พบผลลัพธ์ทั้งหมด 30 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1804/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะ 'โรงบ่มใบยา' เป็น 'ร้านค้า' ตามประมวลรัษฎากรหรือไม่? ศาลต้องพิจารณาเพื่อตัดสินการยึดทรัพย์
เจ้าของสถานีบ่มใบยาถูกเจ้าพนักงานประเมินให้เสียภาษีร้านค้าตามประมวลรัษฎากร ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งว่าสถานีบ่มใบยาไม่ใช่ร้านค้าตามลำดับ เจ้าพนักงานคงยืนยันว่าเป็นร้านค้าและได้ทำการยึดทรัพย์เพื่อเสียภาษี เจ้าของสถานีบ่มใบยาจึงเป็นโจทก์ฟ้องเจ้าพนักงานขอให้ถอนการยึดและขอให้ศาลแสดงว่าโรงบ่มใบยาไม่ใช่ร้านค้า ดังนี้ คดีมีประเด็นจะต้องวินิจฉัยว่าสถานีบ่มใบยาเป็นร้านค้าใช่หรือไม่ ศาลจะสั่งงดสืบพยานแล้ววินิจฉัยว่าสถานีบ่มใบยาไม่ใช่ร้านค้าหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2002/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์การเช่าจากที่อยู่อาศัยเป็นร้านค้า ทำให้ไม่ได้รับการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
ชั้นแรกจำเลยได้ตกลงกับโจทก์เช่าห้องเป็นที่อยู่อาศัย ต่อมาจำเลยได้ตกลงกับโจทก์เปลี่ยนแปลงห้องเช่าเป็นร้านค้า และเพิ่มอัตราค่าเช่า ให้โจทก์ด้วย ดังนี้คู่กรณีได้เปลี่ยนแปลงอาคารจากบ้านที่อยู่มาเป็นร้านค้า จำเลยจึงไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2002/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงสภาพอาคารจากที่อยู่อาศัยเป็นร้านค้า ทำให้ไม่ได้รับการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
ชั้นแรกจำเลยได้ตกลงกับโจทก์เช่าห้องเป็นที่อยู่อาศัย ต่อมาจำเลยได้ตกลงกับโจทก์เปลี่ยนแปลงห้องเช่าเป็นร้านค้า และเพิ่มอัตราค่าเช่าให้โจทก์ด้วย ดังนี้คู่กรณีได้เปลี่ยนแปลงอาคารจากบ้านที่อยู่มาเป็นร้านค้า จำเลยจึงไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯลฯ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2106-2108/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประเมินภาษีร้านค้าจากค่าเช่า ต้องมีเหตุผลแสดงว่าค่าเช่าที่ประเมินสูงกว่าค่าเช่าจริง
ผู้เสียภาษีฟ้องข้าหลวงประจำจังหวัดในเรื่องประเมินภาษีและเรียกภาษีที่เก็บเกินไปคืน และข้าหลวงประจำจังหวัดคนใหม่ขอเข้าเป็นจำเลยแทน ไม่มีผู้ใดคัดค้าน ศาลย่อมรับพิจารณาคดีที่ฟ้องกันนั้น
การประเมินภาษีร้านค้าจากเงินค่าเช่านั้นเจ้าพนักงานประเมินจะต้องมีเหตุผล เป็นข้อเท็จจริงที่จะแสดงว่า ร้านค้านั้น ๆ สมควรให้เช่าได้ในจำนวนเงินสูงกว่าค่าเช่าจริง จะเอาค่าเช่าของร้านค้ารายหนึ่ง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ฉะเพาะรายมาเป็นมาตรฐานว่าค่าเช่ารายอื่นต่ำเกินสมควรนั้นไม่ได้.
