คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ตำแหน่งหน้าที่

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 35 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3374/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจปกครองบังคับบัญชาข้าราชการส่วนท้องถิ่นและการเบียดบังเงินภาษีเข้าประโยชน์ส่วนตัว ถือเป็นการกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่
ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. 2498 มาตรา 30 วรรค 2 และพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457 มาตรา 68,70 ได้ให้อำนาจแก่ปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอในการปกครองบังคับบัญชาข้าราชการส่วนจังหวัดซึ่งประจำอยู่ ณ กิ่งอำเภอนั้นได้ ฉะนั้น เมื่อปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอได้มีคำสั่งกำหนดหน้าที่การงานให้จำเลยซึ่งเป็นพนักงานบัญชีประจำกิ่งอำเภอนั้นมีหน้าที่ผิดชอบในงานจัดเก็บภาษีบำรุงท้องที่ การที่จำเลยเบียดบังเอาเงินค่าภาษีบำรุงท้องที่ซึ่งตนได้รับไว้ในตำแหน่งหน้าที่ไป จึงเป็นการกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการของจำเลยโดยตรง จำเลยจะเถียงว่าไม่ได้กระทำในฐานะเจ้าพนักงานหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3374/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้าราชการส่วนท้องถิ่นเบียดบังเงินภาษีบำรุงท้องที่ การกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่
ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ.2498 มาตรา 30 วรรค 2 และพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ.2457 มาตรา 68,70 ได้ให้อำนาจแก่ปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอในการปกครองบังคับบัญชาข้าราชการส่วนจังหวัดซึ่งประจำอยู่ ณ กิ่งอำเภอนั้นได้ ฉะนั้น เมื่อปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอได้มีคำสั่งกำหนดหน้าที่การงานให้จำเลยซึ่งเป็นพนักงานบัญชีประจำกิ่งอำเภอนั้นมีหน้าที่รับผิดชอบในงานจัดเก็บภาษีบำรุงท้องที่ การที่จำเลยเบียดบังเอาเงินค่าภาษีบำรุงท้องที่ซึ่งตนได้รับไว้ในตำแหน่งหน้าที่ไป จึงเป็นการกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการของจำเลยโดยตรง จำเลยจะเถียงว่าไม่ได้กระทำในฐานะเจ้าพนักงานหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 670/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอเงินโดยอ้างอำนาจตำรวจ ไม่เข้าข่ายข่มขืนใจหรือใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ
จำเลยเป็นตำรวจแต่งเครื่องแบบไปขอเงินผู้เสียหาย โดยอ้างว่าผู้ใหญ่ให้มาเอา เมื่อผู้เสียหายว่าไม่มี จำเลยพูดว่าค้าขายใหญ่โตไม่คิดติดต่อกับตำรวจบ้างหรือแล้วจำเลยกลับไป ต่อมาอีกประมาณ 1 ชั่วโมง จำเลยกลับมาหาผู้เสียหายอีก และบอกว่ารองผู้กำกับการตำรวจให้มาเอาเงิน 3,000-4,000 บาท ผู้เสียหายจะให้เพียง 100 บาท จำเลยว่าไม่พอ ดังนี้ ทางพิจารณาไม่ได้ความว่าจำเลยแกล้งกล่าวหาจับกุมผู้เสียหายในข้อหาใด แล้วจำเลยใช้อำนาจหน้าที่ข่มขืนใจให้ผู้เสียหายมอบเงินแก่จำเลย การที่จำเลยขอเงินจากผู้เสียหาย จำเลยไม่ได้ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ของจำเลยเอง ที่จำเลยพูดว่าค้าขายใหญ่โตไม่คิดติดต่อกับตำรวจบ้างหรือ ก็ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการขู่เข็ญว่าจะทำอันตรายต่อเสรีภาพและทรัพย์สินของผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 และ 337 ประกอบด้วยมาตรา 80

