พบผลลัพธ์ทั้งหมด 26 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2217/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประกัน - การผิดสัญญาต้องมีเจตนา การเจ็บป่วยเป็นเหตุจำเป็นที่สมควร
แม้สัญญาประกันที่ทำไว้ต่อศาลจะระบุไว้ว่านายประกันหรือจำเลยจะปฏิบัติตามนัดของศาลหากผิดสัญญาศาลมีอำนาจบังคับให้นายประกันใช้เบี้ยปรับเต็มตามจำนวนในสัญญาก็ตามแต่การที่จะถือว่านายประกันหรือจำเลยผิดสัญญานั้น จะต้องได้ความว่านายประกันหรือจำเลยจงใจที่จะไม่ปฏิบัติตามนัดหาใช่ว่าเมื่อจำเลยไม่มาศาลตามที่ศาลนัดไม่ว่าเพราะมีความจำเป็นอันมิอาจก้าวล่วงหรือมีอุปสรรคขัดข้องสักเท่าใดก็ต้องถือว่านายประกันผิดสัญญาไปทั้งนั้น
การเจ็บป่วยเป็นเหตุจำเป็นที่มิอาจก้าวล่วงได้ประการหนึ่งที่มีเหตุผลเพียงพอที่จำเลยจะขอเลื่อนคดีเพราะไม่สามารถมาศาลได้
การเจ็บป่วยเป็นเหตุจำเป็นที่มิอาจก้าวล่วงได้ประการหนึ่งที่มีเหตุผลเพียงพอที่จำเลยจะขอเลื่อนคดีเพราะไม่สามารถมาศาลได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2746/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอเลื่อนคดีเนื่องจากความเจ็บป่วยของทนาย ไม่ถือเป็นการประวิงคดีหากมีใบรับรองแพทย์
ในวันนัดสืบพยานจำเลยครั้งแรก ทนายโจทก์ขอเลื่อนคดีเพราะตนป่วยในวันนัดสืบพยานจำเลยครั้งที่สองทนายโจทก์ขอเลื่อนคดีอีกเพราะตนป่วยไม่สามารถว่าความได้ และมีใบรับรองแพทย์แนบมาพร้อมกับคำร้อง แม้ในวันนัดสืบพยานจำเลยครั้งแรกศาลจะได้กำชับฝ่ายโจทก์ว่าจะไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีอีกไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ แต่การเลื่อนคดีของทนายโจทก์ครั้งหลังนี้เป็นเพราะความป่วยเจ็บ โดยมีใบรับรองแพทย์มาแสดงเป็นหลักฐานทนายจำเลยก็มิได้คัดค้านว่าไม่เป็นความจริง คงคัดค้านแต่ว่าการขอเลื่อนคดีของทนายโจทก์ ทำให้คดีชักช้า เพราะพยานจำเลยมาศาลพร้อมแล้ว ดังนี้ ยังไม่เป็นเหตุพอที่จะถือว่าทนายโจทก์เจตนาประวิงคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1265/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผิดนัดชำระหนี้ตามสัญญาประนีประนอม การอ้างเหตุสุดวิสัยไม่สมเหตุผล
ตามสัญญาประนีประนอมยอมความที่โจทก์จำเลยตกลงกันในศาล ได้กำหนดเวลาที่จำเลยจะต้องชำระหนี้ไว้ตามวันแห่งปฏิทินเมื่อจำเลยมิได้ชำระหนี้ตามกำหนด จึงได้ชื่อว่าผิดนัดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 204 โจทก์ขอให้ศาลบังคับคดีได้ทันที ข้อที่จำเลยอ้างว่ามีกิจธุระจำเป็นต้องไปต่างจังหวัดและเกิดเจ็บป่วยระหว่างทาง จึงไม่สามารถชำระหนี้ให้ทันตามกำหนดนั้น ก็ไม่ปรากฏในคำร้องว่าจำเลยเจ็บป่วยขนาดไหน เพราะการป่วยเป็นไข้และความดันโลหิตสูงในกรณีปกติก็เดินทางกันได้ ที่จำเลยอ้างว่าเดินทางต่อมาไม่ได้ จึงไม่พอรับฟัง ถือไม่ได้ว่าเป็นพฤติการณ์ที่จำเลย ไม่ต้องรับผิดชอบตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 205
