คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
มาตรา 72

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 23 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 927/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำโดยบันดาลโทสะจากเหตุข่มเหงอย่างร้ายแรง ลดโทษอาญา มาตรา 72
ผู้ตายเป็นทหาร จำเลยมีอายุกว่าสิบเจ็ดปีมีอายุน้อยกว่าคนอื่น ๆ ในหมู่นั้นก่อนเกิดเหตุผู้ตายขอยืมปืนจำเลยไปเที่ยว แต่จำเลยไม่ให้ผู้ตายกับจำเลยเถียงกัน มีคนบอกให้ผู้ตายกลับไปเสีย ผู้ตายก็กลับไป แต่แล้วกลับย้อนตามจำเลยมาอีกพร้อมกับพูดว่า พวกมึงแน่สักแค่ไหน กูรู้ไต๋อยู่ แล้วผู้ตายวิ่งเข้ามาใกล้จำเลย จำเลยยิงปืนขึ้นฟ้า 1 นัด และวิ่งหนีผู้ตาย ผู้ตายยังวิ่งไล่กับได้ร้องด่าด้วย ดังนี้พฤติการณ์ถือได้ว่า จำเลยถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม ฉะนั้น การที่จำเลยใช้ปืนยิงผู้ตาย จึงเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ ควรลงโทษจำเลยให้น้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 689/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บันดาลโทสะจากการถูกข่มเหง: การลดโทษอาญา มาตรา 72
ผู้ตายพูดก้าวร้าวจำเลยว่า ได้เตะพ่อจำเลย แล้วพูดยั่วจำเลยต่อไปว่า 'กูแก่แล้วใครเตะพ่อกูละก็ต้องเคืองกัน' นายเที่ยงพูดห้ามผู้ตาย ผู้ตายด่านายเที่ยงและยิงปืนเข้าไประหว่างจำเลยกับนายเที่ยงแต่ไม่ถูกผู้ใดผู้ตายใช้ปืนตีนายเที่ยง จำเลยร้องห้าม ผู้ตายหันมาหาจำเลยและใช้ปืนตีจำเลยจำเลยยิงปืนไป 1 นัดไม่ถูกใคร ผู้ตายหันหลังเดินผละออกมาได้ 1 วา จำเลยก็ยิงผู้ตายพฤติการณ์เช่นนี้แสดงว่าจำเลยได้ยิงผู้ตายเพราะบันดาลโทสะโดยถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุไม่เป็นธรรมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 865/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบันดาลโทสะจากการถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงและการลดโทษตามมาตรา 72
จำเลยได้ออกเงินค่าสุรา แต่ผู้ตายเอาเงินนั้นใส่กระเป๋าเสีย กินสุรากันหมดครึ่งขวด ผู้ตายก็กลับ เอาสุราที่เหลือไปด้วย เจ้าของร้านมาทวงค่าสุรา จำเลยบอกว่าได้ออกไปแล้วและอยู่ที่ผู้ตาย เจ้าของร้านให้จำเลยไปตามมาให้ จำเลยตามไปทันผู้ตายและพูดว่าเงินค่าสุรายังไม่ได้ให้เขา ผู้ตายพูดว่า กูไม่ได้เอาเงินของมึงมา ไม่รู้พูดแล้วผู้ตายก็เหวี่ยงขวด สุราตีจำเลย จำเลยหลบ ไม่ถูก ขวดสุราหลุดมือผู้ตายเข้าป่าไป ทันทีนี้จำเลยแทงผู้ตายด้วยกฤชถูกที่กระดูกไหปลาร้าขวา และผู้ตายได้ถึงแก่ความตายได้ถึงแก่ความตายด้วยพิษบาดแผล ดังนี้ถือว่า ผู้ตายเป็นผู้ก่อเหตุก่อน ได้ยั่วให้จำเลยบันดาลโทสะ พฤติการณ์ถือได้ว่า จำเลยบันดาลโทสะ เพราะถูกผู้ตายข่มเหง อย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมจำเลยจึงควรได้รับการลงโทษน้อยลงตามมาตรา 72

