คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สมาชิกภาพ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 36 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4648/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตข้อผูกพันตามข้อตกลงสภาพการจ้าง: สมาชิกภาพสหภาพแรงงานและการมีส่วนร่วมในการเจรจา
โจทก์มิได้เป็นสมาชิกของสหภาพแรงงานซึ่งเป็นผู้ยื่นข้อเรียกร้องต่อจำเลยทั้งโจทก์ไม่ได้ลงลายมือชื่อในข้อเรียกร้องหรือมีส่วนในการเลือกตั้งผู้แทนซึ่งเข้าร่วมในการเจรจากับจำเลยผู้เป็นนายจ้าง จนได้มาซึ่งข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างซึ่งโจทก์อ้างมาเป็นมูลในการฟ้องคดีนี้ และไม่ปรากฎว่าลูกจ้างที่เป็นสมาชิกของสภาพแรงงานซึ่งยื่นข้อเรียกร้องมีลูกจ้างเป็นสมาชิกเกินกว่าสองในสามของลูกจ้างทั้งหมด ทั้งไม่มีพฤติการณ์อันใดที่แสดงว่า จำเลยมีเจตนาที่จะให้ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างมีผลผูกพันจำเลยและลูกจ้างทุกคนของจำเลย โจทก์จึงหาได้รับประโยชน์จากข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1873/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของสหภาพแรงงาน: ต้องแสดงสมาชิกภาพของลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบ
โจทก์เป็นสหภาพแรงงานซึ่งมีอำนาจและหน้าที่ตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518 มาตรา 98 ที่จะกระทำการอันใดอันหนึ่งเพื่อประโยชน์ของสมาชิกสหภาพแรงงานโดยเฉพาะ เมื่อโจทก์ฟ้องจำเลยขอให้เพิกถอนระเบียบใหม่ที่ออกมาใช้บังคับซึ่งขัดหรือแย้งกับระเบียบเดิม และไม่เป็นคุณแก่ลูกจ้างใหม่โดยมิได้บรรยายฟ้องว่า ลูกจ้างใหม่ที่จำเลยได้ทำสัญญาจ้างภายหลังวันที่ระเบียบใหม่มีผลใช้บังคับนั้นได้เป็นสมาชิกของโจทก์ด้วยหรือไม่ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยขอให้เพิกถอนระเบียบฉบับใหม่ดังกล่าว โดยอ้างว่าเป็นโทษต่อลูกจ้างที่เข้ามาใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3424/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สมาชิกสภาเทศบาลขาดสมาชิกภาพหลังอุปสมบท และอำนาจการยื่นคำร้องของเทศบาล
พ.ร.บ.เทศบาลพ.ศ.2496มาตรา7วรรคสองบัญญัติให้เทศบาลเป็นทบวงการเมืองมีอำนาจหน้าที่ตามพ.ร.บ.ดังกล่าวและกฎหมายอื่นเทศบาลเป็นผู้มีส่วนได้เสียโดยตรงที่จะต้องดูแลว่าสมาชิกสภาเทศบาลผู้ใดขาดจากสมาชิกภาพหรือไม่เทศบาลจึงมีอำนาจหน้าที่ที่จะยื่นคำร้องให้ศาลวินิจฉัยว่าสมาชิกสภาเทศบาลขาดจากสมาชิกภาพของสภาเทศบาลการยื่นคำร้องไม่อยู่นอกขอบวัตถุประสงค์ของหน้าที่เทศบาลและเทศบาลมีอำนาจยื่นคำร้องได้เองโดยไม่ต้องให้นายกเทศมนตรีทำการแทนในนามของนายกเทศมนตรี เมื่อการเป็นพระภิกษุเป็นลักษณะต้องห้ามสำหรับผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลสมาชิกสภาเทศบาลซึ่งลาไปอุปสมบทเป็นพระภิกษุเพียงชั่วคราวหลังวันเลือกตั้งจึงมีลักษณะต้องห้ามสำหรับผู้สมัครรับเลือกตั้งตามความหมายของพ.ร.บ.เทศบาลพ.ศ.2496มาตรา19(4)เป็นผลให้สมาชิกภาพของสมาชิกสภาเทศบาลผู้นั้นสิ้นสุดลงตั้งแต่วันที่อุปสมบทโดยไม่ต้องคำนึงว่าเป็นการอุปสมบทเพียงชั่วคราวและได้ลาอุปสมบทแล้วหรือไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3864/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สมาชิกสภาเทศบาลสิ้นสุดสมาชิกภาพเมื่ออุปสมบท แม้เป็นการอุปสมบทชั่วคราว
ตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 มาตรา 19 บัญญัติไว้แจ้งชัดว่าสมาชิกภาพแห่งสภาเทศบาลย่อมสิ้นสุดลงเมื่อผู้นั้นมีลักษณะต้องห้าม อันรวมถึงการเป็นภิกษุด้วยซึ่งย่อมหมายถึงผู้ได้รับเลือกตั้งจนเข้าดำรงตำแหน่งหน้าที่สมาชิกสภาเทศบาลโดยสมบูรณ์แล้วและจะพ้นจากความเป็นสมาชิกแห่งสภาเทศบาลนั้นทันทีที่ได้อุปสมบทเข้าสู่สมณเพศอันได้ชื่อว่าเป็นภิกษุ โดยไม่คำนึงว่าจะเป็นเพียงชั่วคราวแล้วลาสิกขาก็ตาม เพราะไม่มีกฎหมายอนุญาตให้ลาอุปสมบทหรืออนุโลมให้ถือเสมือนเป็นการลากิจ และกฎหมายหาได้ห้ามการเป็นภิกษุเฉพาะในวันที่มีการเลือกตั้งเท่านั้นไม่ ดังนั้น เมื่อจำเลยได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาเทศบาลแล้วได้อุปสมบทเป็นภิกษุ จำเลยจึงพ้นจากสมาชิกภาพแห่งสภาเทศบาลตั้งแต่วันเป็นภิกษุโดยผลแห่งกฎหมายดังกล่าว
ตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2490 มาตรา 19 ให้โอกาสคู่ความนำปัญหาที่ยังโต้เถียงกันอยู่ทั้งในข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายมาสู่ศาลเพื่อวินิจฉัยชี้ขาดเป็นยุติเท่านั้น จำเลยขาดจากสมาชิกภาพโดยผลแห่งกฎหมายไปแล้ว และไม่มีกฎหมายรับรองให้กลับคืนสมาชิกภาพได้อีก กฎหมายบัญญัติเพียงไม่กระทบกระทั่งการที่สมาชิกนั้นได้ปฏิบัติหน้าที่ในสภาก่อนที่มีการชี้ขาดของศาลโดยหาได้รวมถึงสมาชิกภาพไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3864/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สมาชิกภาพสภาเทศบาลสิ้นสุดลงเมื่ออุปสมบท แม้ชั่วคราว เหตุมีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย
ตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 มาตรา 19 บัญญัติไว้แจ้งชัดว่าสมาชิกภาพแห่งสภาเทศบาลย่อมสิ้นสุดลงเมื่อผู้นั้นมีลักษณะต้องห้าม อันรวมถึงการเป็นภิกษุด้วยซึ่งย่อมหมายถึงผู้ได้รับเลือกตั้งจนเข้าดำรงตำแหน่งหน้าที่สมาชิกสภาเทศบาลโดยสมบูรณ์แล้วและจะพ้นจากความเป็นสมาชิกแห่งสภาเทศบาลนั้นทันทีที่ได้อุปสมบทเข้าสู่สมณเพศอันได้ชื่อว่าเป็นภิกษุ โดยไม่คำนึงว่าจะเป็นเพียงชั่วคราวแล้วลาสิกขาก็ตาม เพราะไม่มีกฎหมายอนุญาตให้ลาอุปสมบทหรืออนุโลมให้ถือเสมือนเป็นการลากิจ และกฎหมายหาได้ห้ามการเป็นภิกษุเฉพาะในวันที่มีการเลือกตั้งเท่านั้นไม่ ดังนั้น เมื่อจำเลยได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาเทศบาลแล้วได้อุปสมบทเป็นภิกษุ จำเลยจึงพ้นจากสมาชิกภาพแห่งสภาเทศบาลตั้งแต่วันเป็นภิกษุโดยผลแห่งกฎหมายดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2490 มาตรา 19 ให้โอกาสคู่ความนำปัญหาที่ยังโต้เถียงกันอยู่ทั้งในข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายมาสู่ศาลเพื่อวินิจฉัยชี้ขาดเป็นยุติเท่านั้น จำเลยขาดจากสมาชิกภาพโดยผลแห่งกฎหมายไปแล้ว และไม่มีกฎหมายรับรองให้กลับคืนสมาชิกภาพได้อีก กฎหมายบัญญัติเพียงไม่กระทบกระทั่งการที่สมาชิกนั้นได้ปฏิบัติหน้าที่ในสภาก่อนที่มีการชี้ขาดของศาลโดยหาได้รวมถึงสมาชิกภาพไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 703/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสิ้นสุดสมาชิกภาพสภาเทศบาลจากคำพิพากษาจำคุกและการมีลักษณะต้องห้าม
