พบผลลัพธ์ทั้งหมด 278 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 458/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสิ้นสุดสิทธิเช่าหลังผู้เช่าเสียชีวิต และผลกระทบต่อการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
ผู้เช่าเคหะอยู่อาศัยถึงแก่กรรมแล้ว ภรรยาผู้ตายซึ่งอยู่อาศัยในเคหะนั้นต่อมามิได้แสดงความจำนงเป็นหนังสือของเช่าบ้านรายนั้นต่อผู้ให้ผู้เช่าต่อไป
ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่สามีตายนั้น จะอ้างความคุ้มครองตามพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าไม่ได้ เว้นแต่ผู้ให้เช่าและภรรยาผู้ตายเช่าบ้านนั้นต่อไป
ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่สามีตายนั้น จะอ้างความคุ้มครองตามพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าไม่ได้ เว้นแต่ผู้ให้เช่าและภรรยาผู้ตายเช่าบ้านนั้นต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 458/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเช่าหลังคู่สมรสเสียชีวิต: ต้องแจ้งความประสงค์เป็นหนังสือภายใน 30 วัน
ผู้เช่าเคหะอยู่อาศัยถึงแก่กรรมแล้ว ภรรยาผู้ตายซึ่งอยู่อาศัยในเคหะนั้นต่อมามิได้แสดงความจำนงเป็นหนังสือขอเช่าบ้านรายนั้นต่อผู้ให้เช่าต่อไปภายใน 30 วันนับแต่วันที่สามีตายนั้นจะอ้างความคุ้มครองตามพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าไม่ได้ เว้นแต่ผู้ให้เช่าและภรรยาผู้ตายจะตกลงกันยอมให้ภรรยาผู้ตายเช่าบ้านนั้นต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1624/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอนุญาตอาวุธปืนและการโอนสิทธิหลังผู้รับอนุญาตเสียชีวิต ไม่ถือผิดกฎหมายหากยังไม่ได้สั่งการ
บิดาได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืน 1 กระบอก เมื่อบิดาตายบุตรจึงไปแจ้งต่อนายทะเบียน และขออนุญาตมีอาวุธปืนกระบอกนั้น แต่นายทะเบียนไม่อนุญาตกลับสั่งให้ขายปืนนั้นเสียภายใน 6 เดือนแต่บุตรขายปืนนั้นไม่ได้นายทะเบียนก็มิได้เรียกเอาปืนนั้นไปขายทอดตลาดเสียเองและมิได้สั่งอย่างไรอีก ปืนนั้นจึงคงอยู่กับบุตรอย่างเดิม ดังนี้ จะว่าบุตรมีอาวุธปืนโดยไม่รับอนุญาตเป็นการผิดกฎหมายไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1471/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าเป็นสิทธิเฉพาะตัว สิ้นสุดเมื่อผู้เช่าเสียชีวิต ไม่ตกทอด
การเช่าทรัพย์สินนั้น ปกติฝ่ายผู้ให้เช่าย่อมเพ่งเล็งถึงคุณสมบัติของผู้เช่าว่าจะสมควรได้รับความไว้วางใจในการใช้ทรัพย์ที่เช่าและในการดูแลรักษาทรัพย์ที่เช่าหรือไม่ ฉะนั้นสิทธิของผู้เช่าจึงมีสภาพเป็นการเฉพาะตัว เมื่อผู้เช่าตาย สัญญาเช่าก็เป็นอันระงับ ไม่ตกทอดไปยังทายาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 923/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานทำร้ายร่างกาย แม้ผู้ตายเสียชีวิตจากสาเหตุอื่น ศาลยังลงโทษได้
