คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
รอการลงอาญา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 39 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1004/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงโทษจากจำคุกเป็นรอการลงอาญา และการไม่ขัดขวางสิทธิในการฎีกา
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย 1 ปี 4 เดือน โดยไม่รอการลงอาญา ศาลอุทธรณ์แก้ให้รอการลงอาญา เป็นการแก้มากไม่ต้องห้ามฎีกาข้อเท็จจริงตามมาตรา 218

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1859/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษคดีหลังเมื่อมีโทษคดีก่อนรอการลงอาญา: มาตรา 72 และ 42 แก้ไขเพิ่มเติม
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายลักษณะอาญา(ฉบับที่ 14)2494ซึ่งมีความตอนหนึ่งว่า "ให้....บวกโทษที่รอการลงอาญาไว้ในคดีก่อนเข้ากับโทษในคดีหลัง" นั้น ความตอนนี้ย่อมมีความมุ่งหมายเช่นเดียวกับมาตรา 42 ของเดิมนั้นเอง คือให้ลงโทษที่รอการลงอาญาไว้ในคดีก่อนเป็นโสดหนึ่งต่างหากจากโทษที่จำเลยจะต้องรับสำหรับความผิดครั้งหลัง
แต่ในเรื่องเพิ่มโทษตามมาตรา 72 นั้น ในกรณีรอการลงอาญา มาตรา 42 ที่แก้ไขใหม่ หาได้บัญญัติไว้เป็นพิเศษให้เพิ่มโทษได้ดุจมาตรา 42 ของเดิมไม่ฉะนั้นเมื่อโทษในคดีเดิมถูกรอการลงอาญาไว้ จำเลยจึงหาได้ถูกจำคุกและพ้นโทษจำคุกในคดีก่อนแล้วมากระทำผิดในคดีใหม่นี้อีกไม่ จึงจะเพิ่มโทษจำเลยตามมาตรา 72 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1857/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษจำเลยตามมาตรา 72 กรณีรอการลงอาญา: ศาลฎีกาตัดสินว่าไม่สามารถเพิ่มโทษได้หากจำเลยยังไม่ได้รับโทษจำคุก
พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม ก.ม.ลักษณะอาญา ( ฉะบับที่ 14 ) 2494 ซึ่งมีความตอนหนึ่งว่า " ให้...บวกโทษที่รอการลงอาญาไว้ในคดีก่อนเข้ากับโทษในคดีหลัง " นั้น ความตอนนี้ย่อมมีความมุ่งหมายเช่นเดียวกับมาตรา 42 ของเดิมนั้นเอง คือให้ลงโทษที่รอการอาญาไว้ในคดีก่อนเป็นโสดหนึ่งต่างหากจากโทษที่จำเลยจะต้องรับสำหรับความผิดครั้งหลัง
แต่ในเรื่องเพิ่มโทษตามมาตรา 72 นั้น ในกรณีรอการลงอาญา มาตรา 42 ที่แก้ไขใหม่ หาได้บัญญัติไว้เป็นพิเศษให้เพิ่มโทษได้ดุจมาตรา 42 ของเดิมไม่ ฉะนั้นเมื่อในคดีเดิมถูกรอการลงอาญาไว้ จำเลยจึงหาได้ถูกจำคุกและพ้นโทษจำคุกในคดีก่อนแล้วมากระทำผิดในคดีใหม่นี้อีกไม่ จึงจะเพิ่มโทษจำเลยมาตรา 72 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1595/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงโทษทางอาญาโดยศาลอุทธรณ์และการพิจารณาการรอการลงอาญา
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 252 โดยให้จำคุก 2 ปี ปรับ 400 บาท ลดฐานปรานีกึ่งหนึ่งคงจำคุก 1 ปี ปรับ 200 บาทโทษจำคุกให้รอการลงอาญาไว้ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำคุก3 ปี ลดฐานปรานีกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี 6 เดือนไม่รอการลงอาญา ดังนี้ ถือว่าแก้มากคู่ความฎีกาในข้อเท็จจริงได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 858/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษจำเลยที่เคยต้องโทษและรอการลงอาญา การลงโทษซ้ำและการไม่พ้นโทษเดิม
