คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ข้อกำหนด

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 55 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3720/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ละเมิดอำนาจศาล: การประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล ศาลมีอำนาจลงโทษทันทีโดยไม่ต้องออกข้อกำหนด
การรักษาความเรียบร้อยในบริเวณศาลเท่านั้นที่ศาลจะต้องออกข้อกำหนดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 30ส่วนการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาลซึ่งเป็นความผิดโดยสภาพมาตรา 30 หาได้บัญญัติให้ศาลจำต้องออกข้อกำหนดแต่อย่างใดไม่ ดังนั้น เมื่อผู้ถูกกล่าวหาประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล ศาลย่อมมีอำนาจสั่งลงโทษฐานละเมิดอำนาจศาลได้ทันที
ระหว่างพิจารณา ศาลชั้นต้นพยายามควบคุมการพิจารณาเกี่ยวกับการใช้คำถามและให้อยู่ในระเบียบ แต่ผู้ถูกกล่าวหาแสดงอาการไม่พอใจ และพูดว่าเป็นทนายจบนิติศาสตร์มหาบัณฑิตจะไม่ถามความเฮงซวย โดยพูดซ้ำถึง3ครั้งต่อหน้าศาลคู่ความตำรวจและผู้ที่มาฟังการพิจารณา กิริยาและวาจาที่ผู้ถูกกล่าวหาแสดงออกมาดังกล่าวแล้วมีลักษณะ เป็นการท้าทาย ไม่เคารพยำเกรงศาล การที่ผู้ถูกกล่าวหาได้รับการศึกษามาสูงพอสมควรและได้รับใบอนุญาตให้เป็นทนายความชั้นหนึ่งเคยว่าความในศาลมามาก ย่อมจะรู้ว่าการแสดงกิริยาและวาจาดังกล่าว มีความหมายและความมุ่งหมายอย่างไรที่พจนานุกรมให้ความหมายของคำว่า 'เฮง'ไว้ว่า'โชคดีหรือเคราะห์ดี'และคำว่า'เฮงซวย'ว่า'เอาแน่นอนอะไรไม่ได้'นั้นไม่อาจกลบเกลื่อนเจตนาอันแท้จริงของผู้ถูกกล่าวหาได้การกระทำของ ผู้ถูกกล่าวหาจึงเป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2924/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารระบุแต่การยกที่ดินให้ ไม่มีการกำหนดการเผื่อตาย ไม่เป็นพินัยกรรม
หนังสือที่ผู้ตายทำขึ้นระบุว่าเป็นพินัยกรรม แต่ข้อความกลับมีเพียงว่า ผู้ตายตกลงยกที่ดินให้เท่านั้น ไม่มีข้อความกำหนดการเผื่อตายตามที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1646 บัญญัติบังคับไว้ จึงไม่ใช่พินัยกรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3016/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ละเมิดอำนาจศาล: การพกพาอาวุธในบริเวณศาลเป็นเหตุแห่งความผิด แม้ไม่มีข้อกำหนด
ความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 31 (1) มีอยู่ 2 กรณี คือ ขัดขืนไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของศาลที่ออกตามมาตรา 30 เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในบริเวณศาลกรณีหนึ่ง หรือประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาลอีกกรณีหนึ่ง เฉพาะในกรณีหลังนี้ เมื่อผู้ใดเข้ามาในบริเวณศาลแล้วประพฤติตนไม่เรียบร้อยก็เป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลโดยศาลไม่จำต้องออกข้อกำหนดเสียก่อน การที่ผู้ถูกกล่าวหาพกพาอาวุธปืนพร้อมด้วยกระสุนปืนเข้ามาในบริเวณศาล ก็ถือได้ว่าเป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล เป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 996/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อกำหนดพินัยกรรมมอบเงินให้สถาบันการกุศล ไม่เป็นโมฆะ แม้มิได้ระบุเจาะจง
