พบผลลัพธ์ทั้งหมด 277 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการแบ่งที่ดินมรดก: ศาลพิพากษาเกินคำขอหรือไม่?
โจทก์ฟ้องขอแบ่งแยกที่ดินตามคำขอท้ายฟ้องก็มีเพียงขอให้จำเลยแบ่งแยกที่ดินให้โจทก์อย่างเดียวศาลพิพากษาให้แบ่งที่ดินให้แล้วยังได้เลยพิพากษาต่อไปว่า ถ้าคู่ความตกลงแบ่งกันเองไม่ได้ ให้ประมูลระหว่างคู่ความหรือขายทอดตลาดเอาเงินแบ่งกันตามส่วนดังนี้ ย่อมมีอำนาจทำได้ ไม่เป็นการพิพากษาเกินคำขอเพราะเป็นวิธีการที่ศาลจะแบ่งที่ดินให้แก่คู่ความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1144/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ: การฟ้องขับไล่ซ้ำเมื่อคดีก่อนมีคำขอขับไล่แล้ว
โจทก์เคยฟ้องจำเลยว่าเช่าที่ของโจทก์อยู่อาศัย และค้าขาย แต่ไม่ได้ทำเป็นหนังสือ จำเลยรับรองว่าเมื่อโจทก์ต้องการที่ จำเลยจะออก ต่อมาโจทก์ให้จำเลยทำหนังสือสัญญาเช่า จำเลยไม่ทำ โจทก์จึงฟ้องขอให้จำเลยทำสัญญาเช่า ถ้าจำเลยไม่ยอมทำก็ขอให้ขับไล่จำเลยศาลพิพากษายกฟ้อง คดีถึงที่สุดแล้ว โจทก์มาฟ้องจำเลยใหม่อ้างว่า จำเลยเช่าที่เพื่ออาศัยและประกอบธุรกิจการค้าเป็นการชั่วคราว บัดนี้โจทก์มีความจำเป็นต้องใช้ที่ตรงนั้น จึงบอกเลิกสัญญาเช่ากับจำเลย แต่จำเลยไม่ยอมออก โจทก์จึงขอให้ศาลขับไล่ ดังนี้ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 589/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตัดสินคดีเกินคำฟ้องและคำขอ ขัดต่อหลักการในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยรุกที่ดินของโจทก์ทางทิศเหนือ ขอให้ขับไล่ ศาลพิพากษาว่าจำเลยรุกที่ของโจทก์ทางทิศตะวันตกของที่โจทก์ และให้ขับไล่จำเลย ดังนี้ เป็นการตัดสินเกินคำฟ้องและคำขอของโจทก์ เพราะโจทก์ทางทิศตะวันตกเลย จึงเป็นการฝ่าฝืน ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 142
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 485/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลริบของกลางในคดีอาญาตาม พ.ร.บ.ชั่งตวงวัด แม้โจทก์มิได้อ้างมาตราที่ให้ริบโดยตรง
ฟ้องคดีอาญานั้น กฎหมายบังคับให้อ้างมาตราในกฎหมายซึ่งบัญญัติว่า การกระทำเช่นนั้นเป็นความผิดเท่านั้น หาได้บัญญัติให้อ้างบทมาตราที่บัญญัติให้ริบของกลางด้วยไม่ ฉะนั้นแม้จะไม่ได้อ้างมา ศาลก็มีอำนาจริบได้ในเมื่อโจทก์มีคำขอไว้แล้ว
พ.ร.บ.มาตราชั่วตวงวัดได้มีบทบัญญัติในเรื่องการริบและการยึดไว้แล้ว ดังจะเห็นได้ตามมาตรา 24 และ 38 ย่อมเห็นเจตนารมย์ของ พ.ร.บ.นี้ได้ว่า ไม่ประสงค์ที่จะให้นำมาตรา 27,28 แห่งก.ม.ลักษระอาญามาใช้บังคับแก่กระทำผิดใด ๆ ตาม พ.ร.บ.นี้อีกในเมื่อการกระทำนั้น ๆ ไม่เป็นผิดตาม ก.ม.ลักษระอาญาด้วย
