พบผลลัพธ์ทั้งหมด 36 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1223/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขโทษในศาลอุทธรณ์เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ไม่อุทธรณ์ฎีกาในข้อเท็จจริงได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย 3 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะโทษเป็นจำคุก 1 ปี 6 เดือน ดังนี้เป็นการแก้น้อย ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 17/2502)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 909/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขโทษที่หนักขึ้นโดยศาลอุทธรณ์ถือเป็นการแก้ไขเล็กน้อย ไม่อุทธรณ์ในข้อเท็จจริงได้
คดีที่ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องกับศาลชั้นต้นว่าจำเลยมีความผิดตามกฎหมายบทเดียวกันเป็นแต่ใช้ดุลพินิจในการลงโทษหนักขึ้นและลดโทษฐานปราณีน้อยลงแต่ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 5 ปีดังนี้ เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 816/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขโทษจำคุกในสำนวนควบ การฎีกาต้องห้ามตาม ป.วิ.อาญา ม.218 หากเป็นการแก้ไขเล็กน้อย
จะนับโทษต่อให้หรือไม่นั้นเป็นดุลยพินิจของศาล
เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะในข้อที่ให้นับโทษจำคุกจำเลยสองสำนวนควบกันไปโดยไม่นับโทษติดต่อกันนั้นเป็นการแก้ไขเล็กน้อยต้องห้ามมิให้ฎีกาตาม ป.วิ.อาญา ม.218
เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะในข้อที่ให้นับโทษจำคุกจำเลยสองสำนวนควบกันไปโดยไม่นับโทษติดต่อกันนั้นเป็นการแก้ไขเล็กน้อยต้องห้ามมิให้ฎีกาตาม ป.วิ.อาญา ม.218
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 816/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับโทษจำคุกควบกันหรือไม่ เป็นดุลพินิจศาลอุทธรณ์ ฎีกาต้องห้ามหากเป็นการแก้ไขเล็กน้อย
จะนับโทษต่อให้หรือไม่นั้นเป็นดุลพินิจของศาล
เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะในข้อที่ให้นับโทษจำคุกจำเลยสองสำนวนควบกันไปโดยไม่นับโทษติดต่อกันนั้นเป็นการแก้ไขเล็กน้อยต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะในข้อที่ให้นับโทษจำคุกจำเลยสองสำนวนควบกันไปโดยไม่นับโทษติดต่อกันนั้นเป็นการแก้ไขเล็กน้อยต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 535/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ที่ถือเป็นการแก้ไขเล็กน้อย ทำให้ฎีกาไม่รับเนื่องจากข้อจำกัดเรื่องทุนทรัพย์
ที่พิพาทหลายแปลงอยู่ติดต่อภายในวงอันเดียวกันการที่ศาลชั้นต้นยกฟ้องบางส่วนและให้โจทก์ชนะบางส่วนแต่ศาลอุทธรณ์แก้เป็นให้ยกฟ้องเสียทั้งหมด เช่นนี้เป็นการแก้ไขเล็กน้อย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 592/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องห้ามเมื่อศาลอุทธรณ์แก้ไขเล็กน้อยในประเด็นข้อเท็จจริง ทำให้จำเลยไม่สามารถอุทธรณ์ข้อเท็จจริงเดิมได้
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากที่ดิน 2 แปลงอันมีราคา 1,500 บาทศาลชั้นต้นพิพากษาว่าที่ดินแปลงหนึ่งเป็นของจำเลย ให้ขับไล่จำเลยออกจากที่อีกแปลงหนึ่ง ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าที่ดินทั้งหมดเป็นของโจทก์ ให้ขับไล่จำเลย จำเลยฎีกาและตั้งทุนทรัพย์ที่ดินที่ศาลชั้นต้นฟังว่าเป็นของจำเลยราคา 700 บาท ดังนี้ ศาลอุทธรณ์แก้ไขเล็กน้อย จำเลยฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 556/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 เนื่องจากเป็นการแก้ไขเล็กน้อย
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยร่นเขยิบเสาเรือนต้นสุดท้ายริมน้ำเข้าไปในที่ดินของจำเลย 2 ศอก และห้ามมิให้จำเลยเกี่ยวข้องขัดขวางโจทก์ที่จะใช้สิทธิบนเส้นทางเดินต่อไป ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำเลยรื้อถอนเสาเรือนและสิ่งกีดขวางเปิดทางให้ได้ความกว้าง 1 วา 22 นิ้ว ให้จำเลยทำทางทำสะพานให้เป็นไปตามสภาพเดิม ดังนี้ เป็นการแก้ไขเล็กน้อยฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 293/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดการฎีกาในคดีที่มีทุนทรัพย์น้อย ศาลอุทธรณ์แก้ไขเล็กน้อยฎีกาไม่ได้