ครั้งแรกจำเลยต้องโทษฐานทำร้ายร่างกาย ตาม ก.ม. ลักษณะอาญามาตรา 254 ศาลจำคุก 15 วัน ปรับ 20 บาท โทษจำคุกรอการลงอาญาไว้ครั้งที่สอง ต้องโทษฐานชิงทรัพย์แต่หลบหนีการควบคุม มากระทำผิดฐานชิงทรัพย์อีกเป็นครั้งที่สามได้ยกเอาโทษจำคุกที่รอไว้ในครั้งแรกมาลงแก่จำเลยด้วย แต่จำเลยก็ยังไม่ได้พ้นจากโทษจำคุกนั้นไปจึงจะเพิ่มโทษจำเลยตามมาตรา 72 ในความผิดครั้งที่สามไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 858/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษจำเลยในความผิดซ้ำ: โทษจำคุกรอการลงอาญาไม่ถือว่าพ้นโทษ
ครั้งแรกจำเลยต้องโทษฐานทำร้ายร่างกายตาม กฎหมายลักษณะอาญามาตรา 254 ศาลจำคุก 15 วัน ปรับ 20 บาท โทษจำคุกรอการลงอาญาไว้ครั้งที่สอง ต้องโทษฐานชิงทรัพย์แต่หลบหนีการควบคุม มากระทำผิดฐานชิงทรัพย์อีกเป็นครั้งที่สาม แม้ในการลงโทษครั้งที่ 2 นั้น ศาลได้ยกเอาโทษจำคุกที่รอไว้ในครั้งแรกมาลงแก่จำเลยด้วย แต่จำเลยก็ยังมิได้พ้นจากโทษจำคุกนั้นไปจึงจะเพิ่มโทษจำเลยตามมาตรา 72 ในความผิดครั้งที่สามไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 515/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฉ้อโกงโดยสมคบกันหลอกลวงผู้เสียหายให้จำนองทรัพย์สินที่จำนองไปแล้ว ศาลฎีกาให้รอการลงอาญาผู้ต้องหาที่เป็นหญิงมีบุตรเล็ก
ผู้ที่รับจำนองร้านค้าไว้จนหลุดเป็นสิทธิของตน แล้วได้ร่วมคิดกับผู้จำนอง เอาร้านค้านั้นไปจำนองผู้เสียหายอีกและพูกรับรองว่า ร้านค้านั้นไม่ได้จำนองหรือขายฝากไว้กับผู้ใด ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงรับจำนองไว้ และชำระเงินให้ผู้รับจำนองเดิม ดังนี้ ถือว่าผู้รับจำนองเดิมสมคบกับผู้จำนองฉ้อโกงผู้เสียหาย
ดุลยพินิจในการรอการลงอาญาจำเลยที่เป็นหญิงมีบุตรอ่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 515/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฉ้อโกงโดยร่วมกันหลอกลวงจำนองทรัพย์สินที่ตนมีสิทธิอยู่แล้ว ศาลให้รอการลงอาญาผู้หญิงมีบุตรอ่อน
ผู้ที่รับซื้อฝากร้านค้าไว้จนหลุดเป็นสิทธิของตนแล้วได้ร่วมคิดกับผู้ขายฝากเอาร้านค้านั้นไปจำนองผู้เสียหายอีกและพูดรับรองว่า ร้านค้านั้นไม่ได้จำนองหรือขายฝากไว้กับผู้ใด ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงรับจำนองไว้ และชำระเงินให้ผู้รับซื้อฝาก ดังนี้ถือว่าผู้รับซื้อฝากสมคบกับผู้จำนองฉ้อโกงผู้เสียหาย
เมื่อโจทก์ถอนฟ้องไม่ดำเนินคดีเอาโทษฐานฉ้อโกงแก่ผู้จำนองซึ่งกระทำผิดและปรากฏว่าผู้รับซื้อฝาก ซึ่งร่วมกระทำผิดด้วยเป็นหญิงมีบุตรอ่อนเห็นควรให้รอการลงอาญาแก่ผู้รับซื้อฝากตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 41,42, ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 344/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรอการลงอาญาและการเปิดเผยประวัติโทษจำเลย การเบิกความต่อศาลถือเป็นหลักฐาน
ในฟ้องโจทก์และคำให้การของจำเลยไม่มีปรากฏว่า จำเลยเคยต้องโทษมาแล้วหรือไม่ ต่อเมื่อจำเลยเบิกความเป็นพะยานตนเอง จำเลยเบิกความว่าเคยต้องโทษมาแล้ว เช่นนี้ศาลย่อมฟังว่าจำเลยเคยต้องโทษมาแล้วคดีจึงรอการลงอาญาจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 344/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรอการลงอาญาถูกเพิกถอนเมื่อปรากฏประวัติเคยต้องโทษจากคำเบิกความพยาน
ในฟ้องโจทก์และคำให้การของจำเลยไม่มีปรากฏว่า จำเลยเคยต้องโทษมาแล้วหรือไม่ ต่อเมื่อจำเลยเบิกความเป็นพยานตนเองจำเลยเบิกความว่าเคยต้องโทษมาแล้ว เช่นนี้ศาลย่อมฟังว่าจำเลยเคยต้องโทษมาแล้วคดีจึงรอการลงอาญาจำเลยไม่ได้
of 4