คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สู้ราคา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 35 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1300/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้สู้ราคาสูงสุดในการขายทอดตลาดมีหน้าที่ชำระราคาแม้มีการอุทธรณ์คำสั่งขาย แต่หากไม่ชำระต้องรับผิดในความเสียหาย
การขายทอดตลาดทรัพย์ตามคำสั่งศาล ผู้สู้ราคาจะพ้นความผูกพันในราคาซึ่งตนสู้ขณะเมื่อมีผู้อื่นสู้ราคาสูงขึ้นไป หรือเมื่อได้ถอนทรัพย์สินรายนั้นจากการทอดตลาดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 514 เมื่อผู้ร้องเป็นผู้เข้าสู้ราคาเสนอราคาสูงสุด ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้ขายแก่ผู้ร้อง การขายทอดตลาดย่อมบริบูรณ์ แม้จำเลยจะได้อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้ขายทอดตลาดทรัพย์สินของจำเลย และศาลชั้นต้นได้อนุญาตให้ผู้ร้องไม่ต้องวางเงินส่วนที่ค้างชำระกับคืนเงินที่ผู้ร้องได้วางไว้ต่อศาลให้แก่ผู้ร้องนั้น ก็มีผลเพียงผู้ร้องยังไม่ต้องใช้ราคาค่าซื้อทรัพย์จนกว่าคดีจะถึงที่สุดเท่านั้น หาเป็นเหตุให้ผู้ร้องพ้นความผูกพันในราคาสูงสุดที่ตนสู้ไม่ต่อมาเมื่อศาลฎีกาพิพากษายืนให้ขายทอดตลาดทรัพย์สินของจำเลยแก่ผู้ร้อง ผู้ร้องต้องใช้ราคาที่ค้างชำระอยู่ทั้งหมด เมื่อผู้ร้องละเลยเสียไม่ใช้ราคา จนศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เอาทรัพย์สินนั้นออกขายทอดตลาดใหม่ ถ้าได้เงินสุทธิไม่คุ้มราคาและค่าขายทอดตลาดชั้นเดิม ผู้ร้องต้องรับผิดในส่วนที่ขาด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 516

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1300/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายทอดตลาด: ผู้สู้ราคาสูงสุดยังผูกพัน แม้มีคำสั่งศาลชะลอการชำระราคา จนกว่าคดีถึงที่สุด
การขายทอดตลาดทรัพย์ตามคำสั่งศาล ผู้สู้ราคาจะพ้นความผูกพันในราคาซึ่งตนสู้ขณะเมื่อมีผู้อื่นสู้ราคาสูงขึ้นไป หรือเมื่อได้ถอนทรัพย์สินรายนั้นจากการทอดตลาดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 514 เมื่อผู้ร้องเป็นผู้เข้าสู้ราคาเสนอราคาสูงสุด ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้ขายแก่ผู้ร้อง การขายทอดตลาดย่อมบริบูรณ์ แม้จำเลยจะได้อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้ขายทอดตลาดทรัพย์สินของจำเลย และศาลชั้นต้นได้อนุญาตให้ผู้ร้องไม่ต้องวางเงินส่วนที่ค้างชำระกับคืนเงินที่ผู้ร้องได้วางไว้ต่อศาลให้แก่ผู้ร้องนั้น ก็มีผลเพียงผู้ร้องยังไม่ต้องใช้ราคาค่าซื้อทรัพย์จนกว่าคดีจะถึงที่สุดเท่านั้น หาเป็นเหตุให้ผู้ร้องพ้นความผูกพันในราคาสูงสุดที่ตนสู้ไม่ต่อมาเมื่อศาลฎีกาพิพากษายืนให้ขายทอดตลาดทรัพย์สินของจำเลยแก่ผู้ร้อง ผู้ร้องต้องใช้ราคาที่ค้างชำระอยู่ทั้งหมด เมื่อผู้ร้องละเลยเสียไม่ใช้ราคา จนศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เอาทรัพย์สินนั้นออกขายทอดตลาดใหม่ ถ้าได้เงินสุทธิไม่คุ้มราคาและค่าขายทอดตลาดชั้นเดิม ผู้ร้องต้องรับผิดในส่วนที่ขาดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 516.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3409/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายทอดตลาดไม่สมบูรณ์หากไม่มีการเคาะไม้ และศาลไม่สามารถตกลงราคากับผู้ซื้อเองโดยไม่เปิดให้สู้ราคาใหม่ได้
รายงานของเจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้เคาะไม้แสดงว่าตกลงขายทรัพย์ให้แก่ ท. ผู้ให้ราคาสูงสุด เพียงแต่ทำรายงานขอให้ศาลชั้นต้นพิจารณาว่าสมควรขายทรัพย์ในราคา 21,000 บาทหรือไม่ การขายทอดตลาดจึงยังไม่บริบูรณ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 509 การที่ศาลชั้นต้น เห็นว่า ท. ให้ราคาต่ำกว่าราคาประเมินแล้วเรียก ท.ไปตกลงเพิ่มราคาทรัพย์เป็น 40,000 บาทเป็นการที่ศาลชั้นต้นตกลงขายทรัพย์ให้แก่ ท.เองโดยไม่เปิดโอกาสให้ผู้แทนโจทก์หรือผู้อื่นเข้าสู้ราคา ไม่มีบทกฎหมายหรือระเบียบปฏิบัติให้ศาลชั้นต้นกระทำได้เช่นนั้น ถือไม่ได้ว่าเป็นการขายทอดตลาดโดยชอบด้วยกฎหมาย ใน กรณีเช่นนี้หากศาลชั้นต้นเห็นว่า ท.ให้ราคาน้อยไปยังไม่สมควรขาย ก็ต้องสั่งให้ ขายทอดตลาดใหม่เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3409/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายทอดตลาดไม่สมบูรณ์เมื่อไม่มีการเคาะไม้ตกลง และศาลมิอาจตกลงราคากับผู้ซื้อโดยไม่เปิดโอกาสให้สู้ราคาใหม่
รายงานของเจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ เคาะไม้แสดงว่าตกลงขายทรัพย์ให้แก่ ท. ผู้ให้ราคาสูงสุดเพียงแต่ ทำรายงานขอให้ศาลชั้นต้น พิจารณาว่าสมควรขายทรัพย์ในราคา 21,000 บาทหรือไม่การขายทอดตลาดจึงยังไม่บริบูรณ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 509 การที่ศาลชั้นต้น เห็นว่า ท.ให้ราคาต่ำกว่าราคาประเมินแล้วเรียกท.ไปตกลง เพิ่มราคาทรัพย์เป็น 40,000 บาทเป็นการที่ ศาลชั้นต้นตกลงขายทรัพย์ ให้แก่ท.เองโดยไม่เปิดโอกาส ให้ผู้แทนโจทก์หรือผู้อื่นเข้าสู้ราคา ไม่มีบทกฎหมาย หรือระเบียบปฏิบัติให้ศาลชั้นต้นกระทำได้เช่นนั้นถือไม่ได้ว่าเป็นการขายทอดตลาดโดยชอบด้วยกฎหมายใน กรณีเช่นนี้ หากศาลชั้นต้นเห็นว่าท.ให้ราคาน้อยไปยัง ไม่สมควรขายก็ต้องสั่งให้ ขายทอดตลาดใหม่เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1201/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการขายทอดตลาดต้องยื่นก่อนบังคับคดีเสร็จสิ้น การสู้ราคาเป็นข้อตกลงระหว่างคู่กรณี
จำเลยร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาด ต้องร้องก่อนการบังคับคดีเสร็จสิ้น มาร้องเมื่อขายและจ่ายเงินแก่โจทก์ไปแล้ว ขอเพิกถอนไม่ได้ โจทก์และภริยาโจทก์เข้าสู้ราคาได้ การที่มีข้อตกลงกันไว้ในการสู้ราคาอย่างไร ไม่ใช่เรื่องที่จะมาร้องให้ศาลเพิกถอนการขายทอดตลาด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1041/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายทอดตลาด: สิทธิของผู้สู้ราคา & ผลของการไม่ชำระราคาตามกำหนด
ในการขายทอดตลาดของศาล ว.ผู้รับมอบอำนาจจากจำเลยให้ราคาสูงสุด ช.ให้ราคารองลงมา ศาลสั่งอนุญาตให้ขายแก่ ว. ให้ ว.วางเงินมัดจำในวันนั้น หากไม่นำเงินมาวางก็เป็นอันยกเลิกไม่ขายให้ ว.และให้ขายแก่ ช. ให้ ช. วางมัดจำในวันที่กำหนดให้ ว. ขอผัดวางเงิน ศาลไม่อนุญาต ดังนี้ ศาลจะสั่งให้ขายให้แก่ ช. โดยมิได้ขายทอดตลาดใหม่หาได้ไม่ เพราะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 514 เมื่อ ว. ได้สู้ราคาสูงขึ้นไปกว่า ช. ช.