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากที่ดินของโจทก์ 2 โฉนด ราคา 400 บาท ศาลชั้นต้นพิพากษาขับไล่จำเลยตามฟ้องแต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า ที่ดินเป็นของโจทก์เพียงโฉนดเดียวอีกโฉนดหนึ่ง จำเลยครอบครองมาจนได้กรรมสิทธิ์แล้ว ดังนี้ถือว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขเล็กน้อยฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 914/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกห้างหุ้นส่วนสามัญและการตั้งผู้ชำระบัญชี: ศาลอุทธรณ์แก้ไขเล็กน้อยไม่อุทธรณ์ข้อเท็จจริงได้
ฟ้องขอให้แสดงว่าห้างหุ้นส่วนเลิกกันและขอให้ตั้งผู้ชำระบัญชีนั้นเป็นคดีขอให้ปลดเปลื้องทุกข์กำหนดเป็นราคาเงินมิได้ เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขศาลชั้นต้นเพียงเล็กน้อย จะฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 เป็นหุ้นส่วนขอให้ชำระบัญชีจำเลยที่ 1 ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นหุ้นส่วน และว่าเป็นเจ้าของโรงมหรสพแต่ผู้เดียวเมื่อได้ความตามทางพิจารณาว่าจำเลยครอบครองโรงมหรสพในฐานะเป็นผู้จัดการของหุ้นส่วนก็เป็นการสมควรที่จะต้องกล่าวคำวินิจฉัยให้แจ้งชัดตามประเด็นข้อต่อสู้ของจำเลยเองว่า จำเลยครอบครองในฐานะอันใดการกล่าวคำวินิจฉัยเช่นนี้หาใช่เป็นการวินิจฉัยเกินประเด็นไม่
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลแสดงว่าห้างหุ้นส่วนสามัญเลิกกันและให้ตั้งผู้ชำระบัญชี ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าห้างหุ้นส่วนเลิกกันแล้วทรัพย์สินของหุ้นส่วนเป็นกรรมสิทธิ์รวมจึงให้บังคับคดีตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1364 โดยให้จัดการประมูลขายหรือขายทอดตลาดทรัพย์สิน แบ่งให้ผู้ถือหุ้นตามส่วนศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า ให้ตั้งผู้ชำระบัญชีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1061,1062,1063 ดังนี้ถือว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขศาลชั้นต้นแต่เพียงเล็กน้อย
ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 เป็นหุ้นส่วนขอให้ชำระบัญชีจำเลยที่ 1 ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นหุ้นส่วน และว่าเป็นเจ้าของโรงมหรสพแต่ผู้เดียวเมื่อได้ความตามทางพิจารณาว่าจำเลยครอบครองโรงมหรสพในฐานะเป็นผู้จัดการของหุ้นส่วนก็เป็นการสมควรที่จะต้องกล่าวคำวินิจฉัยให้แจ้งชัดตามประเด็นข้อต่อสู้ของจำเลยเองว่า จำเลยครอบครองในฐานะอันใดการกล่าวคำวินิจฉัยเช่นนี้หาใช่เป็นการวินิจฉัยเกินประเด็นไม่
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลแสดงว่าห้างหุ้นส่วนสามัญเลิกกันและให้ตั้งผู้ชำระบัญชี ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าห้างหุ้นส่วนเลิกกันแล้วทรัพย์สินของหุ้นส่วนเป็นกรรมสิทธิ์รวมจึงให้บังคับคดีตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1364 โดยให้จัดการประมูลขายหรือขายทอดตลาดทรัพย์สิน แบ่งให้ผู้ถือหุ้นตามส่วนศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า ให้ตั้งผู้ชำระบัญชีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1061,1062,1063 ดังนี้ถือว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขศาลชั้นต้นแต่เพียงเล็กน้อย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 126/2483
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขโทษในศาลอุทธรณ์ที่ไม่ทำให้ฐานความผิดเปลี่ยนไป ถือเป็นการแก้ไขเล็กน้อย ไม่รับฎีกาในข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นให้จำคุก 2 ปี ตามมาตรา 298 ศาลอุทธรณ์แก้ให้จำคุก 3 ปี ตามมาตรา 299 เป็นแก้ไขเล็กน้อย ฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้