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 711/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าโดยเจตนา แต่ได้รับการพิจารณาจากเหตุข่มเหงอย่างร้ายแรงและบันดาลโทสะตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72
ก่อนเกิดเหตุราว 1 ชั่วโมง ผู้ตายกับจำเลยเล่นการพนันกัน ผู้ตายหาว่าจำเลยไม่ยอมให้เสียการพนันเป็นเงิน 1 บาท เกิดโต้เถียงกันแล้วก็เลิกกันไป ต่อมาขณะจำเลยอยู่ที่เพิงซึ่งเป็นที่อยู่ของจำเลย ผู้ตายเมาสุรามาที่เพิงและด่าแม่จำเลย จำเลยโกรธจึงได้ใช้มีดดาบฟันแขนผู้ตาย 1 ที และแทงถูกเหนือนมขวาผู้ตายอีก 1 ที ผู้ตายถึงแก่ความตาย พอถือได้ว่าจำเลยได้ถูกข่มเหงอย่างร้ายแรง ด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม ตามประมวลกฎหมาย อาญา มาตรา 72 (อ้างฎีกาที่ 409/2498)
ในคดีอาญา ฟ้องในข้อหาว่าฆ่าคนโดยเจตนา จำเลยต่อสู้ว่าป้องกันตัว ไม่ได้ต่อสู้ในข้อบันดาลโทสะ เมื่อข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายที่ปรากฏในสำนวน แม้จะไม่มีประเด็นในข้อบันดาลโทสะมาสู่ศาล ศาลอุทธรณ์ก็ย่อมมีอำนาจวินิจฉัยในทางที่เป็นคุณแก่จำเลยได้ เสมอ เพราะถือว่า เกี่ยวแก่ความสงบเรียบร้อยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 (อ้างฎีกาที่ 1818/2499)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 472/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษจำคุกเดิมและการพิจารณาโทษที่รอการลงโทษตามมาตรา 42 และ 72
จำเลยเคยต้องคำพิพากษาให้จำคุกและปรับ แต่โทษจำคุกรอการลงอาญาไว้ เช่นนี้ ศาลจะเพิ่มโทษจำเลยในคดีหลังตามมาตรา 42 ที่แก้ไขใหม่ไม่ได้เพราะไม่ได้ระบุไว้เป็นพิเศษเช่นของเดิมและจะเพิ่มโทษตามมาตรา 72 ก็ไม่ได้ เพราะโทษที่รอไว้ยังไม่ได้รับจริง ไม่เรียกว่าพ้นโทษไปแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 403/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการเพิ่มโทษจำคุกตามมาตรา 72 และการลดโทษตามมาตรา 36 แห่ง ก.ม.ลักษณะอาญา
ตามมาตรา 36 แห่ง ก.ม.ลักษณะอาญาที่ว่าจะเพิ่มโทษจำคุกจำเลย ให้จำเลยต้องจำคุกเกินกว่า 20 ปีไม่ได้นั้น ถ้าศาลวางโทษจำคุก 20 ปี เพิ่มโทษขึ้นไปแล้ว ลดลงคงจำคุกไม่เกินกว่า 20 ปี ดังนี้ ย่อมทำได้ไม่ต้องห้ามตามมาตรา 36

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1506/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษและลดโทษสำหรับผู้กระทำผิดอายุไม่เกิน 20 ปี มาตรา 58 ทวิ และ 72 ใช้หักกลบลบกันไม่ได้
มาตรา 58 ทวิแห่ง ก.ม.ลักษณะอาญา เป็นองคโทษอย่างเดียวกับมาตรา 60 จะนำมาหักกลบลบกับโทษที่เพิ่มตามมาตรา 72 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1857/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษจำเลยตามมาตรา 72 กรณีรอการลงอาญา: ศาลฎีกาตัดสินว่าไม่สามารถเพิ่มโทษได้หากจำเลยยังไม่ได้รับโทษจำคุก
พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม ก.ม.ลักษณะอาญา ( ฉะบับที่ 14 ) 2494 ซึ่งมีความตอนหนึ่งว่า " ให้...บวกโทษที่รอการลงอาญาไว้ในคดีก่อนเข้ากับโทษในคดีหลัง " นั้น ความตอนนี้ย่อมมีความมุ่งหมายเช่นเดียวกับมาตรา 42 ของเดิมนั้นเอง คือให้ลงโทษที่รอการอาญาไว้ในคดีก่อนเป็นโสดหนึ่งต่างหากจากโทษที่จำเลยจะต้องรับสำหรับความผิดครั้งหลัง
แต่ในเรื่องเพิ่มโทษตามมาตรา 72 นั้น ในกรณีรอการลงอาญา มาตรา 42 ที่แก้ไขใหม่ หาได้บัญญัติไว้เป็นพิเศษให้เพิ่มโทษได้ดุจมาตรา 42 ของเดิมไม่ ฉะนั้นเมื่อในคดีเดิมถูกรอการลงอาญาไว้ จำเลยจึงหาได้ถูกจำคุกและพ้นโทษจำคุกในคดีก่อนแล้วมากระทำผิดในคดีใหม่นี้อีกไม่ จึงจะเพิ่มโทษจำเลยมาตรา 72 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1697/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษจำเลยฐานกระทำผิดซ้ำ โดยพิจารณาจากประวัติโทษและมาตรา 72 แทนมาตรา 74
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายหลายบทหลายกะทง ตามคำบรรยายฟ้องเกี่ยวกับขอให้เพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบนั้น กล่าวว่าจำเลยเคยถูกศาลพิพากษาลงโทษมาแล้วตามใบแดงแจ้งโทษท้ายฟ้อง พ้นโทษครั้งหลังมายังไม่เกิน 5 ปี ก็กลับมากระทำผิดในคดีนี้อีก ย่อมหมายความถึงความผิดทุกกะทง แม้โจทก์จะอ้างมาตรา 74 เมื่อศาลเห็นว่าความผิดกะทงใดเพิ่มโทษตามมาตรา 74 ไม่ได้ ก็ชอบที่จะเพิ่มตามมาตรา 72 ซึ่งเป็นบทเบากว่าได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1697/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบ แม้ไม่ขอตามมาตรา 74 ก็เพิ่มตามมาตรา 72 ได้
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายหลายบทหลายกระทงตามคำบรรยายฟ้องเกี่ยวกับขอให้เพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบนั้น กล่าวว่าจำเลยเคยถูกศาลพิพากษาลงโทษมาแล้วตามใบแดงแจ้งโทษท้ายฟ้อง พ้นโทษครั้งหลังมายังไม่เกิน 5 ปี ก็กลับมากระทำผิดในคดีนี้อีก ย่อมหมายความถึงความผิดทุกกระทง แม้โจทก์จะอ้างมาตรา 74 เมื่อศาลเห็นว่าความผิดกระทงใดเพิ่มโทษตามมาตรา 74 ไม่ได้ ก็ชอบที่จะเพิ่มตามมาตรา 72 ซึ่งเป็นบทเบากว่าได้
of 3