พบผลลัพธ์ทั้งหมด 16 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2066/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อันตรายสาหัสจากการทำร้ายร่างกาย: การประเมินอาการบาดเจ็บและระยะเวลาพักฟื้น
ถูกตีด้วยไม้ระแนง กระโหลกศีรษะร้าว ต้องใช้เวลารักษาประมาณ1 ปีครึ่งกระดูกจึงจะเชื่อมติดกันได้และแข็งแรงพอ จะมีอาการปวดศีรษะในระยะ 1 เดือนแรก ไม่สามารถนั่งขายของได้ตามปกติ ดังนี้ ถือได้ว่าต้องทุพพลภาพหรือป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่า 20 วัน และประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เกินกว่า 20 วัน เป็นอันตรายสาหัสตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297(8)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 497/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
รายละเอียดบาดแผลในฟ้องอาญาไม่จำต้องระบุในฟ้อง เพียงแต่กล่าวถึงอาการบาดเจ็บสาหัส
รายการละเอียดของบาดแผลผู้ถูกทำร้ายตามใบชัณสูตรนั้น ไม่ใช่รายละเอียดที่จำจะต้องบรรยายมาในฟ้องตาม ป.วิ.อาญา ม. 158 (5) ฉะนั้น แม้โจทก์มิได้บรรยายมาก็เป็นฟ้องที่ถูกต้องตามกฎหมายไม่เคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 820/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกาย: บาดเจ็บสาหัสหรือไม่ พิจารณาจากอาการและระยะเวลาพักฟื้น
พนักงานดูเงินถูกทำร้ายหลายแห่ง แต่สำคัญที่ตาแห่งเดียว นอกนั้นเป็นบาดแผลเล็กน้อย ปรากฎตามคำชัณสูตร บาดแผลว่าที่ตาข้างขวาขอบตาบวมช้ำ กดเจ็บ ภายในดวงตามีการอักเสบ มีเลือดขังอยู่ในเยื่อตา รักษาประมาณ 15 วันหาย แต่นายแพทย์ยืนยันว่า เมื่อรักษาจริง ๆ แล้ว 15 วันไม่หาย และก็ไม่ยืนยันว่า ผู้เสียหายไม่สามารถจะใช้ ตาดูเงินได้ภายใน 20 วัน ถ้าดูอะไรเพียงเล็กน้อย ก็ใช้รานั้นดูได้เพียงแต่ผู้เสียหายลาหยุดราชการ 21 วัน โดย อ้างว่าใช้ตาตรวจดูเงินตามหน้าที่ไม่ได้ ยังไม่พอฟังว่าผู้เสียหายมีบาดเจ็บถึงสาหัส./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1218/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บทุพพลภาพ ศาลพิจารณาจากอาการบาดเจ็บและผลกระทบต่อร่างกาย
จำเลยตีผู้เสียหายด้วยไม้โตกลมขนาดข้อมือ โดยแรงจนผู้เสียหายล้มลงหมดสติไปครู่หนึ่ง มีรอยช้ำเขียวปรากฎอยู่ที่สบักและชายโครงซ้าย เป็นเหตุให้ผู้เสียหายนอนตะแคงข้างซ้ายไม่ได้ ดังนี้ พอฟังได้ว่า จำเลยได้ทำร้ายผู้เสียหายถึงบาดเจ็บตามมาตรา 254.
ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลย 18 วัน ปรับ 60 บาท ตามมาตรา 338(3) ศาลอุทธรณ์แก้ว่าจำเลยมีผิดตามมาตรา 256 (8) จำคุก 8 ปี ดังนี้ เป็นแก้มาก.
ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลย 18 วัน ปรับ 60 บาท ตามมาตรา 338(3) ศาลอุทธรณ์แก้ว่าจำเลยมีผิดตามมาตรา 256 (8) จำคุก 8 ปี ดังนี้ เป็นแก้มาก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1218/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้บาดเจ็บทุพพลภาพ ศาลพิจารณาจากอาการบาดเจ็บและผลกระทบต่อร่างกาย
จำเลยตีผู้เสียหายด้วยไม้โตกลมขนาดข้อมือ โดยแรงจนผู้เสียหายล้มลงหมดสติไปครู่หนึ่ง มีรอยช้ำเขียวปรากฏอยู่ที่สบักและชายโครงซ้าย เป็นเหตุให้ผู้เสียหายนอนตะแคงข้างซ้ายไม่ได้ ดังนี้ พอฟังได้ว่า จำเลยได้ทำร้ายผู้เสียหายถึงบาดเจ็บตามมาตรา 254
ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลย 18 วัน ปรับ 60 บาทตามมาตรา 338(3) ศาลอุทธรณ์แก้ว่าจำเลยมีผิดตามมาตรา256(8) จำคุก 2 ปี ดังนี้ เป็นแก้มาก
ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลย 18 วัน ปรับ 60 บาทตามมาตรา 338(3) ศาลอุทธรณ์แก้ว่าจำเลยมีผิดตามมาตรา256(8) จำคุก 2 ปี ดังนี้ เป็นแก้มาก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5514/2551
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำกัดโทษตามฟ้อง: แม้มีเจตนาทำร้าย แต่คำฟ้องไม่ระบุอาการบาดเจ็บสาหัส ศาลต้องลงโทษตามที่ฟ้องเท่านั้น
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ป.อ. มาตรา 288 ประกอบมาตรา 80 โดยมิได้บรรยายฟ้องว่าผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัสอย่างไร อีกทั้งตามผลการตรวจชันสูตรบาดแผลของแพทย์ซึ่งแนบมาท้ายคำฟ้องและถือเป็นส่วนหนึ่งของคำฟ้องก็ไม่ปรากฏว่าผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บถึงทุพพลภาพ หรือป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่ายี่สิบวัน หรือจนประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เกินกว่ายี่สิบวันแต่อย่างใดดังนั้น เมื่อข้อเท็จจริงในทางพิจารณาฟังได้ว่าจำเลยมีเจตนาทำร้าย ศาลจึงไม่อาจพิพากษาลงโทษจำเลยตาม ป.อ. มาตรา 297 (8) ได้ เพราะจะเป็นการพิพากษาเกินกว่าที่กล่าวในคำฟ้อง ต้องห้ามตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคหนึ่ง คงลงโทษได้เพียงตาม ป.อ. มาตรา 295 เท่านั้น