การประเมินภาษีร้านค้าจากเงินค่าเช่านั้นเจ้าพนักงานประเมินจะต้องมีเหตุผล เป็นข้อเท็จจริงที่จะแสดงว่า ร้านค้านั้น ๆ สมควรให้เช่าได้ในจำนวนเงินสูงกว่าค่าเช่าจริง จะเอาค่าเช่าของร้านค้ารายหนึ่ง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ฉะเพาะรายมาเป็นมาตรฐานว่าค่าเช่ารายอื่นต่ำเกินสมควรนั้นไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 903-905/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ยุ้งข้าวไม่ใช่ร้านค้าตามกฎหมายภาษีอากร หากไม่ได้ใช้ซื้อขายโดยตรง
ร้านค้าตามความหมายในประมวลรัษฎากร ม. 78 วรรค 2 ซึ่งหมายความว่า สถานที่ซึ่งใช้การประกอบหรือดำเนินกิจการค้านั้น จะต้องหมายความอย่างที่คนธรรมดาสามัญเข้าใจกันอยู่โดยทั่วไป คือ หมายความถึงสถานที่ที่ประชาชนทั่วไปจะไปติดต่อทำการซื้อขายหรือทำการขายสินค้าชะนิดนั้น ๆ กับผู้ค้าของชะนิดนั้น ๆ หรือตัวแทนของเขาได้ตามปรกติ
ยุ้งข้าวที่ใช้เก็บข้าวเปลือก ส่วนการซื้อและขายข้าวเปลือกได้ตกลงซื้อหรือขายกันในที่อื่นเมื่อซื้อข้าวได้แล้ว ก็นำเข้ามาเก็บไว้ในยุ้ง และเมื่อขายข้าวแล้วก็มาชั่งตวงข้าวเปลือก ส่งมอบให้ผู้ซื้อที่ยุ้งนี้ ดังนี้ ยุ้งข้าวไม่ใช่ร้านค้าตามความหมายในประมวลรัษฎากร ไม่ต้องเสียภาษีประเภทร้านค้า
ยุ้งข้าวที่ใช้เก็บข้าวเปลือก ส่วนการซื้อและขายข้าวเปลือกได้ตกลงซื้อหรือขายกันในที่อื่นเมื่อซื้อข้าวได้แล้ว ก็นำเข้ามาเก็บไว้ในยุ้ง และเมื่อขายข้าวแล้วก็มาชั่งตวงข้าวเปลือก ส่งมอบให้ผู้ซื้อที่ยุ้งนี้ ดังนี้ ยุ้งข้าวไม่ใช่ร้านค้าตามความหมายในประมวลรัษฎากร ไม่ต้องเสียภาษีประเภทร้านค้า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 903-905/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ยุ้งข้าวไม่ใช่ร้านค้าตามกฎหมายภาษีอากร หากไม่ได้ใช้ซื้อขายโดยตรง
ร้านค้าตามความหมายในประมวลรัษฎากร มาตรา 78 วรรค 2 ซึ่งหมายความว่า สถานที่ซึ่งใช้การประกอบหรือดำเนินกิจการค้านั้น จะต้องหมายความอย่างที่คนธรรมดาสามัญเข้าใจกันอยู่โดยทั่วๆ ไป คือ หมายความถึงสถานที่ที่ประชาชนทั่วไปจะไปติดต่อทำการซื้อขายหรือทำการขายสินค้าชนิดนั้นๆ กับผู้ค้าของชนิดนั้นๆ หรือตัวแทนของเขาได้ตามปกติ
ยุ้งข้าวที่ใช้เก็บข้าวเปลือก ส่วนการซื้อและขายข้าวเปลือกได้ตกลงซื้อหรือขายกันในที่อื่น เมื่อซื้อข้าวได้แล้วก็นำเข้ามาเก็บไว้ในยุ้ง และเมื่อขายข้าวแล้วก็มาชั่งตวงข้าวเปลือก ส่งมอบให้ผู้ซื้อที่ยุ้งนี้ ดังนี้ยุ้งข้าวไม่ใช่ร้านค้าตามความหมายในประมวลรัษฎากร ไม่ต้องเสียภาษีประเภทร้านค้า
ยุ้งข้าวที่ใช้เก็บข้าวเปลือก ส่วนการซื้อและขายข้าวเปลือกได้ตกลงซื้อหรือขายกันในที่อื่น เมื่อซื้อข้าวได้แล้วก็นำเข้ามาเก็บไว้ในยุ้ง และเมื่อขายข้าวแล้วก็มาชั่งตวงข้าวเปลือก ส่งมอบให้ผู้ซื้อที่ยุ้งนี้ ดังนี้ยุ้งข้าวไม่ใช่ร้านค้าตามความหมายในประมวลรัษฎากร ไม่ต้องเสียภาษีประเภทร้านค้า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 586/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้สถานที่เป็นร้านค้าเป็นส่วนใหญ่ ไม่อยู่ภายใต้การคุ้มครองกฎหมายควบคุมค่าเช่า