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2458/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องนายอำเภอในฐานะตำแหน่งหน้าที่ แม้ผู้ดำรงตำแหน่งเปลี่ยนไปแล้ว ก็ยังฟ้องได้ตามกฎหมาย
การฟ้องนายอำเภอบ้านค่ายอันมีตำแหน่งหน้าที่การงานในอำเภอแน่นอนเพียงคนเดียวในอำเภอนั้น ถึงแม้นายอำเภอบ้านค่ายจะไม่ใช่นิติบุคคล หรือบุคคลที่ดำรงตำแหน่งนายอำเภออยู่เดิมได้ตายไปแล้วก็ตาม แต่ตำแหน่งนายอำเภออันเป็นตำแหน่งหน้าที่การงานยังคงอยู่ โจทก์จึงฟ้องนายอำเภอบ้านค่ายในทางตำแหน่งหน้าที่ราชการเป็นจำเลยได้ (อ้างฎีกา 824/2504)
โจทก์ฟ้องนายอำเภอบ้านค่ายโดย ข. ในฐานะผู้รักษาราชการแทนเป็นจำเลยที่ 3 โดยบรรยายฟ้องว่า นายอำเภอบ้านค่ายขณะ ข. ดำรงตำแหน่งอยู่ได้ร่วมกับจำเลยที่ 1 ที่ 2 และ ที่ 4 นำเอาที่ดินของสามีจำเลยที่ 1 ซึ่งขายให้โจทก์แล้ว กับที่ดินของโจทก์ซึ่งอยู่ติดต่อกันอีกหนึ่งแปลงไปออกใบแทน ส.ค.1 และรังวัดออก น.ส.3 และทำนิติกรรมขายให้แก่จำเลยที่ 2 ไป ดังนี้ แม้คำฟ้องและคำขอให้จำเลยที่ 3 ร่วมกับจำเลยอื่นใช้ค่าเสียหายในมูลละเมิด 20,000 บาทให้โจทก์ นายอำเภอบ้านค่ายหรือผู้รักษาราชการแทนต่อมาจะไม่ต้องรับผิดชอบด้วย เพราะนายอำเภอไม่ใช่เทศภิบาลปกครองท้องที่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 72 ไม่ใช่นิติบุคคลก็ตาม แต่ฟ้องและคำขอให้ทำลายใบแทน ส.ค.1 น.ส.3 และนิติกรรมซื้อขายที่นายอำเภอบ้านค่ายโดยฐ. เป็นผู้ดำรงตำแหน่งได้ทำการจดทะเบียนไว้ก็หาใช่เป็นการมุ่งฟ้อง ฐ. เป็นส่วนตัวไม่ แต่เป็นการฟ้องนายอำเภอบ้านค่ายในทางตำแหน่งหน้าที่ราชการ การฟ้องเช่นนี้ ข. ในฐานะผู้รักษาราชการแทนนายอำเภอบ้านค่ายไม่ต้องรับผิดเป็นส่วนตัว โจทก์จึงฟ้องจำเลยที่ 3 ได้ (แม้ ข. จะย้ายไปดำรงตำแหน่งอื่นก็จะพิพากษายกฟ้องเกี่ยวกับจำเลยที่ 3 ไม่ได้)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1682/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ องค์ประกอบความผิดมาตรา 151 และ 147: การแสวงหาประโยชน์จากตำแหน่งหน้าที่ vs. การยักยอกทรัพย์
การกระทำที่จะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ก็ต่อเมื่อ ผู้กระทำผิดมีหน้าที่ ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ แล้วใช้อำนาจในตำแหน่งแสวงหาประโยชน์ ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายจากตัวทรัพย์นั้น โดยมิได้เอาตัวทรัพย์ไป ไม่ใช่เพียงแต่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์นั้นเท่านั้น จำเลยได้รับแต่งตั้งให้ดำเนินงานควบคุมจัดการกิจการประปาของเทศบาล ได้ติดตั้งการใช้น้ำประปาให้ ส. กับพวก แล้วไม่ลงทะเบียนผู้ใช้น้ำประปา เรียกเก็บค่าใช้น้ำประปาทุกเดือน และออกหลักฐานจำนวนก๊อกน้ำประปาของผู้ติดตั้งน้อยกว่าความจริง แล้วเก็บเงินมากกว่าจำนวนค่าธรรมเนียมที่เทศบาลกำหนด และโจทก์บรรยายฟ้องเจาะจงว่าจำเลยเบียดบังยักยอกเอาเงินรายได้ 3,955 บาท จากกิจการประปาของเทศบาลที่จำเลยรับไว้จาก ส. กับพวก ไว้เป็นประโยชน์ส่วตัว โดยทุจริต ดังนี้ เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 เท่านั้น จำเลยไม่มีความผิดตามมาตรา 151 ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1022/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตำรวจละเว้นการจับผู้กระทำผิด ขัดขวางพยาน ถือเป็นความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่
