พบผลลัพธ์ทั้งหมด 60 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2293/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยึดถือหนังสือรับรองการทำประโยชน์เป็นประกันหนี้ที่ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ไม่อาจบังคับคดีได้
ส. ยืมเงินจำเลยไปโดยมอบหนังสือรับรองการทำประโยชน์ฉบับพิพาทให้จำเลยยึดถือไว้เป็นประกันหนี้ แต่ไม่มีหลักฐานการกู้ยืมเงินเป็นหนังสือ ดังนี้ แม้ ส. จะยังไม่ได้ชำระหนี้แก่จำเลย จำเลยก็ไม่อาจฟ้องร้องให้บังคับคดีได้ เมื่อหนี้ที่จำเลยอาศัยเป็นมูลเหตุให้ยึดถือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ฉบับ พิพาทไม่อาจฟ้องร้องให้บังคับคดีได้ จำเลยจึงไม่มีสิทธิยึดถือหนังสือรับรองการทำประโยชน์นั้นไว้เป็นประกันหนี้ต่อไป.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 227/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์ต้องเป็นการยึดถือในฐานะเจ้าของ และการครอบครองแทนเจ้าของไม่ทำให้เกิดกรรมสิทธิ์
จำเลยที่ 1 ทำหนังสือสัญญายกที่ดินมีโฉนดให้โจทก์ และรับรองว่าจะกระทำการแบ่งแยกให้ในภายหน้า หากไม่แบ่งให้ตามสัญญายอมให้โจทก์ฟ้องบังคับตามสัญญา ข้อสัญญาดังกล่าวแสดงว่าจำเลยที่ 1 ประสงค์จะยกที่ดินให้โจทก์โดยการทำนิติกรรมและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ หาใช่เป็นกรณีสละการครอบครองไม่ เมื่อการให้รายนี้ยังไม่ได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ นิติกรรมให้ก็ย่อมไม่สมบูรณ์ตามกฎหมายการที่โจทก์เข้าครอบครองที่พิพาทจึงเป็นการครอบครองโดยอาศัยสิทธิของจำเลยที่ 1 อันเป็นการยึดถือที่พิพาทแทนจำเลยที่ 1 มิใช่เป็นการยึดถือในฐานะเป็นเจ้าของ ทั้งไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้เปลี่ยนแปลงลักษณะแห่งการยึดถือโดยบอกกล่าวไปยังจำเลยว่าไม่เจตนาจะยึดถือที่พิพาทแทนจำเลยต่อไป ลำพังแต่การที่โจทก์ต่อเติมขยายบ้านหลังเดิมให้กว้างขวางขึ้น ปลูกโรงมุงจาก 2 หลัง ทำรั้วกันสัตว์ และใช้ประโยชน์จากที่พิพาทโดยจำเลยไม่ห้ามปรามและไม่เข้ามาเกี่ยวข้องหาใช่เป็นการบอกกล่าวเปลี่ยนแปลงลักษณะแห่งการยึดถือไม่ ดังนั้น แม้โจทก์ครอบครองที่พิพาทติดต่อกันเป็นเวลาเกินสิบปี โจทก์ก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1562 ที่ห้ามฟ้องบุพการีของตนเป็นคดีแพ่งหรือคดีอาญาเป็นบทกฎหมายที่จำกัดสิทธิ ต้องตีความโดยเคร่งครัด จึงห้ามเฉพาะบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายฟ้องบุพการีของตนเท่านั้น.(ที่มา-ส่งเสริม)
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1562 ที่ห้ามฟ้องบุพการีของตนเป็นคดีแพ่งหรือคดีอาญาเป็นบทกฎหมายที่จำกัดสิทธิ ต้องตีความโดยเคร่งครัด จึงห้ามเฉพาะบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายฟ้องบุพการีของตนเท่านั้น.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2196/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองอาวุธปืน: เจ้าของเหมืองมอบให้ดูแล แต่ไม่ได้ยึดถือ จึงไม่มีความผิด
เจ้าของเหมืองมอบหมายให้จำเลยซึ่งเป็นหัวหน้าคนงานเป็นผู้ดูแลบ้านในขณะที่เจ้าของเหมืองไม่อยู่ ตำรวจค้นพบอาวุธปืนเอช.เค.33 พร้อมกระสุนปืนในบ้านพักของเจ้าของเหมือง แม้จะได้ความว่าเจ้าของเหมืองได้มอบอาวุธปืนฯ นั้นให้จำเลยเอาไว้ควบคุมคนงานแต่จำเลยมิได้ใช้หรือยึดถืออาวุธปืนนั้นไว้ จึงไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 55,78
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1662/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยึดอาวุธปืนเพื่อห้ามปรามวิวาท ไม่ถือเป็นความผิดฐานมีอาวุธปืนและพกพา