ครูโรงเรียนประชาบาลต่างจังหวัดเช่าห้องแถวอยู่ แล้วเปิดเป็นร้านค้าเครื่องเขียนและสินค้าเบ็ดเตล็ดมีสินค้าราคาราวพันบาท ยกป้ายและเสียภาษีการค้ามาทุกปีนั้น ย่อมแสดงว่าใช้สถานที่เป็นร้านค้าเป็นส่วนใหญ่ย่อมไม่อยู่ในความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 85/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมีเงินสดในร้านค้าจำนวนน้อย ไม่ถือเป็นความผิด
กรณีที่ร้านค้ามีสตางค์ไว้ 80 บาท โจทก์ไม่แสดงให้เห็นว่าเกินสมควรไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 280/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การค้าเหรียญกษาปณ์และการมีเจตนาค้า
จำเลยตั้งร้านค้าขายมีสินค้าราคาประมาณ 2,000 บาท และเป็นผู้ออกอาชญาบัตรค่าสุกรมีเหรียญกษาปณ์ไว้ในครอบครองเป็นเงิน 162 บาทดังนี้ ไม่เป็นการเกินสมควร ฯลฯ อันจะถือว่าเป็นการค้า
จำเลยมีสตางค์แต่ไม่ทอนให้ลูกค้ายังถือไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาค้าเหรียญกษาปณ์
เหตุเกิดก่อนวันใช้พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติเงินตราในภาวะฉุกเฉินลงวันที่30 เมษายน 2486 จะนำพระราชกำหนดนั้นมาบังคับไม่ได้
จำเลยมีสตางค์แต่ไม่ทอนให้ลูกค้ายังถือไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาค้าเหรียญกษาปณ์
เหตุเกิดก่อนวันใช้พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติเงินตราในภาวะฉุกเฉินลงวันที่30 เมษายน 2486 จะนำพระราชกำหนดนั้นมาบังคับไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6656/2551
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลักทรัพย์ในร้านค้า: กรรมสิทธิ์ยังเป็นของผู้เสียหายจนกว่าจะชำระเงิน การซุกซ่อนสินค้าแสดงเจตนาทุจริต
หลักเรื่องการโอนกรรมสิทธิ์ตามบทบัญญัติของกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่จำเลยกล่าวอ้างมานั้น เป็นหลักการพิจารณาเกี่ยวกับความรับผิดในทางแพ่งของสัญญาซื้อขายที่ได้มีการกระทำโดยสุจริต ซึ่งเป็นคนละกรณีกับการพิจารณาความรับผิดในทางอาญาดังเช่นกรณีนี้ เนื่องจากทรัพย์สินของผู้เสียหายที่วางไว้ในร้านของผู้เสียหายเพื่อจำหน่ายแก่ผู้มาซื้อ กรรมสิทธิ์และสิทธิครอบครองในทรัพย์สินดังกล่าวย่อมเป็นของผู้เสียหาย แต่เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยเอาไปซึ่งทรัพย์สินดังกล่าวด้วยวิธีการนำไปซุกซ่อนไว้ในเสื้อผ้าของจำเลย โดยมีเจตนาที่จะไม่ชำระราคาทรัพย์สินนั้น จึงเป็นการกระทำโดยเจตนาทุจริตเพื่อได้ทรัพย์สินของผู้เสียหายดังกล่าวไป การกระทำของจำเลยจึงครบองค์ประกอบความผิดฐานลักทรัพย์แล้ว