คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ที่พิพาท

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 33 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1251/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงให้ศาลวินิจฉัยชี้ขาดที่พิพาทโดยอ้างสภาพที่ดินเป็นพยานย่อมสมบูรณ์ตามกฎหมาย
โจทก์จำเลยตกลงกันขอให้ศาลไปดูสภาพของที่พิพาท แล้วให้ศาลมีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาด ที่พิพาทจะเป็นของคู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ทั้งหมดหรือบางส่วน ตามแต่ศาลจะเห็นสมควร โดยไม่ต้องคำนึงถึง คำพยานที่สืบมาแล้ว และจะยอมรับคำวินิจฉัยชี้ขาดดังกล่าวของศาลเป็นยุติ ข้อตกลงเช่นนี้ เป็นเรื่องสืบพยานธรรมดา โดยอ้างวัตถุพยาน คือ ที่พิพาทเป็นพยานร่วมนั่นเอง ข้อตกลงดังกล่าวนี้ก็สมบูรณ์ตามกฎหมายเพราะเป็นคดีส่วนแพ่ง เป็นเรื่องที่คู่ความจะตกลงกันเช่นนี้ได้ เพราะไม่มีกฎหมายห้าม ตามที่ตกลงกันไว้ นั้นเท่ากับ เป็นการที่ทั้งสองฝ่ายต่างไม่ถือ เอาคำขอและคำต่อสู้คดีในรูปเดิม แต่ขอให้ศาลไปตรวจที่พิพาทแล้ว พิพากษาชี้ขาดได้ตลอดจนได้ยอมให้ศาลแบ่งที่ดินนายพิพาทได้ด้วย คือ จะแบ่งเท่ากันหรือไม่เท่ากันหรือใช้แก่ฝ่ายใดทั้งหมดก็ได้ แล้วแต่ศาลจะเห็นสมควร เมื่อศาลได้ไปตรวจสภาพของที่พิพาทตามข้อตกลง ไม่พบแนวเจตที่จะถือเป็นหลักในการแบ่ง ศาลก็มีอำนาจพิพากษาให้แบ่งที่พิพาทให้แก่โจทก์จำเลยคนละครึ่งได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1273/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่พิพาทระหว่างคดีไม่ขาดอายุความ แม้โจทก์ไม่ฟ้องแย้งเรียกค่าเสียหายในคดีก่อน
การที่คู่ความฝ่ายหนึ่งครอบครองที่พิพาทอยู่ระหว่างคดีนั้น คู่ความฝ่ายที่ครอบครองจะยกเอาสิทธิแห่งการครอบครองดังกล่าวนี้มายันคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้
โจทก์ประมูลซื้อที่ได้จากการขายทอดตลาดของศาล แล้วถูกจำเลยฟ้องกล่าวหาว่าโจทก์ใช้สิทธิไม่สุจริตไปยึดที่จำเลยมาขาย ขอให้ศาลแสดงว่าที่เป็นของจำเลย โจทก์สู้คดี แต่มิได้ฟ้องแย้งเรียกค่าเสียหายในการที่จำเลยยังคงครอบครองที่นั้น ปล่อยจนคดีถึงที่สุด ซึ่งล่วงเลยมา2-3 ปีจึงมาฟ้องเรียกค่าเสียหายฐานละเมิดศาลให้ค่าเสียหายเพียง 1 ปี นอกนั้นขาดอายุความศาลไม่บังคับให้
คดีเรื่องก่อนจำเลยฟ้องว่าที่พิพาทเป็นของจำเลยขอให้ศาลแสดงว่าที่เป็นของจำเลย โจทก์ต่อสู้ว่าเป็นของโจทก์ ได้สู้คดีกัน ในที่สุดโจทก์ชนะคดีเมื่อชนะคดีแล้วโจทก์มาฟ้องเรียกค่าเสียหายที่จำเลยเข้าครอบครองที่นั้นเช่นนี้ไม่เป็นฟ้องซ้ำ เพราะคนละประเด็น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1093/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินโดยไม่สุจริตและการอ้างอายุความ 1 ปี
เมื่อจำเลยไม่ได้ครอบครองที่พิพาทโดยอำนาจปรปักษ์ จำเลยจะอ้างอายุความ 1 ปี มาใช้ยันโจทก์ไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 35/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเก็บเกี่ยวข้าวรวมกันในที่พิพาท แม้เข้าใจผิดก็ถือเป็นการทุจริตฐานลักทรัพย์
ประมูลเช่าที่ดินได้ จึงเข้าทำนา โดยผู้เสียหายก็เข้าแย่งทำด้วยจำเลยเกี่ยวข้าวไปทั้งหมด โดยรู้ว่าเป็นข้าวของผู้เสียหายรวมอยู่ด้วยเป็นการทุจริต เป็นความผิดฐานลักทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2120/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิฟ้องขับไล่จำกัดเฉพาะผู้มีสิทธิครอบครอง หากโจทก์ไม่เคยเข้าครอบครองที่พิพาท ย่อมไม่มีสิทธิฟ้อง