ย่อมพ้นความผูกพันในราคาที่ตนสู้ และศาลก็ได้สั่งให้ขายให้ ว. เมื่อ ว. ไม่ชำระราคาตามกำหนด และศาลไม่อนุญาตให้ผัดการวางเงินออกไปอีก ว. จึงเป็นผู้สู้ราคาสูงสุดที่ได้ละเลยเสียไม่ใช้ราคา ศาลจะต้องเอาทรัพย์นั้นออกขายอีกซ้ำ ตามมาตรา 516 ถ้าได้เงินเป็นจำนวนสุทธิไม่คุ้มราคาและค่าขายทอดตลาดชั้นเดิม จำเลยโดย ว.ผู้รับมอบอำนาจจะต้องรับผิดในส่วนที่ขาดนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1041/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายทอดตลาด: ผู้สู้ราคาสูงสุดไม่ชำระเงิน ศาลต้องขายทอดตลาดใหม่ตามกฎหมาย
ในการขายทอดตลาดของศาล ว. ผู้รับมอบอำนาจจากจำเลยให้ราคาสูงสุด ช. ให้ราคารองลงมา ศาลสั่งอนุญาตให้ขายแก่ ว.ให้ว. วางเงินมัดจำในวันนั้น หากไม่นำเงินมาวางก็เป็นอันยกเลิกไม่ขายให้ ว. และให้ขายแก่ ช.ให้ ช. วางมัดจำในวันที่กำหนดให้ว. ขอผัดวางเงินศาลไม่อนุญาต ดังนี้ ศาลจะสั่งให้ขายให้แก่ ช. โดยมิได้ขายทอดตลาดใหม่หาได้ไม่เพราะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 514 เมื่อ ว. ได้สู้ราคาสูงขึ้นไปกว่า ช. ช. ย่อมพ้นความผูกพันในราคาที่ตนสู้ และศาลก็ได้สั่งให้ขายให้ ว. เมื่อ ว. ไม่ชำระราคาตามกำหนดและศาลไม่อนุญาตให้ผัดการวางเงินออกไปอีกว. จึงเป็นผู้สู้ราคาสูงสุดที่ได้ละเลยเสียไม่ใช้ราคาศาลจะต้องเอาทรัพย์นั้นออกขายอีกซ้ำ ตามมาตรา 516 ถ้าได้เงินเป็นจำนวนสุทธิไม่คุ้มราคาและค่าขายทอดตลาดชั้นเดิมจำเลยโดย ว. ผู้รับมอบอำนาจจะต้องรับผิดในส่วนที่ขาดนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1036/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายทอดตลาด: สิทธิของผู้สู้ราคาสูงสุดและการดำเนินการขายซ้ำเมื่อไม่ชำระราคาตามกำหนด
เมื่อ พ.ศ.2495 ย. สามีของจำเลยทำหนังสือจ้างโจทก์ให้ยกร่องสวนในที่ดินของ ย. ให้เสร็จภายใน 3 ปี และปลูกมะพร้าวกับคอยดูแล 5 ปี แล้วจะยกที่ดินตอนเหนือให้โจทก์ 3 ไร่ทำสัญญากันแล้วโจทก์ปลูกกระต๊อบอยู่ในที่ดินที่ตกลงกันไว้นี้ตลอดมา โจทก์ได้ปฏิบัติถูกต้องตามสัญญาแล้วเมื่อ พ.ศ.2499 ย. ได้ขอออกโฉนดที่ดินแปลงนี้ต่อมาเมื่อ พ.ศ.2507 ย. ได้ขอแบ่งแยกที่ดินด้านเหนือออกเป็นอีกโฉนดหนึ่งต่างหากมีเนื้อที่ 3 ไร่ เป็นการแสดงเจตนาว่าจะแบ่งแยกให้โจทก์ตามสัญญา การที่โจทก์อยู่ในที่ดินแปลงที่ตกลงกันนี้ตลอดมาโดย ย. ไม่ทักท้วงและไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องในที่ดินส่วนนี้นับแต่ครบกำหนดตามสัญญาทั้งยังได้ขอแบ่งแยกที่ดินเป็นอีกโฉนดหนึ่งต่างหากมีเนื้อที่ 3 ไร่ ตรงตามสัญญาเป็นการกระทำอันปราศจากเคลือบคลุมสงสัยตระหนักเป็นปริยายว่ายอมรับสภาพตามสิทธิเรียกร้องของโจทก์ตลอดมา อันเป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172 จนเมื่อก่อนโจทก์ฟ้องคดีนี้ราว 5 เดือน ย. ถึงแก่ความตายและจำเลยผู้เป็นทายาทปฏิเสธไม่ยอมรับรู้ ไม่ยอมโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้โจทก์ตามสัญญาเหตุที่ทำให้อายุความสะดุดหยุดลงนั้นจึงสิ้นสุดลง อายุความเริ่มนับใหม่ตั้งแต่นั้น ไม่ว่าจะเป็นอายุความ 10 ปี หรือ 2 ปี คดีโจทก์ก็ไม่ขาดอายุความในการฟ้องให้จำเลยโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1878/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายทอดตลาด: ศาลมีอำนาจสั่งประกาศขายใหม่ได้ แม้ผู้สู้ราคาสูงสุดยินยอม และยังไม่มีสัญญาซื้อขายผูกพัน