ข้อกำหนดในพินัยกรรมกำหนดให้ผู้จัดการมรดกรวบรวมทรัพย์สินจำหน่ายเป็นเงินสด และให้ใช้จ่ายเป็นค่าทำศพเจ้ามรดกก่อน หากยังมีเงินเหลืออีกเท่าใด ให้ผู้จัดการมรดกจัดสรรทำบุญ หรือมอบให้สถาบัน หรือสถานที่ หรือกิจการสาธารณกุศลใด ตามแต่ผู้จัดการมรดกเห็นสมควร การมอบเงินให้สถาบันหรือสถานที่ หรือกิจการสาธารณกุศลนั้น ถือได้ว่าเป็นการทำบุญ ซึ่งเจ้ามรดกได้ระบุข้อความดังกล่าวให้อยู่ในวงจำกัดแน่นอนว่า จะต้องมอบให้เฉพาะเพื่อสาธารณกุศาลเท่านั้น จะมอบให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งทั่ว ๆ ไป หรือมิใช่เพื่อการกุศลตามแต่ใจของผู้จัดการมรดกไม่ได้ ไม่จำเป็นจะต้องระบุเจาะจงลงไปว่าเป็นสถาบันหรือสถานที่ หรือกิจการสาธารณกุศลใดโดนเฉพาะ ฉะนั้นข้อกำหนดในพินัยกรรมดังกล่าวถือได้ว่า เป็นการกำหนดบุคคลซึ่งอาจทราบตัวแน่นอนได้ จึงไม่เป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1706 (2)
ข้อกำหนดในพินัยกรรมได้ระบุว่า ให้ผู้จัดการมรดกนำเงินสดที่เหลือจากการทำศพ มอบให้แก่สถาบัน หรือสถานที่ หรือกิจการสาธารณกุศล เพื่อการกุศลตามแต่ผู้จัดการมรดกเห็นสมควร ไม่ใช่ให้ผู้จัดการมรดกเป็นผู้กำหนดให้มากน้อยเท่าใดตามแต่ใจ จึงไม่เป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1706 (3)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 996/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อกำหนดพินัยกรรมมอบเงินให้การกุศล ไม่เป็นโมฆะ แม้มิได้ระบุสถาบันชัดเจน
ข้อกำหนดในพินัยกรรมกำหนดให้ผู้จัดการมรดกรวบรวมทรัพย์สินจำหน่ายเป็นเงินสด และให้ใช้จ่ายเป็นค่าทำศพเจ้ามรดกก่อน หากยังมีเงินเหลืออีกเท่าใด ให้ผู้จัดการมรดกจัดสรรทำบุญ หรือมอบให้สถาบัน หรือสถานที่ หรือกิจการสาธารณกุศลใดตามแต่ผู้จัดการมรดกเห็นสมควรการมอบเงินให้สถาบันหรือสถานที่ หรือกิจการสาธารณกุศลนั้น ถือได้ว่าเป็นการทำบุญซึ่งเจ้ามรดกได้ระบุข้อความดังกล่าวให้อยู่ในวงจำกัดแน่นอนว่าจะต้องมอบให้เฉพาะเพื่อสาธารณกุศลเท่านั้น จะมอบให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งทั่วๆ ไป หรือมิใช่เพื่อการกุศลตามแต่ใจของผู้จัดการมรดกไม่ได้ไม่จำเป็นจะต้องระบุเจาะจงลงไปว่าเป็นสถาบัน สถานที่ หรือกิจการสาธารณกุศลใดโดยเฉพาะ ฉะนั้นข้อกำหนดในพินัยกรรมดังกล่าวถือได้ว่าเป็นการกำหนดบุคคลซึ่งอาจทราบตัวแน่นอนได้ จึงไม่เป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1706(2)
ข้อกำหนดในพินัยกรรมได้ระบุว่า ให้ผู้จัดการมรดกนำเงินสดที่เหลือจากการทำศพ มอบให้แก่สถาบัน หรือสถานที่ หรือกิจการเพื่อการกุศลตามแต่ผู้จัดการมรดกเห็นสมควร ไม่ใช่ให้ผู้จัดการมรดกเป็นผู้กำหนดให้มากน้อยเท่าใดตามแต่ใจ จึงไม่เป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1706(3)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1471/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้บังคับข้อกำหนดวิธีการพิจารณาแรงงานสัมพันธ์โดยอนุโลม ต้องไม่ขัดต่อการพิจารณาและวินิจฉัยชี้ขาด และต้องเพื่อให้ความเป็นธรรม
ประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่องการแรงงานสัมพันธ์ ลงวันที่ 16 เมษายน 2515 ข้อ 75 ให้คณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์พิจารณาคำร้องเกี่ยวกับการกระทำอันไม่เป็นธรรมของนายจ้างต่อลูกจ้าง โดยให้นำข้อ 15 ข้อ 16 มาใช้บังคับโดยอนุโลม ซึ่งข้อ 15 ให้ผู้ชี้ขาดข้อพิพาทแรงงานแจ้งเป็นหนังสือกำหนดวันส่งคำชี้แจงเกี่ยวกับแรงงานและวันเวลา และสถานที่ที่จะพิจารณาข้อพิพาทแรงงานให้ทั้งสองฝ่ายทราบ และข้อ 16 ในการพิจารณาข้อพิพาทแรงงานผู้ชี้ขาดข้อพิพาทแรงงานต้องให้โอกาสทั้งสองฝ่ายชี้แจงแถลงเหตุผล และนำพยานเข้าสืบ การนำมาใช้โดยอนุโลมหมายถึงการนำมาใช้บังคับเท่าที่จะไม่เป็นการขัดขืนต่อการพิจาณา และวินิจฉัยชี้ขาดข้อกล่าวหา คำวินิจฉัยชี้ขาดของคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์จะมีผลบังคับคู่กรณีได้ก็ต่อเมื่อ คณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ได้ปฏิบัติถูกต้องตามวิธีการที่ประกาศดังกล่าวได้กำหนดไว้แล้ว
การที่จำเลยที่ 1 ถึงที่ 7 ในฐานะคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์สั่งให้โจทก์ปฏิบัติตามคำวินิจฉัยชี้ขาดของคณะกรรมการ ย่อมเป็นการโต้แย้งเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ของโจทก์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนคำชี้ขาดของจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 57/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการออกข้อกำหนดต้องสมเหตุผล เพื่อรักษาความเรียบร้อยและกระบวนการพิจารณาเท่านั้น
การที่ศาลจะออกข้อกำหนดใดๆ โดยอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 30 จะต้องเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเพื่อรักษาความเรียบร้อยในบริเวณศาล และเพื่อให้กระบวนพิจารณาดำเนินไปตามเที่ยงธรรมและรวดเร็วเท่านั้น
ท.เรียกเอาเงินจากจำเลยและคู่ความคดีอื่นโดยอ้างว่าเป็นค่าเขียนคำร้องศาลชั้นต้นมีคำสั่งห้ามมิให้ ท.เข้ามาในบริเวณศาลในวันเปิดทำการ ซึ่งรวมทั้งวันอื่นๆ ต่อมาไม่ว่ากรณีใดๆ จึงเป็นการเกินเลยบทบัญญัติมาตราดังกล่าวและไม่ชอบ ดังนั้น ต่อมา ท. มีเหตุจำเป็นเข้ามาในบริเวณศาลในขณะที่ศาลเปิดทำการ อ้างว่าเป็นเพื่อน ส. เพื่อฟังศาลตัดสินเรื่องบุตรชาย ส.ถูกฟ้องกับ ข.ทนายความให้นำเงินมาให้ที่ศาล ท.มิได้เข้ามาในบริเวณศาลเพื่อสร้างความเดือนร้อนแก่ประชาชน การกระทำของ ท.หาเป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 57/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตอำนาจศาลในการออกข้อกำหนดรักษาความเรียบร้อย - การละเมิดอำนาจศาลต้องมีเหตุผลความจำเป็น