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 529/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งเจ็บป่วยเพื่อหลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร: ความรับผิดทางอาญา
จำเลยเป็นทหารกองเกินได้รับหมายเรียกให้ไปให้คณะกรรมการตรวจคัดเลือกเข้ารับราชการทหาร ถึงวันคัดเลือกจำเลยป่วย จึงให้บิดาไปแจ้งต่อคณะกรรมการแทน ด้วยความเข้าใจผิดของบิดา ได้ไปแจ้งต่อสัสดีอำเภอโดยเชื่อว่าเป็นบุคคลที่ควรรับแจ้ง แม้ความจริงจะปรากฏว่าสัสดีอำเภอมิใช่กรรมการคัดเลือกก็ตาม ก็ไม่ใช่ความผิดของจำเลยจึงเอาผิดแก่จำเลยฐานหลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหารไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1340/2558
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการอยู่อาศัยของภริยาในบ้านพิพาทเมื่อสามีเจ็บป่วย และเจ้าของรวมคนอื่นไม่มีสิทธิขับไล่
โจทก์ที่ 2 กับจำเลยเป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฎหมายและอยู่กินฉันสามีภริยาที่บ้านพิพาทจนกระทั่งโจทก์ที่ 2 ล้มป่วยลงด้วยโรคหลอดเลือดในสมองตีบ เมื่อพิจารณาถึงความสัมพันธ์ระหว่างสามีภริยาตาม ป.พ.พ. มาตรา 1461 โจทก์ที่ 2 กับจำเลยต้องอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยาและต้องช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูกันตามความสามารถและฐานะของตน ซึ่งหมายความรวมถึงการดูแลทุกข์สุขและความเจ็บป่วยซึ่งกันและกัน การอยู่ร่วมกันในบ้านพิพาทจึงเป็นปัจจัยสำคัญอันหนึ่งที่ทำให้โจทก์ที่ 2 กับจำเลยสามารถปฏิบัติหน้าที่ในฐานะสามีภริยาต่อกัน เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยมีพฤติการณ์ส่อไปในทางไม่สมัครใจที่จะดูแลโจทก์ที่ 2 การให้จำเลยออกไปจากที่ดินและบ้านพิพาทย่อมเป็นอุปสรรคขัดขวางทำให้จำเลยไม่สามารถดูแลโจทก์ที่ 2 ได้ เมื่อโจทก์ที่ 2 เป็นเจ้าของร่วมคนหนึ่งในที่ดินและบ้านพิพาท ย่อมมีสิทธิที่จะใช้สอยและอยู่อาศัยได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1360 จำเลยในฐานะภริยาของโจทก์ที่ 2 ก็ย่อมมีสิทธิที่จะอยู่อาศัยในที่ดินและบ้านพิพาทเช่นกัน หากจำเลยมีพฤติกรรมกระทำการอันเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยากันอย่างไร ก็ชอบที่โจทก์ที่ 2 จะใช้สิทธิฟ้องหย่าเป็นคดีต่างหาก โจทก์ที่ 2 จึงไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลย
ส่วนโจทก์ที่ 1 กับโจทก์ที่ 3 ถึงที่ 5 ซึ่งเป็นเจ้าของรวมจะใช้สิทธิของตนให้ขัดต่อสิทธิของเจ้าของรวมคนอื่นไม่ได้ จำเลยในฐานะภริยามีสิทธิพักอาศัยในที่ดินและบ้านพิพาทโดยอาศัยสิทธิของโจทก์ที่ 2 ซึ่งเป็นเจ้าของรวมคนหนึ่ง โจทก์ที่ 1 กับโจทก์ที่ 3 ถึงที่ 5 จึงไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยด้วยเช่นกัน
