นศาลมาใช้ลงโทษจำเลยโจทก์ต้องมีพยานประกอบว่าจำเลยกระทำผิดจริงและพยานประกอบนั้นมิใช่มีเพียงคำเบิกความของพนักงานสอบสวนผู้สอบสวนคำรับสารภาพเท่านั้น คดีนี้พยานประกอบของโจทก์คือ ด. ซึ่งอาจตกเป็นผู้ต้องหาร่วมกับจำเลย ด. อาจซัดทอดจำเลยเพื่อให้ตนพ้นจากการตกเป็นผู้ต้องหาก็ได้ คำเบิกความของ ด. จึงมีน้ำหนักน้อยพยานหลักฐานของโจทก์ไม่มีน้ำหนักพอที่จะลงโทษจำเลยตามฟ้องได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1937/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
รับของโจร: การกระทำที่แสดงถึงความรู้ว่าทรัพย์เป็นของที่ได้มาจากการลักทรัพย์
จำเลยรู้ว่ายางพาราแผ่นของกลางเป็นทรัพย์ที่คนร้ายไปลักมาแล้วนำไปซ่อน ไว้ การที่จำเลยลงมือเก็บยางพาราแผ่นเตรียมขนไปจึงเป็นการช่วย พาเอาไปเสียซึ่ง ทรัพย์ที่ได้ มา จากการลักทรัพย์จำเลยจึงมีความผิดฐาน รับของโจร.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1167/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกฟ้องคดีสุราเนื่องจากพยานหลักฐานโจทก์มีพิรุธและขัดแย้งกัน
เมื่อความผิดฐานมีสุรากลั่นไว้ในครอบครอง ฐานมีสุราแช่ไว้ในครอบครอง และฐานทำสุราแช่โดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 มาตรา 22 ประกอบกับพระราชบัญญัติให้นำวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงมาใช้บังคับในศาลจังหวัดพ.ศ. 2520 มาตรา 3 แม้ผู้พิพากษาที่ลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ก็ตาม จำเลยก็ไม่มีสิทธิฎีกาในข้อหาดังกล่าว แต่เมื่อศาลฎีกาวินิจฉัยข้อหาความผิดฐานมีภาชนะเครื่องต้มกลั่นสำหรับทำสุราไว้ในครอบครองและฐานทำสุรากลั่นโดยไม่ได้รับอนุญาตซึ่งจำเลยมีสิทธิฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้แล้วเห็นว่าพยานหลักฐานของโจทก์ฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำความผิดศาลฎีกาย่อมมีอำนาจยกฟ้องโจทก์ในข้อหาความผิดฐานมีสุรากลั่นไว้ในครอบครองฐานมีสุราแช่ไว้ในครอบครอง และฐานทำสุราแช่โดยไม่ได้รับอนุญาตได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 185เพราะเป็นข้อเท็จจริงอันเกี่ยวพันกัน