ในคดีฟ้องหาว่าจำเลยฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 251 นั้น ถ้าผู้ถูกทำร้ายตายเพราะเหตุอื่น ไม่ใช่เพราะบาดแผลที่ถูกทำร้ายแล้ว ศาลก็ยังลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา192เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนให้ยกฟ้อง โดยวินิจฉัยแต่ข้อเดียวว่าผู้ตายมิได้ตายเพราะบาดแผลที่จำเลยทำร้าย ศาลฎีกาสั่งย้อนสำนวนให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยความผิดฐานทำร้ายร่างกายได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1788/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมมีเงื่อนไข: ผลเมื่อผู้รับผลประโยชน์เสียชีวิตก่อนปฏิบัติตามเงื่อนไข
พินัยกรรม์มีข้อความระบุไว้ว่าให้นาแปลงหนึ่งแก่ผู้รับ 1 คนๆละครึ่ง แต่มีเงื่อนไขว่าให้ผู้รับคนหนึ่งให้เงินแก่ผู้รับคนที่ 2 เป็นเงิน 200 บาท ถ้าผู้รับคนที่หนึ่งไม่ให้เงิน 200 แก่ผู้รับคนที่ 2 ก็ให้นาแปลงนี้เป็นของผู้รับคนที่ 2 คนเดียวดังนี้ ถ้าผู้รับคนที่ 1 ตายเสียก่อนผู้ทำพินัยกรรม์ ผู้รับคนที่ 1 ก็ไม่ได้ชำระเงิน 200 บาท เมื่อเป็นเช่นนี้ผู้รับคนที่ 2 ก็ไม่มีโอกาศจะได้รับส่วนครึ่งหนึ่งของผู้รับคนที่หนึ่งตามเงื่อนไขนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1692/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย แม้ถูกทำร้ายก่อน แต่การไล่ติดตามแทงจนเสียชีวิต ไม่ถือเป็นการป้องกันตัว แต่เป็นความผิดด้วยความบันดาลโทสะ
ผู้ตายเป็นฝ่ายมาท้าทายและบุกรุกขึ้นไปทำร้ายฝ่ายจำเลยถึงบนเรือนก่อน แต่เมื่อจำเลยกับผู้ตายได้กอดปล้ำจนตกมาที่พื้นดินและผู้ตายได้ลุกขึ้นวิ่งหนีไปแล้ว จำเลยยังไล่ติดตามไปแทงผู้ตายตั้งหลายทีถึงแก่ความตาย ดังนี้จะฟังว่าจำเลยกระทำไปโดยเจตนาป้องกันตัวหาได้ไม่ แต่พอถือได้ว่าจำเลยทำไปโดยบรรดาลโทษะตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 55
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1548/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนายกทรัพย์โดยพินัยกรรม: การตีความพินัยกรรมสั่งให้ยกทรัพย์เมื่อเสียชีวิต มิใช่การยกทรัพย์โดยเสน่หา
ความในพินัยกรรมข้อหนึ่งกล่าวว่า ผู้ตายเจตนายกทรัพย์ให้ผู้มีชื่อตั้งแต่วันทำพินัยกรรมฉบับนี้ มีข้อความเริ่มต้นระบุไว้ชัดว่าขอทำหนังสือพินัยกรรมเป็นคำสั่งเผื่อตายไว้ และตอนท้ายก็ยังกล่าวยืนยันว่าผู้ตายได้ทำพินัยกรรมไว้ด้วยความเต็มใจและมีสติดี มีพยานลงชื่ออย่างพินัยกรรมทุกประการ เช่นนี้ ย่อมถือว่าเป็นพินัยกรรมที่ผู้ตายมุ่งหมายจะยกทรัพย์ให้เมื่อผู้ตายตายลง หาใช่เป็นหนังสือยกทรัพย์ให้โดยเสน่หาไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1371-1372/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฟ้องรับรองบุตรหลังเสียชีวิต: เฉพาะผู้สืบสันดานเท่านั้นที่มีสิทธิฟ้อง
การฟ้องขอให้รับเด็กเป็นบุตรโดยชอบด้วย ก.ม. นั้น ถ้าเด็กนั้นตายแล้ว ก.ม.ยอมให้ผู้สืบสันดานของเด็กโดยเฉพาะที่จะฟ้องของให้รับเด็กเป็นบุตรได้เท่านั้น มารดาของเด็กไม่มีสิทธิจะฟ้องคดีขอให้รับเด็กเป็นบุตรได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1371-1372/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฟ้องรับรองบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย: เฉพาะผู้สืบสันดานฟ้องได้เมื่อบุตรเสียชีวิต
การฟ้องขอให้รับเด็กเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายนั้น ถ้าเด็กนั้นตายแล้วกฎหมายยอมให้ผู้สืบสันดานของเด็กโดยเฉพาะที่จะฟ้องขอให้รับเด็กเป็นบุตรได้เท่านั้น มารดาของเด็กไม่มีสิทธิจะฟ้องคดีขอให้รับเด็กเป็นบุตรได้