ส่วนโจทก์ที่ 1 กับโจทก์ที่ 3 ถึงที่ 5 ซึ่งเป็นเจ้าของรวมจะใช้สิทธิของตนให้ขัดต่อสิทธิของเจ้าของรวมคนอื่นไม่ได้ จำเลยในฐานะภริยามีสิทธิพักอาศัยในที่ดินและบ้านพิพาทโดยอาศัยสิทธิของโจทก์ที่ 2 ซึ่งเป็นเจ้าของรวมคนหนึ่ง โจทก์ที่ 1 กับโจทก์ที่ 3 ถึงที่ 5 จึงไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยด้วยเช่นกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5419/2550
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุสุดวิสัยในการขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์: การเจ็บป่วยและการดำเนินการโดยผู้อื่น
โจทก์ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์หลังจากที่ครบกำหนดระยะเวลาอุทธรณ์แล้ว จึงเป็นกรณีที่โจทก์มิได้ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์ก่อนสิ้นระยะเวลาอุทธรณ์ โจทก์จะยื่นคำร้องดังกล่าวได้ต้องเป็นกรณีที่มีเหตุสุดวิสัย ซึ่งเหตุสุดวิสัยตาม ป.วิ.พ. มาตรา 23 ประกอบ ป.วิ.อ. มาตรา 15 นั้น หมายถึงเหตุที่ทำให้ศาลไม่สามารถมีคำสั่งให้ขยายระยะเวลาหรือคู่ความไม่สามารถมีคำขอเช่นนั้นขึ้นมาก่อนสิ้นระยะเวลาที่กฎหมายให้ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นพฤติการณ์นอกเหนือที่จะกระทำได้ก่อนสิ้นระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้
หากโจทก์เจ็บป่วยจนไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้จริง โจทก์อาจให้ภริยาของโจทก์ซึ่งเป็นผู้ดูแลโจทก์ในขณะเจ็บป่วยตามที่โจทก์อ้างในฎีกาเป็นผู้ติดต่อทนายความของโจทก์ซึ่งมีอำนาจอุทธรณ์เพื่อยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ก่อนสิ้นระยะเวลายื่นอุทธรณ์หรือยื่นอุทธรณ์ภายในกำหนดเวลายื่นอุทธรณ์ได้ เพราะระยะเวลาดังกล่าวมีเวลาถึง 1 เดือนนับแต่วันที่ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาให้โจทก์ฟัง ซึ่งเป็นระยะเวลานานพอสมควรที่โจทก์จะดำเนินการได้ทันทีตามกำหนด ข้ออ้างในฎีกาของโจทก์จึงมิใช่เหตุสุดวิสัย ส่วนข้ออ้างตามคำร้องของโจทก์ที่ว่าโจทก์ถูกฟ้องขับไล่และทนายความของโจทก์อยู่ต่างจังหวัดก็มิใช่เหตุสุดวิสัยเช่นกัน
หากโจทก์เจ็บป่วยจนไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้จริง โจทก์อาจให้ภริยาของโจทก์ซึ่งเป็นผู้ดูแลโจทก์ในขณะเจ็บป่วยตามที่โจทก์อ้างในฎีกาเป็นผู้ติดต่อทนายความของโจทก์ซึ่งมีอำนาจอุทธรณ์เพื่อยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ก่อนสิ้นระยะเวลายื่นอุทธรณ์หรือยื่นอุทธรณ์ภายในกำหนดเวลายื่นอุทธรณ์ได้ เพราะระยะเวลาดังกล่าวมีเวลาถึง 1 เดือนนับแต่วันที่ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาให้โจทก์ฟัง ซึ่งเป็นระยะเวลานานพอสมควรที่โจทก์จะดำเนินการได้ทันทีตามกำหนด ข้ออ้างในฎีกาของโจทก์จึงมิใช่เหตุสุดวิสัย ส่วนข้ออ้างตามคำร้องของโจทก์ที่ว่าโจทก์ถูกฟ้องขับไล่และทนายความของโจทก์อยู่ต่างจังหวัดก็มิใช่เหตุสุดวิสัยเช่นกัน