คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
หลักฐานเป็นหนังสือ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 94 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3722/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คชำระหนี้ที่ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ: ไม่เข้าความผิด พ.ร.บ. เช็ค
จำเลยออกเช็คสั่งจ่ายเงิน100,000บาทเพื่อชำระหนี้แก่โจทก์โดยจำเลยได้บันทึกด้วยว่าได้ออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่จำเลยได้กู้ยืมจากโจทก์โดยทำบันทึกดังกล่าวภายหลังที่ออกเช็คชำระหนี้แก่โจทก์แล้วแม้กระทำในวันเดียวกันก็ตามดังนี้แม้จำเลยเป็นหนี้โจทก์อยู่จริงแต่หนี้นั้นไม่อาจบังคับได้ตามกฎหมายจึงขาดองค์ประกอบความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1897/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกู้ยืมเงินเกิน 50 บาท ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ การทำแทนบุคคลอื่นต้องมีหลักฐานเช่นกัน การนำสืบจึงมีข้อจำกัด
การกู้ยืมเงินกว่าห้าสิบบาทขึ้นไปต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้ยืมเป็นสำคัญการตั้งตัวแทนเพื่อทำสัญญากู้แทนจึงต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา798วรรคสองจำเลยจึงไม่อาจนำพยานบุคคลมาสืบว่าจำเลยลงชื่อในสัญญากู้แทน ล. เพราะต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา94(ข)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4796/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะซื้อขาย: การชำระราคาครบถ้วนมีผลสมบูรณ์ แม้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ
การชำระราคาครบถ้วนตามสัญญาจะซื้อจะขายย่อมมีน้ำหนักดีกว่าการชำระราคาบางส่วน จึงถือได้ว่าการชำระหนี้ครบถ้วนเป็นการชำระหนี้บางส่วนได้โดยอนุโลมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 456 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3046/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายสังหาริมทรัพย์ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือจึงจะฟ้องร้องบังคับคดีได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 456
โจทก์และจำเลยโทรพิมพ์ติดต่อซื้อขายข้าวนึ่งต่อกัน ดังนี้สัญญาซื้อขายได้เกิดขึ้นแล้วเมื่อการเจรจายุติลงตามโทรพิมพ์ดังกล่าวแต่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 456 วรรคสอง กำหนดว่าสัญญาซื้อขายสังหาริมทรัพย์ซึ่งตกลงกันมีราคาห้าร้อยบาทหรือกว่านั้นขึ้นไป สัญญาจะซื้อจะขาย คำมั่นในการขายทรัพย์ที่มีราคาห้าร้อยบาทหรือกว่านั้นขึ้นไปต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อฝ่ายผู้ต้องรับผิดด้วยหรือได้วางประจำไว้ หรือได้ชำระหนี้บางส่วนแล้วจึงจะฟ้องร้องบังคับคดีได้ ฉะนั้นแม้จำเลยจะไม่สามารถจัดส่งข้าวนึ่งให้โจทก์ได้ แต่เมื่อไม่ปรากฏหลักฐานการชำระหนี้บางส่วนหรือการวางมัดจำหรือลายมือชื่อของจำเลยที่ต้องรับผิดแล้ว โจทก์จึงไม่สามารถฟ้องร้องให้บังคับคดีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 140/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คเพื่อชำระหนี้เงินกู้ยืมที่ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
จำเลยกู้เงินโจทก์ร่วมโดยไม่ทำสัญญากู้ไว้ แต่โจทก์ร่วมได้ให้จำเลยสั่งจ่ายเช็คพิพาทให้เพื่อชำระหนี้เงินกู้ เช็คพิพาทจึงเป็นเช็คที่ออกเพื่อชำระหนี้เงินกู้ยืมที่มิได้ทำหลักฐานเป็นหนังสือไว้ เป็นการออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่ไม่อาจฟ้องร้องบังคับคดีได้ตามกฎหมาย การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534มาตรา 4 แม้การที่จำเลยออกเช็คพิพาทจะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 ก็ตาม แต่ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534อันเป็นบทบัญญัติของกฎหมายที่บัญญัติในภายหลังที่จำเลยออกเช็คการออกเช็คพิพาทของจำเลยไม่เป็นความผิดต่อไป จำเลยย่อมพ้นจากการเป็นผู้กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5523/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์การมอบอำนาจโดยปราศหลักฐานเป็นหนังสือ ศาลอุทธรณ์พิจารณาจากข้อเท็จจริงจากการสืบพยานได้
โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนชื่อจำเลยออกจากโฉนดที่ดินโดยอ้างว่ามอบให้จำเลยเป็นตัวแทนและให้ลงชื่อเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดแทนโจทก์ การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าโจทก์กับจำเลยไม่ได้ทำข้อตกลงเป็นหนังสือกันไว้ ทำให้พยานหลักฐานของโจทก์มีน้ำหนักน้อยนั้น มิใช่เป็นการวินิจฉัยข้อเท็จจริงนอกสำนวนและนอกฟ้องนอกประเด็น เพราะเป็นการยกข้อเท็จจริงที่ได้ความจากการสืบพยานของทั้งสองฝ่ายว่าโจทก์กับจำเลยไม่ได้ทำหลักฐานเป็นหนังสือกันไว้จริงเพื่อเป็นเหตุผลชี้ให้เห็นว่าโจทก์มิได้มอบให้จำเลยเป็นตัวแทนและลงชื่อจำเลยไว้ในโฉนดที่ดินพิพาทแทนโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5523/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวินิจฉัยข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐาน ศาลอุทธรณ์ไม่เกินดุลพินิจ แม้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ
โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนชื่อจำเลยออกจากโฉนดที่ดินโดยอ้างว่ามอบให้จำเลยเป็นตัวแทนและให้ลงชื่อเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดแทนโจทก์ การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าโจทก์กับจำเลยไม่ได้ทำข้อตกลงเป็นหนังสือกันไว้ทำให้พยานหลักฐานของโจทก์มีน้ำหนักน้อยนั้น มิใช่เป็นการวินิจฉัยข้อเท็จจริงนอกสำนวนและนอกฟ้องนอกประเด็นเพราะเป็นการยกข้อเท็จจริงที่ได้ความจากการสืบพยานของทั้งสองฝ่ายว่าโจทก์กับจำเลยไม่ได้ทำหลักฐานเป็นหนังสือ กันไว้จริงเพื่อเป็นเหตุผลชี้ให้เห็นว่าโจทก์มิได้มอบให้จำเลยเป็นตัวแทนและลงชื่อจำเลย ไว้ในโฉนดที่ดินพิพาทแทนโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3699/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะซื้อจะขาย แม้มิได้จดทะเบียนก็บังคับได้ หากมีหลักฐานเป็นหนังสือและชำระหนี้แล้ว
แม้สัญญาใช้คำว่า หนังสือสัญญาการซื้อขาย แต่โจทก์จำเลยมีข้อตกลงกันว่า โจทก์ในฐานะผู้ซื้อยินยอมให้จำเลยพักอาศัยอยู่ในบ้านพิพาทต่อไป หากโจทก์ต้องการเข้าพักอาศัยในบ้านพิพาทเมื่อใดจำเลยยินยอม ขนย้ายสิ่งของออกจากบ้านพิพาทภายใน 1 วัน หลังจากโจทก์แจ้งให้จำเลยทราบและจำเลยจะจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ในบ้านพิพาทให้โจทก์ภายใน 3 วัน ดังนี้ย่อมเป็นสัญญาจะซื้อจะขาย แม้มิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก็ฟ้องร้องให้บังคับคดีได้ เพราะมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อจำเลยผู้ต้องรับผิด และมีการชำระหนี้แล้วตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 456 วรรคสอง จำเลยฎีกาว่า ที่ดินปลูกบ้านพิพาทเป็นที่ราชพัสดุ จำเลยเท่านั้นมีสิทธิการเช่าอยู่อาศัย โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยส่งมอบบ้านพิพาทให้เท่านั้น มิได้ฟ้องขอสิทธิการเช่าด้วย โจทก์จึงไม่มีสิทธิบังคับให้จำเลยออกไปจากที่ดินแปลงดังกล่าว แต่จำเลยมิได้ยกขึ้นต่อสู้ไว้ในคำให้การ จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2982/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หลักฐานการกู้ยืมเงินเป็นหนังสือ ไม่ต้องระบุคำว่า 'กู้ยืม' โดยชัดเจน หากมีลายมือชื่อผู้ยืมและพยานหลักฐานสนับสนุน
หลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสือนั้นกฎหมายมิได้มีความหมายเคร่งครัดถึงกับว่าจะต้องมีถ้อยคำว่ากู้ยืมอยู่ในหนังสือนั้นไม่เมื่อโจทก์มีหนังสือรับสภาพหนี้ซึ่งมีใจความว่าจำเลยเป็นหนี้โจทก์และจำเลยรับจะชดใช้เงินแก่โจทก์ กับมีลายมือชื่อจำเลยในฐานะลูกหนี้ลงไว้มาแสดง ทั้งมีพยานบุคคลมาสืบประกอบอธิบายถึงมูลหนี้ดังกล่าว ถือได้ว่าหนังสือรับสภาพหนี้ดังกล่าวเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสือตามที่ ป.พ.พ. มาตรา 653 บัญญัติไว้แล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 480/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าที่ดินไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ จำเลยไม่มีอำนาจฟ้องเรียกค่าเช่าได้ตามมาตรา 538 ป.พ.พ.
โจทก์กล่าวไว้ในคำแก้ ฎีกาว่า การเช่าที่ดินที่จำเลยอ้างว่าให้โจทก์เช่า จำเลยไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ จำเลยจึงไม่มีอำนาจฟ้องปัญหาข้อนี้โจทก์ได้ยกข้อต่อสู้ไว้ในคำให้การแก้ฟ้องแย้งแล้วจำเลยก็อุทธรณ์ถึงเรื่องค่าเช่าที่ค้างชำระด้วย แม้โจทก์ไม่ได้ยกขึ้นต่อสู้ไว้ในคำแก้ อุทธรณ์ ก็ถือว่าปัญหาข้อนี้ได้ยกขึ้นว่ากล่าวในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์แล้ว โจทก์ย่อมอ้างอิงปัญหาข้อนี้ในชั้นฎีกาได้ เมื่อฟ้องแย้งของจำเลยระบุชัด ว่า การเช่าที่ดินพิพาทระหว่างโจทก์จำเลยไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ จำเลยจึงไม่มีอำนาจฟ้องแย้งให้บังคับคดีเรียกค่าเช่าที่ค้างชำระจากโจทก์ได้ เพราะต้องห้ามตามมาตรา 538 แห่ง ป.พ.พ..
of 10