ในกรณีที่จำเลยมีเครื่องชั่งที่ไม่มีตราเครื่องหมายของเจ้าพนักงานไว้ในความครอบครองเพื่อใช้ในพาณิชกิจต่อเนื่องกับผู้อื่น และยังได้ใช้เครื่องชั่งเนื้อสุกรขายแก่ประชาชนอีกนั้น เมื่อศาลพิพากษาลงโทษปับจำเลยตาม พ.ร.บ.ชั่งตวงวัด 2466 มาตรา 31 แล้ว ยังสั่งให้โจทก์ส่งของกลางไปให้เจ้าพนักงานตาม พ.ร.บ. 31 แล้ว ยังสั่งให้โจทก์ส่งของกลางไปให้เจ้าพนักงานตาม พ.ร.บ.มาตราชั่งตวงวัด 2466 มาตรา 24 ดำริว่า ควรจะจัดการกับเครื่องชั่งของกลางสถานใด แทนการสั่งยึดตามมาตรา 38 ได้
พ.ร.บ.มาตราชั่วตวงวัดได้มีบทบัญญัติในเรื่องการริบและการยึดไว้แล้ว ดังจะเห็นได้ตามมาตรา 24 และ 38 ย่อมเห็นเจตนารมย์ของ พ.ร.บ.นี้ได้ว่า ไม่ประสงค์ที่จะให้นำมาตรา 27,28 แห่งก.ม.ลักษระอาญามาใช้บังคับแก่กระทำผิดใด ๆ ตาม พ.ร.บ.นี้อีกในเมื่อการกระทำนั้น ๆ ไม่เป็นผิดตาม ก.ม.ลักษระอาญาด้วย
ในกรณีที่จำเลยมีเครื่องชั่งที่ไม่มีตราเครื่องหมายของเจ้าพนักงานไว้ในความครอบครองเพื่อใช้ในพาณิชกิจต่อเนื่องกับผู้อื่น และยังได้ใช้เครื่องชั่งเนื้อสุกรขายแก่ประชาชนอีกนั้น เมื่อศาลพิพากษาลงโทษปับจำเลยตาม พ.ร.บ.ชั่งตวงวัด 2466 มาตรา 31 แล้ว ยังสั่งให้โจทก์ส่งของกลางไปให้เจ้าพนักงานตาม พ.ร.บ. 31 แล้ว ยังสั่งให้โจทก์ส่งของกลางไปให้เจ้าพนักงานตาม พ.ร.บ.มาตราชั่งตวงวัด 2466 มาตรา 24 ดำริว่า ควรจะจัดการกับเครื่องชั่งของกลางสถานใด แทนการสั่งยึดตามมาตรา 38 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1259/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตคำขอห้ามบุกรุก: คำพิพากษาตามแผนที่พิพาท
โจทก์ฟ้องขอให้ห้ามจำเลยไม่ให้เกี่ยวข้องในที่ของโจทก์ซึ่งจำเลยบุกรุกเข้ามา กว้าง 1 วา ยาวประมาณ 3 เส้น ครั้นเมื่อเจ้าพนักงานไปทำแผนที่ โจทก์นำชี้ที่ที่จำเลยบุกรุกเข้ามาตามในวงเส้นสีแดง ซึ่งกว้างเพียง 3 ศอกยาว 3 เส้น 3 วา 2 ศอกเกินที่กล่าวในฟ้องไป 3 วา 2 ศอก ดังนี้ก็ต้องถือว่าโจทก์ฟ้องขอให้ห้ามจำเลยเกี่ยวข้องกับที่ของโจทก์ตามในวงเส้นสีแดงแห่งแผนที่พิพาทนั้นเอง ศาลพิพากษาห้ามจำเลยไม่ให้เกี่ยวข้องในที่พิพาทภายในวงเส้นสีแดงแห่งแผนที่พิพาทได้ ไม่เป็นการเกินคำขอ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 750/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการแบ่งทรัพย์สินร่วม กรณีฟ้องขอแบ่งที่ดิน ศาลต้องพิพากษาภายในส่วนแบ่งที่โจทก์ขอ
โจทก์ฟ้องกล่าวว่า โจทก์กับจำเลยปกครองที่ดินร่วมกันมา บัดนี้จำเลยจะเอาที่ดินเสียผู้เดียว จึงขอให้จำเลยส่งโฉนดมาทำการแบ่งแยกตามส่วนครึ่งหนึ่ง หากแบ่งแยกไม่ตกลง ก็ขอให้ประมูลราคาหรือขายทอดตลาดแบ่งเงินกัน ชั้นพิจารณาโจทก์นำสืบว่า โจทก์จำเลยต่างปกครองเป็นส่วนสัดกัน ดังนี้ ไม่เป็นการนำสืบนอกฟ้องนอกประเด็น
