พบผลลัพธ์ทั้งหมด 57 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 911/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานพยายามลักทรัพย์/ชิงทรัพย์ ต้องลงมือกระทำความผิดแล้ว แม้หลอกลวงพาผู้เสียหายไป ก็ไม่ถือเป็นความผิด
จำเลยหลอกลวงพาผู้เสียหายไปเพื่อลักทรัพย์หรือชิงทรัพย์ เมื่อพาไปถึงที่เกิดเหตุ จำเลยให้ผู้เสียหายนั่งรออยู่ก่อน ยังมิทันได้กระทำการอันใดที่จะถือได้ว่าลงมือลักทรัพย์ก็มีตำรวจมาค้นและจับจำเลยไปเสียก่อน เช่นนี้ ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยกระทำผิดฐานพยายามลักทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1786-1787/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพยายามฆ่าต้องลงมือจนสำเร็จ และกฎหมายยกเว้นโทษอาวุธปืนเมื่อปฏิบัติตามเงื่อนไข
จำเลยเพียงแต่ชักปืนจากเอว ยังไม่ทันได้ยกจ้องยิงไปทางผู้เสียหาย ก็ถูกผู้เสียหายใช้สันมีดตีศีรษะจนปืนหลุดจากมือ การลงมือจึงยังไม่เริ่มต้นขึ้น จำเลยไม่มีความผิดฐานพยายามฆ่า
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกระทำผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา มีพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ(ฉบับที่ 6) พ.ศ.2518 บัญญัติให้ผู้มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิด นำไปขอรับอนุญาตหรือนำไปมอบให้นายทะเบียนท้องที่ได้แล้วแต่กรณีภายใน 90 วัน นับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ โดยผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ เมื่อคดียังอยู่ในระหว่างเวลา 90 วัน ก็ต้องถือว่าในระหว่างระยะเวลานี้ กฎหมายได้ยกเว้นโทษให้แก่จำเลยแล้ว ศาลจึงต้องพิพากษายกฟ้องโจทก์ และไม่ริบของกลาง
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกระทำผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา มีพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ(ฉบับที่ 6) พ.ศ.2518 บัญญัติให้ผู้มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิด นำไปขอรับอนุญาตหรือนำไปมอบให้นายทะเบียนท้องที่ได้แล้วแต่กรณีภายใน 90 วัน นับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ โดยผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ เมื่อคดียังอยู่ในระหว่างเวลา 90 วัน ก็ต้องถือว่าในระหว่างระยะเวลานี้ กฎหมายได้ยกเว้นโทษให้แก่จำเลยแล้ว ศาลจึงต้องพิพากษายกฟ้องโจทก์ และไม่ริบของกลาง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1776/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา แม้ลงมือเพียงครั้งเดียว โดยไม่สามารถอ้างเหตุป้องกันตัวหรือบันดาลโทสะได้
เมื่อผู้ตายล้มลงและจอบหลุดจากมือ ผู้ตายไม่อาจจะทำร้ายจำเลยได้การที่จำเลยได้ใช้จอบของผู้ตายตีผู้ตายขณะล้มนอนอยู่ จนกะโหลกศีรษะแตก แสดงว่าตีโดยแรง แม้ตีเพียง 1 ที ก็ถือว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า จะอ้างว่ากระทำเพื่อเป็นการป้องกันตัวไม่ได้
จำเลยเป็นฝ่ายก่อเหตุขึ้นก่อน โดยเปิดน้ำในนาของผู้ตายจนแห้งเพื่อนำเข้าไปใช้ในนาของจำเลย เมื่อผู้ตายมาด่าและท้าจำเลย จำเลยทำร้ายผู้ตาย ดังนี้ จะอ้างว่ากระทำไปโดยบันดาลโทสะไม่ได้
จำเลยเป็นฝ่ายก่อเหตุขึ้นก่อน โดยเปิดน้ำในนาของผู้ตายจนแห้งเพื่อนำเข้าไปใช้ในนาของจำเลย เมื่อผู้ตายมาด่าและท้าจำเลย จำเลยทำร้ายผู้ตาย ดังนี้ จะอ้างว่ากระทำไปโดยบันดาลโทสะไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1746/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยายามฆ่า: การลงมือกระทำความผิดเริ่มตั้งแต่ยกปืนเล็งเป้าหมาย แม้ยังไม่ถึงขั้นยิง