ในการขายทอดตลาดทรัพย์ตามคำสั่งศาลเมื่อผู้สู้ราคาเสนอราคาสูงสุดแล้ว เจ้าพนักงานบังคับคดียังมิได้ตกลงด้วยโดยลำพัง แต่ได้รายงานต่อศาลเพื่อให้ศาลพิจารณาอีกชั้นหนึ่งว่าสมควรจะตกลงขายให้แก่ผู้สู้ราคาสูงสุดหรือไม่ดังนี้ การขายทอดตลาดยังไม่บริบูรณ์ ครั้นเมื่อศาลสั่งให้ประกาศขายใหม่ และเจ้าพนักงานบังคับคดีก็ดำเนินการตามคำสั่งแล้ว ก็แสดงอยู่ในตัวว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีถอนทรัพย์รายนี้ จากการขายทอดตลาดครั้งนั้นเสียแล้ว ผู้สู้ราคาสูงสุดจึงไม่มีสิทธิที่จะขอให้ขายแก่ตนตามราคาที่ตนได้เสนอไว้นั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3591/2559

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้สู้ราคาสูงสุดไม่ชำระเงินตามสัญญา ศาลสั่งให้รับผิดในส่วนต่างตามกฎหมาย
การที่จำเลยผู้สู้ราคาสูงสุดในการขายทอดตลาดชั้นเดิมละเลยไม่ใช้ราคาซื้อทรัพย์ตามหนังสือสัญญาซื้อขายที่จำเลยทำไว้ต่อเจ้าพนักงานบังคับคดี จนเจ้าพนักงานบังคับคดีต้องขายทอดตลาดอีกซ้ำหนึ่ง และได้เงินเป็นจำนวนสุทธิไม่คุ้มราคาและค่าขายทอดตลาดชั้นเดิมนั้น จำเลยผู้สู้ราคาเดิมต้องรับผิดในส่วนที่ขาดตาม ป.พ.พ. มาตรา 516 และการกระทำของจำเลยดังกล่าวถือได้ว่าเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในอันที่จะได้รับชำระหนี้ในจำนวนเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดตาม ป.วิ.พ. มาตรา 55 โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลย
การที่จำเลยเป็นผู้ประมูลซื้อทรัพย์ได้จากการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีในครั้งแรกและต้องรับผิดในส่วนราคาที่ขาดตาม ป.พ.พ. มาตรา 516 ดังกล่าว จำเลยจึงเป็นผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีตาม ป.วิ.พ. มาตรา 296 วรรคสอง และมาตรา 309 ทวิ ในอันที่จะโต้แย้งคัดค้านการขายทอดตลาดครั้งใหม่ได้หากดำเนินการไปโดยไม่ชอบ เมื่อจำเลยไม่มาดูแลการขายโดยยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดครั้งใหม่อ้างว่าการขายทอดตลาดครั้งใหม่นี้ดำเนินการไปโดยไม่ชอบด้วยเหตุผลใด และไม่ได้คัดค้านว่าการที่โจทก์ซื้อทรัพย์รายพิพาทจากการขายทอดตลาดครั้งใหม่ในราคา 4,440,000 บาท เกิดจากการคบคิดกันฉ้อฉลในระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้องในการสู้ราคาหรือความไม่สุจริตหรือความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของเจ้าพนักงานบังคับคดีในการปฏิบัติหน้าที่ เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีใช้ดุลพินิจแล้วเห็นว่าเป็นราคาที่สมควรขายได้และเป็นอำนาจของเจ้าพนักงานบังคับคดีที่จะเคาะไม้ขายให้แก่โจทก์ผู้เสนอราคาสูงสุดในการขายทอดตลาดครั้งใหม่นี้ การขายทอดตลาดครั้งใหม่จึงเป็นการดำเนินการไปโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว จำเลยต้องรับผิดในส่วนต่างที่ขาดจำนวน 8,760,000 บาท ซึ่งการที่จำเลยต้องรับผิดในส่วนต่างที่มีจำนวนมากเพียงนั้นก็เกิดจากจำเลยเองด้วยที่เสนอราคาสูงสุดในครั้งก่อนสูงถึง 13,200,000 บาท ทั้ง ๆ ที่ราคาประเมินทรัพย์รายพิพาทของเจ้าพนักงานบังคับคดีมีเพียง 8,870,000 บาท โจทก์ใช้สิทธิฟ้องให้จำเลยรับผิดในส่วนต่างคดีนี้เป็นการใช้สิทธิโดยสุจริตแล้ว
of 4