รับในชั้นพิจารณาว่าไม่เคยเข้าครอบครองที่พิพาทตามสัญญาเช่าที่ทำไว้กับสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์และทั้งไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิที่พิพาทหรือมีสิทธิครอบครองตามสัญญาเช่าด้วยแล้ว ดังนี้ความเสียหายย่อมไม่เกิดขึ้น และไม่มีอำนาจฟ้อง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1116/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ: ค่าเสียหายจากการทำประโยชน์ในที่พิพาทหลังมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว
โจทก์ฟ้องจำเลยเรื่องผิดสัญญาซื้อขาย คดีถึงที่สุดศาลบังคับให้จำเลยขายที่รายพิพาทให้แก่โจทก์ แล้วต่อมาโจทก์จะมาฟ้องว่าในระหว่างคดีก่อนนั้นจำเลยเข้าทำผลประโยชน์ในที่รายพิพาท ขอเรียกค่าเสียหายอีกไม่ได้ เป็นฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1116/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ: ค่าเสียหายจากการทำประโยชน์ในที่พิพาทระหว่างคดีสัญญาซื้อขาย
โจทก์ฟ้องจำเลยเรื่องผิดสัญญาซื้อขาย คดีถึงที่สุดศาลบังคับให้จำเลยขายที่รายพิพาทให้แก่โจทก์ แล้วต่อมาโจทก์จะมาฟ้องว่าในระหว่างคดีก่อนนั้นจำเลยเข้าทำผลประโยชน์ในที่รายพิพาท ขอเรียกค่าเสียหายอีกไม่ได้เป็นฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1116/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ: ค่าเสียหายจากการทำประโยชน์ในที่พิพาทหลังมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว
โจทก์ฟ้องจำเลยเรื่องผิดสัญญาซื้อขาย คดีถึงที่สุดศาลบังคับให้จำเลยขายที่รายพิพาทให้แก่โจทก์ แล้วต่อมาโจทก์จะมาฟ้องว่าในระหว่างคดีก่อนนั้นจำเลยเข้าทำผลประโยชน์ในที่รายพิพาท ขอเรียกค่าเสียหายอีกไม่ได้เป็นฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 266/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ: ค่าเสียหายจากการทำนาในที่พิพาทที่เคยมีข้อพิพาทเรื่องกรรมสิทธิ์แล้ว
โจทก์จำเลยเคยเป็นความกัน ฟ้องขอให้แสดงว่าที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิของโจทก์ คดีถึงที่สุดโดยศาลพิพากษาว่า ที่พิพาทเป็นของโจทก์แล้ว โจทก์มาฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลย โดยอ้างว่า จำเลยทำนาในนาพิพาทโดยไม่มีอำนาจ เมื่อปรากฎว่าโจทก์มีทางที่จะเรียกค่าเสียหายที่ได้เกิดขึ้นแล้ว แม้จะเกิดขึ้นต่อไปรวมไปในฟ้องโจทก์ในคดีก่อนได้อยู่แล้วแต่โจทก์ไม่เรียกร้องเสียในคดีก่อนนั้น จะมาฟ้องเรียกภายหลัง ก็ย่อมเป็นฟ้องซ้ำ ( อ้างฎีกาที่ 744/2496 )

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 803/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตรวจสภาพที่พิพาทและการวินิจฉัยชี้ขาดโดยไม่ต้องสืบพยาน: ศาลต้องทำเป็นคำพิพากษา
การที่คู่ความขอให้ศาลไปตรวจดูสภาพที่พิพาทแล้ววินิจฉัย+ โดยต่างไม่สืบพยานบุคคลต่อไปนั้น เป็นเรื่องสืบพยานธรรมดาโดยอ้างวัตถุพยาน คือที่พิพาทเป็นพยานร่วม มิใช่เป็น+ท้าของคู่ความ ฉะนั้นเมื่อศาลชั้นต้นไปดูสภาพของที่พิพาทแล้วเห็นอย่างไร ก็วินิจฉัยชี้ขาดได้ตามที่คู่ความเสนอไว้ได้ แต่ต้องทำเป็นคำพิพากษาให้ถูกต้องครบถ้วนตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 141 จะทำเป็นคำสั่งไม่ได้
of 4