การที่จำเลยยกปืนที่บรรจุกระสุนซึ่งพร้อมที่จะยิงได้จ้องไปยังผู้เสียหายโดยมีเจตนาที่จะยิง แต่มีผู้ร้องห้ามและเข้ากอดจำเลยไว้ ประกอบกับผู้เสียหายวิ่งหนีเสียทันแม้จะไม่ได้ความชัดว่า ปืนนั้นได้ขึ้นนกแล้วหรือยังหรือนิ้วมือจำเลยแตะอยู่ในไกปืนพร้อมที่จะยิงได้แล้วหรือไม่ จำเลยก็มีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2363/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาขนย้ายสัตว์เข้าเขตควบคุม – ขั้นเตรียมการ vs. ลงมือกระทำความผิด
จำเลยขนย้ายกระบือโดยใช้รถยนต์บรรทุกเป็นพาหนะ แล้วถูกตำรวจสกัดจับได้ ห่างจากเขตท้องที่อันเป็นเขตควบคุมการเคลื่อนย้ายกระบือตามประกาศของคณะกรรมการฯ เป็นระยะทางประมาณ 28 กิโลเมตร และก่อนหน้าจะถึงเขตควบคุมฯ ยังมีทางแยกไปอำเภออื่นอีกได้ ดังนี้ หากถือว่ามีเจตนากระทำผิดก็ห่างไกลต่อความผิดสำเร็จ ไม่ถือว่าเป็นการลงมือกระทำความผิด จัดอยู่ในชั้นเตรียมการเท่านั้น จากพฤติการณ์และเหตุแวดล้อมต่างๆ ไม่พอบ่งชี้ว่ามีเจตนากระทำผิดฐานพยายามขนย้ายกระบือเข้าไปในเขตควบคุมฯ ตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคและของอื่นๆในภาวะคับขันพ.ศ.2488
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 276/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พฤติการณ์ไล่ทำร้ายด้วยอาวุธใกล้ชิด ถือเป็นการลงมือกระทำความผิดฐานพยายามทำร้ายร่างกาย แม้จะทำสำเร็จไม่ได้
จำเลยถือมีดพร้ายาวประมาณ 2 ศอก ในท่าเงื้อจะฟันวิ่งไล่ตามหลังผู้เสียหายไปเป็นระยะทาง 10 วา และห่างกันเพียง 2 วา การกระทำของจำเลยดังนี้ใกล้ชิดต่อ ผลแห่งการทำร้าย ถือว่าเป็นการลงมือกระทำความผิดแล้ว แต่กระทำไปไม่ตลอดเพราะผู้เสียหายวิ่งเร็ว จำเลยไล่ไม่ทัน แม้ฟันไม่สำเร็จก็ต้องมีความผิดฐานพยายามทำร้ายร่างกาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1238/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน: การยกปืนเล็งจ้องแสดงเจตนาลงมือ แม้จะทำไม่สำเร็จ
จำเลยมีอาการเมาสุราไม่พอใจและโกรธผู้เสียหายที่สั่งให้จำเลยออกจากห้อง จึงกลับไปเอาปืนคาร์ไบน์มาหาผู้เสียหายยืนบนบันได ยกปืนซึ่งบรรจุกระสุนอยู่พร้อมที่จะยิงได้ขึ้นประทับบ่าเล็งจ้องไปที่ผู้เสียหายในระยะห่าง 5 เมตรเศษ ดังนี้ ถือได้ว่าเป็นการลงมือกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 864/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน: พยานจากแผนการร่วมและการแสดงออกก่อนลงมือ
จำเลยกับพวกไปที่เรือนผู้ตาย ชวนผู้ตายพูดคุยด้วย และเมื่อก่อนจะลงมือฆ่ามีการพูดข้อความประโยคหนึ่ง แล้วจำเลยกับพวกต่างลุกขึ้นพร้อม ๆ กัน ชักปืนสั้นออกมายิงผู้ตาย แสดงว่ามีแผนนัดหมายกันมาก่อนกระทำการ ถือว่าเป็นการฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 455/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาพยายามฆ่า: การเงื้อมีดขู่ ไม่ถึงขั้นลงมือทำร้าย
จำเลยเงื้อมีดในขณะที่ยังอยู่ห่างผู้เสียหายในระยะที่จำเลยไม่อาจทำร้ายผู้เสียหายได้ และมีคนขวางอยู่ถึงสองคนก่อนที่จะถึงตัวผู้เสียหายลักษณะที่จำเลยเงื้อมีดขึ้นโดยไม่มีโอกาสฟันทำร้ายผู้เสียหายได้ เช่นนี้น่าจะเพียงเพื่อขู่ผู้เสียหายเท่านั้น ยังฟังไม่ได้ว่าถึงขั้นเจตนาจะฆ่า อันจะมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1647/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยายามฆ่า: การชักปืนเตรียมการยังไม่ถึงขั้นลงมือ
จำเลยมาพบผู้เสียหายที่บ่อน้ำ ผู้เสียหายพูดกับจำเลยเรื่องทำร้ายหลานชายผู้เสียหายซึ่งเป็นใบ้ จำเลยไม่พอใจผู้เสียหายและพูดว่า เดี๋ยวยิง ผู้เสียหายท้าให้ยิง จำเลยจึงควักปืนออกมาปากกระบอกเพิ่งพ้นจากเอวยังไม่ทันหันมาทางผู้เสียหาย ก็ถูกผู้เสียหายแย่งไปได้ การที่จำเลยชักปืนออกมาเป็นเพียงเตรียมการเอาปืนออกมาเท่านั้น ยังไม่ถึงขั้นลงมือ การที่จำเลยเพียงแต่ควักปืนยังไม่พ้นจากเอว จำเลยอาจทำท่าขู่ก็ได้ พฤติการณ์ยังไม่พอฟังว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า การกระทำของจำเลยจึงยังไม่เป็นพยายามกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80