จำเลยเป็นพลตำรวจขาดหนีราชการแต่ยังมีหน้าที่จับกุมผู้กระทำผิด ได้ประสพเหตุการณ์กระทำผิดอาญากลับละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ที่จะจับคนร้าย โดยเข้าขัดขวางพูดจาขู่พยานผู้รู้เห็นมิให้ยืนยันว่ารู้เห็นการกระทำผิด การละเว้นปฏิบัติหน้าที่เช่นนี้ เป็นการละเว้นโดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่เจ้าทรัพย์ จึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 46/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข่มขู่ประชาชนเพื่อโน้มน้าวการเลือกตั้งโดยใช้ตำแหน่งหน้าที่ตำรวจ ถือเป็นความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยเป็นจ่านายสิบตำรวจมีหน้าที่เป็นรองหัวหน้าสถานีตำรวจในท้องที่นั้น แม้จำเลยจะไม่ได้แต่งเครื่องแบบ ราษฎรในท้องที่นั้นย่อมรู้จักดีว่าเป็นตำรวจมีอำนาจหน้าที่ในการสืบสวนจับกุมฉะนั้นการที่จำเลยพูดว่า ถ้าราษฎรคนใดไม่เชื่อฟังจำเลยและเลือกพรรคฝ่ายค้าน (พรรคโจทก์) ไม่เลือกพรรคเสรีมนังคศิลาแล้วให้ผู้ใหญ่บ้านจดชื่อส่งอำเภอ อาจถูกจับหาว่าเป็นคอมมูนิสต์นั้นคำพูดเช่นนี้ย่อมเป็นการขู่ให้ราษฎรเกิดความเกรงกลัวได้เป็นการอุปการะแก่การเลือกตั้งของผู้สมัครอีกฝ่ายโดยใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมายเป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2499 มาตรา 65
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 11/2501)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1239/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดเจ้าพนักงานทุจริตหน้าที่ ต้องมีเจตนาใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยตรง
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยในกะทงความผิดฐานทำ ตัดฟัน ชักลากไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตในกะทงความผิดฐานใช้ดวงตราผิดกฎหมายและในกะทงความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานจดหนังสือราชการอันเป็นหลักฐานเท็จ จำคุกจำเลย 3 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนในข้อเท็จจริง แต่แก้โทษลดลงเหลือ 2 ปี เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
บรรยายฟ้องว่า จำเลยเป็นเจ้าพนักงานป่าไม้ จำเลยใช้จ้างวานคนไปตัดฟันชักลากไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ไม่ได้กล่าวว่าจำเลยเอาอำนาจในตำแหน่งหน้าที่ราชการไปใช้จ้างวานคนให้กระทำผิดเช่นนั้นด้วยเลย เช่นนี้ จึงเป็นเรื่องที่ใช้จ้างวานให้คนไปกระทำผิดเป็นส่วนตัว ย่อมจำลงโทษจำเลยฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ในทางทุจริตตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 132 หรือ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 132/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานต้องเป็นผู้ลงนามเอง แม้มีผู้ช่วยทำเอกสาร การลงนามแทนจึงไม่ถือเป็นการกระทำของเจ้าพนักงาน
เสมียนมหาดไทยประจำอำเภอเขียนหรือทำใบแทนใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวแล้วให้นายทะเบียนลงนามตามตำแหน่งหน้าที่นั้น ไม่ใช่เจ้าพนักงานผู้มีตำแหน่งหน้าที่ทำใบแทนใบสำคัญนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 331/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจัดหาผู้เช่าที่ดินหลวงที่เป็นโมฆะ: การใช้ตำแหน่งหน้าที่ช่วยเหลือขัดต่อความสงบเรียบร้อย
รับเป็นนายหน้าจัดให้เขาได้เช่าที่ดินของทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ โดยวิ่งเต้นให้เจ้าหน้าที่ในสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ใช้ตำแหน่งหน้าที่ช่วยเหลือผู้ขอเช่า ดังนี้ ย่อมเป็นการขัดขวางต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน ฉะนั้นความตกลงทั้งหลายในกรณีเช่นนี้ จึงเป็นโมฆะกรรม ใช้บังคับไม่ได้ จึงฟ้องเรียกค่านายหน้าจากผู้เช่า ไม่ได้ด้วย
of 4