โจทก์ฟ้องขอแบ่งที่พิพาทแต่เพียงครึ่งหนึ่ง ถ้าทางพิจารณาได้ความว่า โจทก์มีกรรมสิทธิ์อยู่ในที่พิพาทจริง ศาลก็พิพากษาให้ที่ดินพิพาทไม่เกินครึ่งหนึ่งเป็นของโจทก์ได้ ไม่ผิดจากฟ้อง หรือเกินคำขอ
ศาลชั้นต้นพิพากษาชี้ขาดเลยจากคำขอท้ายฟ้องของโจทก์หรืออย่างไรนั้น ศาลอุทธรณ์มีอำนาจที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขเสียให้ถูกต้องได้
โจทก์ฟ้องขอแบ่งที่พิพาทแต่เพียงครึ่งหนึ่ง ถ้าทางพิจารณาได้ความว่า โจทก์มีกรรมสิทธิ์อยู่ในที่พิพาทจริง ศาลก็พิพากษาให้ที่ดินพิพาทไม่เกินครึ่งหนึ่งเป็นของโจทก์ได้ ไม่ผิดจากฟ้อง หรือเกินคำขอ
ศาลชั้นต้นพิพากษาชี้ขาดเลยจากคำขอท้ายฟ้องของโจทก์หรืออย่างไรนั้น ศาลอุทธรณ์มีอำนาจที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขเสียให้ถูกต้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 668/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำขอโอนมรดกขัดแย้งกับคำอ้างและพินัยกรรม เจ้าพนักงานที่ดินชอบที่จะไม่จัดการได้
ฝ่ายโจทก์ยื่นคำร้องขอโอนโฉนดโดยอ้างว่าผู้ตายทำพินัยกรรมตั้งพวกตนเป็นผู้จัดการมรดก แต่พวกโจทก์กลับขอให้เจ้าพนักงานลงชื่อพวกตนเป็นผู้รับมรดกโดยตรง คำขอของโจทก์จึงขัดต่อคำอ้างและเป็นคำขอที่ขัดต่อพินัยกรรมเจ้าพนักงานที่ดินชอบที่จะไม่จัดการให้ตามคำขอของโจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1590/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตคำขอในคดีแสดงกรรมสิทธิ์ การพิพากษาต้องเป็นไปตามที่โจทก์ขอเท่านั้น แม้มีส่วนที่รุกล้ำ
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลแสดงว่าที่ดินหมายเลข 2 ตามแผนที่ท้ายฟ้องเป็นของโจทก์ ทางพิจารณาได้ความว่า ที่ๆ โจทก์ขอตามฟ้องเป็นของโจทก์ และปรากฎว่าโจทก์ปลูกห้องแถวรุกล้ำเข้าไปในที่ของจำเลย 2 ศอก ศาลก็ควรพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีตามที่โจทก์ขอมาเท่านั้น ที่ 2 ศอก ที่เกินมานี้ไม่มีประเด็นขึ้นมาในคดี ศาลหาควรวินิจฉัยถึงไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 881/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษฐานสมรู้เมื่อฟ้องฐานตัวการ ศาลไม่ถือว่านอกฟ้องเกินคำขอ
ฟ้องขอให้ลงโทษฐานตัวการ แต่ศาลเห็นว่า จำเลยมีผิดฐานสมรู้เท่านั้น ศาลก็ลงโทษฐานสมรู้ ซึ่งมีโทษเบากว่าตัวการได้ หาเป็นการนอกฟ้องเกินคำขอไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 675/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีชั่งตวงวัดต้องระบุคำขอให้จ่ายเงินสินบลชัดเจน หากไม่มีคำขอ ศาลไม่บังคับได้
บรรยายฟ้องว่า จำเลยทำผิด พ.ร.บ.ชั่งตวงวัดมาตรา 3 แต่ไม่กล่าวถึงเรื่องเงินสินบล และไม่มีคำขอบังคับ ให้จ่ายเงินสินบลด้วย แม้จะระบุมาตรา 3 พ.ร.บ.ชั่งตวงวัด 2466 มาท้ายฟ้องด้วย ก็ต้อง+ว่าฟ้องไม่มีคำขอให้จ่ายเงินสินบล ศาลไม่บังคับให้.