การที่ศาลจะออกข้อกำหนดใด ๆ โดยอาศัยอำนาจตามประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 30 จะต้องเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเพื่อรักษาความเรียบร้อยในบริเวณศาล และเพื่อให้กระบวนพิจารณาดำเนินไปตามเที่ยงธรรมและรวดเร็วเท่านั้น
ท.เรียกเอาเงินจากจำเลยและคู่ความคดีอื่นโดยอ้างว่าเป็นค่าเขียนคำร้องศาลชั้นต้นมีคำสั่งห้ามมิให้ ท. เข้ามาในบริเวณศาลในวันเปิดทำการซึ่งรวมทั้งวันอื่น ๆ ต่อมาไม่ว่ากรณีใด ๆ จึงเป็นการเกินเลยบทบัญญัติมาตราดังกล่าวและไม่ชอบ ดังนั้น ต่อมา ท. มีเหตุจำเป็นเข้ามาในบริเวณศาลในขณะที่ศาลเปิดทำการ อ้างว่าเป็นเพื่อน ส.เพื่อฟังศาลตัดสินเรื่องบุตรชายส. ถูกฟ้องกับ ช.ทนายความให้นำเงินมาให้ที่ศาลท. มิได้เข้ามาในบริเวณศาลเพื่อสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนการกระทำของท. หาเป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1235/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อ: ข้อกำหนดซ่อมแซมทรัพย์สินไม่เป็นโมฆะ หากผู้เช่าซื้อสามารถปฏิบัติตามได้
สัญญาเช่าซื้อมีข้อความว่า ในระหว่างอายุสัญญาเช่าซื้อ ผู้เช่าซื้อตกลงจะเก็บรักษา ซ่อมแซม เปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ทรัพย์ที่เช่าซื้อให้คงสภาพเดิม และใช้การได้ดีอยู่เสมอ โดยค่าใช้จ่ายของผู้เช่าซื้อ และถ้าทรัพย์ที่เช่าซื้อเกิดความเสียหายใด ๆ หรือสูญหายแม้แต่บางส่วนไม่ว่าจะเป็นความผิดของผู้เช่าซื้อหรือบุคคลภายนอก หรือโดยอุปัทวเหตุ หรือโดยเหตุสุดวิสัย ผู้เช่าซื้อจะต้องจัดการซ่อมแซมเปลี่ยนแปลงแก้ไขให้คืนสู่สภาพเดิม โดยค่าใช้จ่ายของผู้เช่าซื้อ และผู้เช่าซื้อจะไม่ว่าจ้างบุคคลอื่นนอกจากเจ้าของเป็นผู้ทำการซ่อมแซมทรัพย์ที่เช่าซื้อผู้เช่าซื้อให้สัญญาว่าจะใช้และรักษาทรัพย์ที่เช่าซื้ออย่างวิญญูชนพึงปฏิบัติต่อทรัพย์สินของตนเองข้อกำหนดในสัญญาดังกล่าวข้างต้น เป็นข้อกำหนดซึ่งโจทก์ผู้เช่าซื้อสามารถปฏิบัติได้ หาเป็นการพ้นวิสัยแต่อย่างใดไม่ สัญญาเช่าซื้อจึงไม่เป็นโมฆะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1235/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อ: ข้อกำหนดซ่อมแซมไม่เป็นโมฆะ แม้มีภาระซ่อมแซมสูง
สัญญาเช่าซื้อมีข้อความว่า ในระหว่างอายุสัญญาเช่าซื้อผู้เช่าซื้อตกลงจะเก็บรักษา ซ่อมแซม เปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ทรัพย์ที่เช่าซื้อให้คงสภาพเดิม และใช้การได้ดีอยู่เสมอโดยค่าใช้จ่ายของผู้เช่าซื้อ และถ้าทรัพย์ที่เช่าซื้อเกิดความเสียหายใด ๆ หรือสูญหายแม้แต่บางส่วนไม่ว่าจะเป็นความผิดของผู้เช่าซื้อหรือบุคคลภายนอก หรือโดยอุบัทวเหตุหรือโดยเหตุสุดวิสัย ผู้เช่าซื้อจะต้องจัดการซ่อมแซมเปลี่ยนแปลงแก้ไขให้คืนสู่สภาพเดิม โดยค่าใช้จ่ายของผู้เช่าซื้อ และผู้เช่าซื้อจะไม่ว่าจ้างบุคคลอื่นนอกจากเจ้าของเป็นผู้ทำการซ่อมแซมทรัพย์ที่เช่าซื้อผู้เช่าซื้อให้สัญญาว่าจะใช้และรักษาทรัพย์ที่เช่าซื้ออย่างวิญญูชนพึงปฏิบัติต่อทรัพย์สินของตนเองข้อกำหนดในสัญญาดังกล่าวข้างต้น เป็นข้อกำหนดซึ่งโจทก์ผู้เช่าซื้อสามารถปฏิบัติได้หาเป็นการพ้นวิสัยแต่อย่างใดไม่ สัญญาเช่าซื้อจึงไม่เป็นโมฆะ
of 6