พระราชบัญญัติเทศบาล มาตรา 19(4) บัญญัติว่าสมาชิกภาพแห่งสภาเทศบาลย่อมสิ้นสุดลงเมื่อขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามสำหรับผู้สมัครรับเลือกตั้งตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล ซึ่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล มาตรา 21(9) บัญญัติว่าผู้ต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาลหรือโดยคำสั่งนั้น เป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ผู้คัดค้านถูกศาลฎีกาพิพากษาจำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาลในขณะดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาล ผู้คัดค้านจึงขาดจากสมาชิกภาพแห่งสภาเทศบาลตามนัยกฎหมายดังกล่าว
พระราชบัญญัติเทศบาล มาตรา 71 วรรคแรก บัญญัติให้ผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจหน้าที่ควบคุมดูแลเทศบาลในจังหวัดนั้น เมื่อผู้คัดค้านซึ่งเป็นสมาชิกสภาเทศบาลถูกจำคุกตามคำพิพากษาของศาล ผู้ว่าราชการจังหวัดย่อมมีอำนาจยื่นคำร้องขอให้ขาดจากสมาชิกภาพแห่งสภาเทศบาลได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2217/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สมาชิกภาพ ส.ส.ท. เริ่มเมื่อประกาศผลเลือกตั้ง เงินค่าป่วยการเริ่มเมื่อเข้ารับหน้าที่ (ปฏิญาณตน)
สมาชิกภาพของสมาชิกสภาเทศบาลผู้ได้รับเลือกตั้งนั้นเริ่มแต่วันที่เทศบาลประกาศผลของการเลือกตั้ง มิใช่เริ่มแต่วันปฏิญาณตนเข้ารับหน้าที่
เงินค่าป่วยการซึ่งจะจ่ายให้แก่สมาชิกสภาเทศบาลตามข้อบังคับกระทรวงมหาดไทยฯ นั้น มีลักษณะเป็นเงินตอบแทนการปฏิบัติหน้าที่ของสมาชิกสภาเทศบาล มีสิทธิที่จะได้รับเงินค่าป่วยการจึงเริ่มแต่วันเข้ารับหน้าที่เป็นต้นไป มิใช่วันเริ่มสมาชิกภาพ
ตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 มาตรา 17 สมาชิกสภาเทศบาลต้องปฏิญาณตนในที่ประชุมสภาเทศบาลก่อนเข้ารับหน้าที่ จึงต้องถือว่าสมาชิกสภาเทศบาลเข้ารับหน้าที่ตั้งแต่วันปฏิญาณตน และมีสิทธิได้รับเงินค่าป่วยการตามส่วน นับแต่วันดังกล่าวโดยคำนวณจากเงินค่าป่วยการรายเดือน
ข้อบังคับกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการจ่ายเงินค่าป่วยการฯ ที่ว่าให้สมาชิกสภาเทศบาลได้รับเงินค่าป่วยการเป็นรายเดือนนั้น เป็นเพียงกำหนดเวลาจ่ายเงินค่าป่วยการไว้ว่าให้จ่ายเป็นเดือน ๆ ไป หาได้หมายความเลยไปถึงว่า แม้ก่อนเข้ารับหน้าที่ สมาชิกสภาเทศบาลก็มีสิทธิได้รับเงินค่าป่วยการ (เต็มทั้งเดือน) ด้วยไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2217/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สมาชิกภาพ ส.ส.ท. เริ่มเมื่อประกาศผลเลือกตั้ง เงินค่าป่วยการเริ่มเมื่อเข้ารับหน้าที่ (ปฏิญาณตน)
สมาชิกภาพของสมาชิกสภาเทศบาลผู้ได้รับเลือกตั้งนั้นเริ่มแต่วันที่เทศบาลประกาศผลของการเลือกตั้ง มิใช่เริ่มแต่วันปฏิญาณตนเข้ารับหน้าที่
เงินค่าป่วยการซึ่งจะจ่ายให้แก่สมาชิกสภาเทศบาลตามข้อบังคับกระทรวงมหาดไทยฯ นั้น มีลักษณะเป็นเงินตอบแทนการปฏิบัติหน้าที่ของสมาชิกสภาเทศบาล มีสิทธิที่จะได้รับเงินค่าป่วยการจึงเริ่มแต่วันเข้ารับหน้าที่เป็นต้นไป มิใช่วันเริ่มสมาชิกภาพ
ตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 มาตรา 17 สมาชิกสภาเทศบาลต้องปฏิญาณตนในที่ประชุมสภาเทศบาลก่อนเข้ารับหน้าที่ จึงต้องถือว่าสมาชิกสภาเทศบาลเข้ารับหน้าที่ตั้งแต่วันปฏิญาณตน และมีสิทธิได้รับเงินค่าป่วยการตามส่วน นับแต่วันดังกล่าวโดยคำนวณจากเงินค่าป่วยการรายเดือน
ข้อบังคับกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการจ่ายเงินค่าป่วยการฯ ที่ว่าให้สมาชิกสภาเทศบาลได้รับเงินค่าป่วยการเป็นรายเดือนนั้น เป็นเพียงกำหนดเวลาจ่ายเงินค่าป่วยการไว้ว่าให้จ่ายเป็นเดือน ๆ ไป หาได้หมายความเลยไปถึงว่า แม้ก่อนเข้ารับหน้าที่ สมาชิกสภาเทศบาลก็มีสิทธิได้รับเงินค่าป่วยการ (เต็มทั้งเดือน) ด้วยไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 722/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีฉ้อโกงและการฟ้องคดีเกี่ยวกับสมาคม: ผู้เสียหายและสมาชิกภาพ
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยเจตนาทุจริตใช้อุบายหลอกลวงนางคอย ทรัพย์อ่วม โจทก์และประชาชนด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จและปกปิดความจริง แต่มิได้บรรยายมาในฟ้องว่าความจริงเป็นอย่างไร และความเท็จเป็นอย่างไรฟ้องโจทก์จึงไม่มีมูลเป็นความผิดฐานฉ้อโกง
โจทก์ไม่ใช่สมาชิกของสมาคมได้ฟ้องสมาคมซึ่งจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลแล้วกับพวกเป็นจำเลย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัดสมาคมและมูลนิธิ พ.ศ.2499มาตรา 52,53,5556 ตามมาตรา 53 ของพระราชบัญญัติดังกล่าวเป็นเรื่องที่สมาชิกของสมาคมจะดำเนินคดี โจทก์จะมาดำเนินคดีหาได้ไม่ และตามมาตรา 52,55 โจทก์ก็ไม่ใช่ผู้เสียหายส่วนมาตรา 56ก็เป็นเรื่องของสมาคมที่ยังไม่ได้จดทะเบียนแต่เรื่องนี้สมาคมจำเลยได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายแล้ว ฟ้องโจทก์จึงไม่เป็นฟ้องที่ควรรับไว้พิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 722/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีฉ้อโกงและคดีเกี่ยวกับสมาคม: ผู้เสียหายและสมาชิกภาพ
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยเจตนาทุจริตใช้อุบายหลอกลวงนางคอย ทรัพย์อ่วม. โจทก์และประชาชนด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จและปกปิดความจริง. แต่มิได้บรรยายมาในฟ้องว่าความจริงเป็นอย่างไร. และความเท็จเป็นอย่างไร.ฟ้องโจทก์จึงไม่มีมูลเป็นความผิดฐานฉ้อโกง.
โจทก์ไม่ใช่สมาชิกของสมาคม. ได้ฟ้องสมาคมซึ่งจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลแล้วกับพวกเป็นจำเลย. ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคม และมูลนิธิ พ.ศ.2499มาตรา 52,53,5556 ตามมาตรา 53 ของพระราชบัญญัติดังกล่าวเป็นเรื่องที่สมาชิกของสมาคมจะดำเนินคดี. โจทก์จะมาดำเนินคดีหาได้ไม่. และตามมาตรา 52,55 โจทก์ก็ไม่ใช่ผู้เสียหาย. ส่วนมาตรา 56ก็เป็นเรื่องของสมาคมที่ยังไม่ได้จดทะเบียนแต่เรื่องนี้สมาคมจำเลยได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายแล้ว. ฟ้องโจทก์จึงไม่เป็นฟ้องที่ควรรับไว้พิจารณา.
of 4