จำเลยแย่งอาวุธปืนของกลางมาจากพวกของจำเลยซึ่งทะเลาะวิวาทกันและยึดถือไว้ชั่วขณะหนึ่งเพื่อบรรเทาเหตุการณ์ร้ายแรงซึ่งอาจเกิดขึ้น ดังนี้เป็นการยึดถือไว้ชั่วคราวจึงไม่ใช่มีอาวุธปืนของกลางไว้ในครอบครอง และจำเลยไม่ได้พาอาวุธปืนของกลางเคลื่อนที่ไป จึงไม่ใช่พาอาวุธปืนของกลางไปในที่สาธารณสถาน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3050/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินโดยอาศัยสิทธิสัญญาจะซื้อขาย การแย่งการครอบครอง และการบอกกล่าวเปลี่ยนลักษณะการยึดถือ
การที่จำเลยเข้าครอบครองที่ดินพิพาท โดยอาศัยสิทธิตามสัญญาจะซื้อขายที่มีข้อตกลงว่าจะไปโอนที่พิพาทกันในภายหลัง เป็นการยึดถือที่พิพาทแทนโจทก์ผู้จะขาย มิใช่เป็นการยึดถือในฐานะเป็นเจ้าของ ถือไม่ได้ว่ามีการแย่งการครอบครอง หากจำเลยจะเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือก็ต้องบอกกล่าวไปยังโจทก์ว่าไม่เจตนาจะยึดถือที่พิพาทแทนโจทก์ต่อไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381 การที่โจทก์บอกกล่าวให้จำเลยซื้อที่พิพาท จำเลยไม่ซื้อ บอกให้จำเลยออกไป จำเลยเพิกเฉย แต่ได้รื้อบ้านไม้ที่ปลูกอยู่ในที่พิพาทแล้วปลูกเป็นบ้านตึกใหม่ ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยได้บอกกล่าวเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือ อันเป็นการแย่งการครอบครองที่พิพาท ดังนั้น จึงไม่อาจเริ่มนับระยะเวลาที่โจทก์ถูกแย่งการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4952/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินหลังจดทะเบียนซื้อขาย การยึดถือแทน vs. ยึดถือเพื่อตนเอง และผลกระทบต่อคำสั่งศาล
เมื่อจำเลยทำสัญญาซื้อขายและจดทะเบยียนโอนที่ดินตามฟ้องแก่โจทก์ กรรมสิทธิ์และสิทธิครอบครองในที่ดินแปลงนั้นย่อมโอนไปเป็นของโจทก์ทันทีโดยไม่ต้องกระทำการส่งมอบกันอีกการที่จำเลยยังคงยึดถือที่ดินดังกล่าวต่อไปเช่นเดิมภายหลังทำสัญญาซื้อขายและจดทะเบียนโอนนั้นเป็นเพียงยึดถือไว้แทนโจทก์เท่านั้น หาใช่ยึดถือเพื่อตนเองไม่ และไม่เป็นการแย่งการครอบครองหรือครอบครองปรปักษ์ต่อโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 โจทก์จึงมีสิทธิในที่ดินตามฟ้องดีกว่าจำเลย หากจำเลยจะยึดถือเพื่อตนเองโดยเจตนาเป็นเจ้าของจำเลยต้องบอกกล่าวแสดงเจตนาเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือให้โจทก์ทราบ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381 คำสั่งของศาลว่าที่ดินตามฟ้องตกเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยตามคำร้องขอแสดงกรรมสิทธิ์นั้น ไม่ผูกพันโจทก์ซึ่งมีสิทธิในที่ดินดีกว่าจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3211/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานชิงทรัพย์สำเร็จหรือไม่ เมื่อสร้อยคอขาดแต่ยังอยู่ในมือชั่วคราว
พวกจำเลยทำร้ายคนที่นั่งอยู่กับผู้เสียหาย จำเลยวิ่งเข้ามากระชากสร้อยคอจากคอผู้เสียหายขาดหล่นลงที่พื้น จำเลยก้มลงจะหยิบเอา แต่ผู้เสียหายหยิบเอาไว้ได้ก่อนการที่สร้อยขาด แม้จะเป็นผลให้ สร้อยติดมือจำเลยชั่วระยะหนึ่ง แต่เป็นการกระทำที่มุ่งหมายให้สร้อยขาดหลุดเท่านั้น จะถือว่าจำเลยยึดถือสร้อยไว้แล้วหาได้ไม่ การยึดถือสร้อยยังไม่บรรลุผลจึงเป็นความผิดฐานพยายามชิงทรัพย์ ไม่ใช่ความผิดสำเร็จ ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339, 80
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2467/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงการยึดถือโฉนดที่ดินเพื่อชำระหนี้: สิทธิเรียกร้องโฉนดเมื่อไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง
โจทก์ให้จำเลยชำระหนี้แก่ ส.แทนโจทก์โดยมีข้อตกลงกันว่าถ้าโจทก์ต้องการที่ดินแปลงนี้โจทก์จะต้องชำระเงินให้แก่จำเลยหรือสามีจำนวนหนึ่ง และให้จำเลยกับสามียึดถือโฉนด จำเลยและสามีจึงมีสิทธิยึดโฉนดไว้จนกว่าโจทก์จะได้ปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าว โจทก์จะอาศัยอำนาจของผู้จัดการมรดกเรียกร้องให้จำเลยส่งมอบโฉนดให้แก่โจทก์ โดยโจทก์มิได้ปฏิบัติตามข้อผูกพันดังกล่าวหาได้ไม่
โจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกฟ้องขอให้จำเลยส่งมอบโฉนดที่ดินซึ่งเป็นมรดก แม้จำเลยจะกล่าวแก้ในคำให้การเป็นทำนองว่าที่ดินตามโฉนดฉบับนี้เป็นของจำเลย แต่ก็ถือได้ว่าจำเลยให้การต่อสู้ว่าจำเลยไม่จำต้องส่งมอบโฉนดที่ดินแก่โจทก์ เป็นคดีฟ้องขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณราคาเป็นเงินได้ มิใช่เป็นคดีพิพาทอันเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ในที่ดิน
โจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกฟ้องขอให้จำเลยส่งมอบโฉนดที่ดินซึ่งเป็นมรดก แม้จำเลยจะกล่าวแก้ในคำให้การเป็นทำนองว่าที่ดินตามโฉนดฉบับนี้เป็นของจำเลย แต่ก็ถือได้ว่าจำเลยให้การต่อสู้ว่าจำเลยไม่จำต้องส่งมอบโฉนดที่ดินแก่โจทก์ เป็นคดีฟ้องขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณราคาเป็นเงินได้ มิใช่เป็นคดีพิพาทอันเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ในที่ดิน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2961/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิครอบครองที่ดิน - การฟ้องคืนการครอบครอง - อายุความ 1 ปี - การยึดถือแทน vs. ยึดถือเพื่อตนเอง
ที่ดินพิพาทเป็นที่ดินมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ปรากฏชื่อโจทก์ในทะเบียนที่ดิน กรณีจึงต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าโจทก์เป็นผู้มีสิทธิครอบครอง ศาลชอบที่จะกำหนดให้จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อน
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทโดยอาศัยสิทธิตามสัญญาขายฝากซึ่งทำไว้แก่ จ. ถือว่าจำเลยครอบครองที่ดินพิพาทแทน จ. โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยภายในระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันที่จำเลยเปลี่ยนลักษณะการยึดถือเพื่อตนเอง อันถือได้ว่าเป็นวันที่โจทก์ถูกแย่งการครอบครอง
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทโดยอาศัยสิทธิตามสัญญาขายฝากซึ่งทำไว้แก่ จ. ถือว่าจำเลยครอบครองที่ดินพิพาทแทน จ. โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยภายในระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันที่จำเลยเปลี่ยนลักษณะการยึดถือเพื่อตนเอง อันถือได้ว่าเป็นวันที่โจทก์ถูกแย่งการครอบครอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 490/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินหลังขายฝาก การครอบครองแทนเจ้าของ และการบอกกล่าวเปลี่ยนลักษณะการยึดถือ
จำเลยขายฝากที่ดินให้โจทก์ ระหว่างขายฝากโจทก์ยินยอมให้จำเลยเข้าหาประโยชน์ในที่ดินโดยอาศัยสิทธิโจทก์ จำเลยมิได้ใช้สิทธิไถ่ที่พิพาทภายในเวลาที่กำหนดจนที่พิพาทหลุดเป็นของโจทก์ แต่จำเลยก็ยังครอบครองที่พิพาทโดยร่วมทุนกับโจทก์ปลูกยาสูบต่อมาอีก จึงถือว่าจำเลยครอบครองที่พิพาทแทนโจทก์ โจทก์บอกให้จำเลยทำสัญญาเช่าที่พิพาทจำเลยไม่ยอมทำสัญญาเช่าโดยอ้างว่าได้ชำระเงินค่าไถ่ถอนที่พิพาทแล้ว แต่เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยยังมิได้ชำระเงินค่าไถ่ถอน เพียงแต่การที่จำเลยไม่ยอมทำสัญญาเช่าที่พิพาทจากโจทก์ จึงยังถือไม่ได้ว่าจำเลยได้บอกกล่าวเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือ โจทก์มีสิทธิฟ้องคดีเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครอง